เจ้าของร่างกลมกลึงสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวยาวพ้นโคนขาอ่อนมาเพียงคืบ เจ้าหล่อนเดินหน้ามุ่ยลงน้ำหนักเท้าปึงปังอ้อมมาทางห้องโถงใหญ่ ในมือเจ้าหล่อนมีแก้วทรงสูงบรรจุน้ำสีอำพันดีกรีแรง รุ้งแก้วกระดกเข้าปากเพียงรวดเดียว หวังให้มันช่วยระงับโทสะเดือดดาลให้มันเบาบางลงบ้าง ไม่มากก็น้อย...
เมื่อสักครู่เธอเพิ่งวางสายจากเลขาส่วนตัว หลังจากตัดสินใจเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้งาน...
ทันทีที่ได้เห็นข้อความนับร้อย จึงรู้ได้ทันที...แม่เธอต้องขึ้นมาอาละวาดกับดาหวั่น เรื่องโครงการเปิดตัวเมื่อวานนี้แน่ ก็เธอดันหายหัวต๋อมไม่ยอมเข้าร่วมงานเลี้ยงเปิดตัว นักข่าวคงสงสัยและถามเอากับแม่ซึ่งห่วงหน้าตาตนเองเป็นที่สุด...
หากก็สะใจเธอพิลึก...ใครเล่าอยากจะไปเห็นหน้าบานเป็นจานเชิงของคนที่ตนเองเกลียดจนเข้าไส้บ้าง ธิดารัตน์คงได้รับความดีความชอบไปแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนเธอกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ในสายตาของทุกคนอีกตามเคย...
ดังนั้นเธอจึงโทรกลับหาหมายเลขดังกล่าวแต่ไม่ยอมโทรกลับหามารดา ก่อนได้รับรายงานถึงบางประโยคที่มารดาฝากมาบอกแก่เธอ ถ้าหากเธอไม่ยอมโทรติดต่อท่านกลับภายในวันนี้ ท่านจะตัดเธอขาดกับเธอชนิดจริงจังเสียด้วย...
“มันเป็นเรื่องบ้าสิ้นดี นึกหรือว่าเราจะกลัวตามคำขู่บ้าบอนั่นหรือไง”
คนไม่กลัวกระแทกร่างสมส่วนลงนั่งบนโซฟาแบบยาว แก้วเปล่าในมือถูกปาลงพื้นตามโทสะคุกรุ่น ก่อนสะโพกงอนงามนั่งแหมะลงบนตักแกร่ง เจ้าของตักกำลังนั่งเหยียดขายาวเอนหลังพิงกับพนักวางแขน
แดนดินขยับกายนั่งในท่าสบายมากขึ้นพร้อมดึงสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยม บนภาพหน้าจอกำลังฉายข่าวสังคม แน่นอนมันเป็นข่าวการเปิดตัวโครงยักษ์ใหญ่ของบริษัท ราฟิวกู๊ด เอ็นจิเนียริ่งจำกัดพอดี...
ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก... ความบังเอิญที่เขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น อดรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของรุ้งแก้วขึ้นมาครามครันแดนดินจึงเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว เขารู้...เจ้าหล่อนคงไม่ปรารถนารับรู้ถึงสิ่งนี้เท่าไร่นัก ภาพข่าวแช่นิ่ง หยุดตรงการสัมภาษณ์ธิดารัตน์ถึงตัวโครงการเสียด้วยสิ
ชายหนุ่มลอบสังเกตดวงหน้าหวาน พร้อมรั้งเอวคอดกิ่วมาสวมกอดไว้หลวมๆ วางปลายคางสากไว้บนบ่าบอบบาง กดปลายจมูกสูดดมแก้มหอมนวล...
“คุณรุ้งอารมณ์ไม่ดีอีกแล้วหรือครับ...ไม่สบายใจเรื่องอะไร พอจะบอกผมได้หรือเปล่า”
รุ้งแก้วเม้มกลีบปาก รีบโน้มกายหยิบรีโมททีวีมากดปิดหน้าจอ...
“อย่าสนใจเลย ฉันบอกแล้ววันนี้ฉันจะสนุกกับนายให้สุดเหวี่ยง ฉันจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
รุ้งแก้วปัดความรู้สึกร้อนรุ่มทั้งหมดทิ้ง เบียดกายสาวเข้ากระแซะกายแกร่งเปลือยเปล่า แดนดินนอนล่อนจ้อนไม่ได้สวมใส่อะไรตามที่เธอต้องการ ความเป็นเขานอนซบต้องกึ่งกลางลำตัว มันกำลังขยับตามแรงหายใจเข้าออก...
เธอช้อนวงหน้าแดงระเรื่อขึ้นมองใบหน้าคมคาย แดนดินจัดเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาอย่างหาตัวจับอยากคนหนึ่งก็ว่าได้ หลายครั้งเขามักทำให้เธอจิตใจไม่สงบ คอยคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา แถมยังไม่พอใจทุกครั้งยามเห็นเขาใกล้ชิดกับผู้หญิงอื่น เป็นสัญญาณเตือนให้เธอต้องรีบจัดการกับความรู้สึกนี้เสีย เฝ้าตอกย้ำให้พึงระวังหัวใจตัวเอง เธอต้องกดผู้ชายคนนี้ให้อยู่ลึกสุดของหัวใจ ห้ามคิดลึกซึ้งเกินเลยกว่านั้นเด็ดขาด...
หญิงสาวส่งสายตาหว่านเสน่ห์ ร้ายลึก วางมือนุ่มทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกอุดมด้วยมัดกล้ามแข็งแรง จัดการลูบไล้มันแผ่วเบา เป็นการจุดไฟสิเน่หาให้ลุกฮือ...
“บางครั้งการได้ทำอะไรแบบนี้ มันก็สนุกไปอีกแบบ”
“อา...”
แดนดินครางรับเสียงต่ำพร่า นัยน์ตาสีสนิมอ่อนเชื่อมลง เขาเพิ่งได้หยุดพักจากเพลิงร้อนแห่งไฟพิศวาสไปเมื่อสักครู่นี้แท้ๆ ตรงโซฟาตัวนี้เองด้วยซ้ำ หากทว่าตอนนี้หญิงสาวคนเดิม รสชาตินุ่มลิ้นเหมือนเดิม กำลังจะจุดไฟร้อนภายในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้ง...
ผู้หญิงอะไรร้อนแรงชะมัด...
“คุณรุ้งกำลังทำให้ผมร้อน...”
แดนดินจงใจเสียดสีความร้อนระอุลงกับผิวแก้มก้น เอ็นร้ายเริ่มขยายพองตัวจนแลเห็นเส้นเลือดปูดโปน รุ้งแก้วเลียกลีบปากคว้าหมับกับความร้อนท่อนล่าง รูดมือขึ้นลงด้วยจังหวะเนิบช้า สร้างความเสียวซ่านจนร่างชายหนุ่มเกร็งตัวขึ้นขนัด แดนดินซูดปากเสียงดังซี๊ดซ๊าด แหงนศีรษะพิงลงกับพนักเบาะสีครีม ต้อนรับความสุขอิ่มเอมที่เขากำลังได้รับจากอุ้งมือน้อยๆของสาวที่ตนมอบหัวใจให้ได้มากที่สุด เท่าที่เจ้าหล่อนจะเมตตา...
“อืม...” ยิ่งกว่าได้กินของเผ็ดร้อนเข้าไปเสียอีก แดนดินคร่ำครวญ
“เสียวครับคุณรุ้ง...”
“ขนาดนี้แล้ว...นายคงพร้อมสำหรับฉันแล้วสินะ...”
“ผมพร้อมยิ่งกว่าพร้อมอีกครับ ครอบลงมาบนตักผมได้เลย...”
พอจบประโยคชวนวาบหวาม รุ้งแก้วเป็นฝ่ายดันสะโพกจนลอยหวือ เหวี่ยงปลายเท้าขึ้นเหยียบพื้นโซฟานุ่ม กระดกก้นขึ้นคร่อมหน้าตักแข็งแรง พลางกดความฉ่ำชื้นจากน้ำรักไหลซึมครอบเอ็นขนาดใหญ่เสียจนมิดทั้งแท่ง ของเคยๆกันมาหลายต่อหลายครั้ง ไม่มีอะไรยากเย็นอยู่แล้ว...
“อืม...อา...”
หลังจากนั้น สองเสียงต่างร้องประสานกันระงม ดูท่าแล้ว คงไม่มีใครยอมน้อยหน้าใครเสียด้วย...
------------------------------------