"มึงมานั่งทำไรตรงนี้?"
"วอร์ม" ฉันเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เพิ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะตอบอย่างเซ็งๆ
"เป็นไรวะ"
"เปล่า" ฉันปฏิเสธวอร์มไปนิ่งๆ
"เรื่องไอ้เสืออีกแล้วดิ"
"แล้วนี่มึงยังไม่กลับอีกเหรอ?" ฉันแกล้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดถึงไอ้ห่านั่นให้อารมณ์เสียเปล่าๆ
"จริงๆ ก็กลับละ...แต่ไอ้เสือมันโทรมาบอกว่าให้เอามึงกลับด้วยกูเลยวนมารับ"
"กูกลับเองได้น่า ไม่เห็นต้องลำบากเลย"
วอร์มมันเดินมาแตะบ่าฉัน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองวอร์มอีกรอบ
"กูบอกแล้วไงว่าให้ตัดใจจากมัน"
ใช่แล้ว! วอร์มรู้ว่าฉันแอบรักเสือ มันเป็นคนเดียวที่รู้นอกจากนั้นก็ไม่มีใครรู้อีกเพราะฉันไม่เคยบอกใคร ที่วอร์มมันรู้ก็เพราะว่ามันสนิทกับฉันมากที่สุดในกลุ่มมันจึงดูออก และฉันเองก็ไว้ใจมันที่สุดในกลุ่ม ฉันถึงยอมบอกมัน
ฉันแอบชอบเสือตั้งแต่ปี1แล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยแหละ แต่ว่าพอเสือมันได้เจอพลอยใสมันก็ดันไปชอบพลอยใส เสือมันเคยขอให้ฉันช่วยจีบพลอยใสด้วยนะแต่ว่าพลอยใสไม่รู้ตัวแถมตอนนั้นพลอยมันก็ชอบพี่เดย์อยู่ด้วย ไอ้เสือก็เลยกินแห้วไปตามระเบียบ
เวลาที่มันมีเรื่องอะไรกลุ้มใจเกี่ยวกับพลอยมันก็มักจะมาปรึกษาฉันตลอด ฉันก็เจ็บนะที่ต้องมาคอยรับฟังอะไรแบบนี้แต่พอเจอมากๆ เข้าฉันก็เริ่มทำใจให้ชิน แต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี!
พูดไปก็เศร้า ใช่ว่าฉันไม่เคยพยายามจะบอกเสือว่าฉันรู้สึกยังไงกับมัน ฉันเคยบอกเป็นนัยๆ กับมันไปแล้วแต่มันก็ไม่เข้าใจ แถมยิ่งเราสนิทกับมันมากขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งพูดลำบากขึ้น เพื่อนยังไงก็คือเพื่อนจะให้เลื่อนมาเป็นแฟนมันคงยาก
ฉันกลัวว่าถ้าเกิดพูดไปตรงๆ แล้วเสือมันไม่ได้รู้สึกเหมือนฉันมันจะอึดอัดแล้วก็มองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ ฉันรู้ดีว่าไอ้เสือมันไม่ได้ชอบฉัน ไอ้นี่มันเสือผู้หญิงจะตายมันไม่เคยสนใจเพื่อนอย่างฉันเลย ถ้าบอกไปมันเลิกคบฉันแน่
ฉันจึงเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่เคยบอกให้มันรู้ ขอแค่ให้ได้อยู่ข้างๆ มันเป็นเพื่อนมันแบบนี้ฉันก็พอใจแล้วดีกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันเลย!
"ถ้ามันทำได้ง่ายๆ ก็ดีสิ" ฉันตอบวอร์มไปอย่างเศร้าๆ
"มึงไม่คิดจะทำมากกว่า"
"ทำไมกูจะไม่คิด"
"ถ้ามึงคิดจะตัดจริงๆ มึงจะไม่เป็นแบบนี้"
"มึงไม่เจอแบบกูมึงก็พูดได้นี่ ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่รู้สึกหรอก!!"
"แคลร์!" วอร์มเรียกชื่อฉันเสียงดังเพื่อเป็นการเตือนสติ ฉันจึงรีบเบือนใบหน้าหนีไปทางอื่น
"โทษที กูอารมณ์ไม่ดี" ฉันพยายามตั้งสติก่อนที่จะยืนขึ้น เมื่อกี้เผลอใส่อารมณ์กับวอร์มไปจนได้
"กลับกันเถอะ"
"อืม"
ร้านข้าวขาหมู
"อะไรเนี่ย พามานี่ทำไม?"
"ก็เวลามึงอารมณ์เสียมึงชอบบำบัดด้วยการกินไม่ใช่เหรอ?"
"เออ ก็จริง" ฉันลงมาจากรถเดินตรงเข้าไปในร้านขาหมูเจ้าโปรดพร้อมกับวอร์ม พอเดินมานั่งปุ๊บอาแปะที่เป็นเจ้าของร้านก็เอ่ยปากทักทายพวกเราขึ้นมาทันที
"มากันแล้วเหรอ วันนี้กินเหมือนเดิมไหม?"
"เหมือนเดิมเลยค่ะแปะ แล้วมึงล่ะวอร์ม" ฉันหันไปถามวอร์ม
"เหมือนเดิม"
"เหมือนเดิมทั้งคู่เลยค่ะ"
"อ่าๆ โอเครอแป๊บน้าาา"
"ค่ะแปะ"
"แคลร์" พอเราคุยกับแปะจบวอร์มมันก็เรียกฉันทันที
"หืม ว่า?"
"มึงไม่เคยคิดจะมองคนอื่นบ้างเลยเหรอ?"
"ทำไมอยู่ๆ วนเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว"
"กูอยากรู้เหตุผล"
ฉันเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบมันไป
"ไม่รู้ดิ กูก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน"
"มึงก็มีคนชอบเยอะ ทำไมไม่เปิดใจ"
"กูก็ลองคุยดูแล้ว คุยจนจะทั้งคณะแล้วเนี่ยมึงก็รู้"
"กูหมายถึงคุยด้วยใจดิ ไม่ใช่คุยไปส่งๆ"
"โอ๊ย! กูไม่รู้หรอกว่าคุยด้วยใจของมึงมันแปลว่าอะไร กูก็คุยแบบพยายามชอบแล้วแต่มันไม่ชอบเอง"
"ช่วงนี้พลอยใสกับไอ้เดย์มันทะเลาะกันบ่อยมาก"
"กูรู้แล้ว จะย้ำทำไม"
"มึงรู้ใช่ไหมว่าถ้าสองคนนั้นเลิกกันเมื่อไหร่ไอ้เสือมันไม่ปล่อยพลอยไปแน่"
"รู้..."
ทำไมฉันจะไม่รู้ก็พลอยใสมันมาปรึกษาฉันตลอด เวลามันทะเลาะกับแฟนมันทีไรก็ขอมานอนกับฉันทุกที เห็นทีฉันต้องรีบจัดการเรื่องนี้แล้ว
คอนโด
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จวอร์มก็มาส่งฉันแล้วมันก็กลับไป ฉันเดินขึ้นมาถึงห้องแล้วก็อดหันไปมองห้องตรงข้ามไม่ได้ เพราะมันเป็นห้องของไอ้เสือนั่นเอง ฉันยืนมองอยู่แป๊บนึงก่อนจะล้วงหาคีการ์ดในกระเป๋าแต่จู่ๆ ประตูห้องของเสือก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางที่เพิ่งเดินออกมา
จะใครล่ะก็น้องฟ้าไง!!!
"อ่าวพี่แคลร์!"
"......." ฉันหันไปมองแต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วไม่นานไอ้เสือมันก็เดินตามน้องฟ้าของมันออกมาติดๆ ตรงต้นคอมันมีรอยแดงๆ ปรากฏอยู่ด้วย
ดูจากสภาพของพวกมันทั้งสองคนไม่ต้องเดาก็คงรู้ว่ามันเพิ่งทำอะไรกันมา!!!
จุกไหมล่ะแคลร์!
"กลับมาแล้วเหรอ?" เสือเอ่ยถามฉัน
"เออ"
ฉันตอบสั้นๆ จากนั้นจึงรีบเดินเข้าห้องมาอย่างรวดเร็ว เมื่อบานประตูถูกปิดลงฉันก็ได้แต่ยืนนิ่งใช้แผ่นหลังพิงประตูไว้อย่างหมดแรง ทำไมนะ ทำไมฉันถึงตัดใจจากมันไม่ได้สักทีวะ จะทนเป็นแบบนี้ไปถึงไหน...
ฉันยืนปรับอารมณ์อยู่สักพักก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาแล้วจากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาใครบางคน...
[ฮัลโหล]
รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ
"พี่เดย์"
[ว่าไงแคลร์ โทรมามีอะไรรึเปล่า?]
"แคลร์มีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อยค่ะ"
[เรื่องอะไรเหรอ]
"พรุ่งนี้พี่พอจะมีเวลาว่างบ้างไหม"
[ก็มีว่างแค่ช่วงเช้าแป๊บนึงนะ จะให้พี่ไปหาไหมล่ะ]
"ค่ะ รบกวนพี่ไม่นานหรอก"
[ได้สิ ไม่กวนหรอก งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปเจอที่คณะแคลร์นะ]
"โอเคค่ะ"
[ครับ]
หลังจากวางสายพี่เดย์ไปแล้วฉันก็เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าระเบียงพลางมองวิวยามค่ำคืนไปอย่างเงียบๆ บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วที่ฉันควรจะสารภาพความในใจให้เสือได้รู้ หรือมีอีกทางหนึ่งก็คือตัดใจจากมันไปเลย ไม่ว่าจะเลือกทางไหนฉันก็ทำไม่ได้ทั้งสักทาง...