The secret 9 : เหยื่อในอดีต

1556 Words
​หลังจากที่พี่ไวน์มาส่งฉันที่หอ วันนี้ทั้งวันฉันก็ไม่ได้เจอพี่เขาเลย อ่า ไม่รู้สิ พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนใจฉันมันก็รู้สึกหวิวๆกลางอก ใช่ สัมผัสของเขามันไม่ได้น่ากลัว แต่ลึกๆในใจฉันมันยังมีสิ่งที่ฝังใจอยู่ ถึงฉันเกือบจะถูกจูบก็เถอะ ถ้าฉันไม่หันหน้าหนีไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น มันมีวิธีนี้วิธีเดียวเหรอที่จะรักษาฉันให้หายได้ "นั่งเหม่ออะไรคนเดียว แล้วเมื่อคืนฉันโทรหาทำไมไม่รับ" แตงกวาเท้าคางมองหน้าฉันเหมือนกำลังจับผิด "แบตมือถือฉันหมด" "แล้วไป ฉันก็คิดว่าพี่ไวน์จะทำมิดีมิร้ายแกเสียอีก" "เออใช่ ฉันได้ยินพวกผู้หญิงเขาลือกัน" ฉันเลิกคิ้วเมื่อปุยฝ้ายพูดขึ้น "เรื่องอะไร" ฉันถามขึ้นทันที "ก็พี่ไวน์ไง คือ ฉันได้ยินมาว่า พี่ไวน์อ่ะร้ายที่สุดในกลุ่มแล้วล่ะ แต่ไม่ค่อยมีข่าวเสียๆหายๆออกมาก็เพราะว่าเขาเป็นหลานอธิการบดี" แรกๆ ฉันก็คิดว่างั้น ตอนเจอพี่ไวน์ครั้งแรกฉันอยากเดินกลับออกจากตรงนั้นมาก "โห่ ยัยข้าวแกเล่นถูกคนมาก แจ็กพอตเลยว่ะ" ฉันถอยตอนนี้ได้ไหมเนี่ย "แล้วแกเคยเห็นอธิการบดีปะ" ฉันถามปุยฝ้ายขึ้น เพราะฉันสงสัยว่าเหมือนพวกเราเคยเจอแต่ไม่รู้จัก "ก็คุณเฉิน คนที่แนะนำพี่ไวน์ให้แกไง" "งื้อ ยัยแตงยัยฝ้าย ทำไมชีวิตฉันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เป็นผู้ชายธรรมดา" "ไม่พอแค่นี้" "ฮะ ยังมีอีกเหรอ" "อันนี้ความลับสุดยอดเลย ยัยดาวคณะบริหารคู่นอนพี่ไวน์นางเล่าให้เพื่อนนางฟัง คือ....." ฉันกับยัยแตงที่กำลังอ้าปากรอฟัง แต่ยัยฝ้ายก็หยุดพูดทำไมไม่รู้ "คืออะไร แกจะอ้ำอึ้งทำไมเนี่ย" แหละนี่เป็นเสียงของยัยแตง "ก็พี่ไวน์จะไม่จูบกับคู่นอนเขาเด็ดขาด ส่วนเหตุผลฉันไม่รู้ไม่ต้องถาม และประเด็นสำคัญเลยพี่เขาไม่กินซ้ำ " ไม่จูบกับคู่นอน แต่เมื่อคืนฉันเกือบจะถูกพี่เขาจูบเนี่ยนะ "แต่จะว่าไปมันอาจจะเกี่ยวกับว่าความจริงใจ ถ้าพี่ไวน์มอบจูบแรกให้ใครผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนที่เขาต้องการใช้ชีวิตด้วยก็เป็นได้​" ฉันเลิกคิ้วมองแตงกวาพร้อมกับพยักหน้าเข้าใจ "ว่าแต่ทำไมแกรู้เยอะจัง ไปอยู่ใต้เตียงเขาเหรอ" "จะบ้าหรือไงแตง คือฉันไปจีบเด็กบริหารมาก็เลยได้ยินเขาพูด" เดี๋ยวนะ มันไปจีบเด็กมา ไวไฟจริงๆเลยเพื่อนฉัน "ฉันว่าแกกลับไปหาคุณเฉิน แล้วบอกว่าไม่ทำแล้วได้ไหม ฉันเป็นห่วงแก เสือนะเว้ยนั่นนะ รู้สึกเหมือนจะเป็นเสือสุ่มอีกด้วย โคตรอันตราย แล้วที่ฉันให้พี่เขาส่งแกกลับเมื่อคืนเขาไม่ได้ลวมลามอะไรแกใช่ไหม" "มะ...ไม่ ก็ปกติดี ส่วนเรื่องที่จะถอยฉันคงถอยไม่ได้แล้วแหละ ฉันรู้สึกว่าอาการฉันกำลังดี ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย" "อืม ยังก็ระวังตัวด้วย เผลอๆอาจจะได้เป็นหลานสะใภ้" "แกคิดว่าคนเฉิ่มๆอย่างฉัน เขาจะพิศวาทไหม เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง" "ไม่อ่ะ ตอนแกถอดแว่นเมื่อคืนฉันเห็นพี่ไวน์มองแกตาไม่กระพริบเลย" "ระ..หรือว่าเขาจะจำฉันได้" "ก็อาจจะ...แต่ฉันสังเกตพี่เขาหลายครั้งแล้ว ตอนแกอยู่ในลุกข้าวฟ้าสุดสวยเหมือนพี่เขาไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ แล้วไอ้ตอนที่เราไปช่วยเด็กจมน้ำ คือพี่ไวน์ไม่ได้เดินมาหาเรา ส่วนเราก็ร้อนตัวไปเอง" ฉันพยักหน้าฟัง นี้ฉันร้อนตัวไปเองเหรอเนี่ย "ฉันว่าพี่ไวน์ต้องเริ่มหลงเสน่ห์ข้าวฟ้ายัยหมอเฉิ่มแล้วแน่ๆ" ฉันนั่งฟังแตงกวาเล่าจนจบ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ "พอเถอะ แล้วนี่จะไปไหนต่อ พรุ่งนี้ก็ต้องฝึกงานแล้วคงยากที่จะได้เจอกัน" "เฮ้อ ฉันคงคิดถึงพวกแกแย่เลย" ยัยฝ้ายพูดก่อนจะทำหน้าเศร้า "ดราม่าตลอด ไปฝึกงานไม่ได้ไปตาย" "แต่ถ้าฉันเป็นยัยข้าวฉันได้ตายตรงนั้นแน่ๆ ศพเลยนะเว้ย" ฉันได้แต่ยิ้มพร้อมส่ายหน้าให้พวกมัน "งั้นฉันไปล่ะ พี่ต้นมารับแล้ว" ฉันกับแตงกวาขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองผู้ชายคนหนึ่ง ก่อนที่ปุยฝ้ายจะวิ่งไปหา "แกว่ามันคงไม่เจอหลอกอีกใช่ไหม" "แตง แกก็หัดมองโลกในแง่ดีบ้าง แต่ถ้าเขาหลอกให้ฝ้ายเจ็บล่ะก็ ฉันจะเป็นฝ่ายไปด่าเขาเอง ด่าให้ไม่เหลือหน้าเลยคอยดู" "เออ งั้นฉันกลับก่อนนะ" ฉันโบกมือลาเพื่อน ก่อนจะลุกเดินไปหน้ามอ ขณะฉันเดินผ่านคณะบริหารไม่นานก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะมองขึ้นไปบนตึกคณะบริหาร พบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ หรือว่าเขากำลังคิดสั้น ฉันก้มลงหยิบหนังสือพิมพ์ที่หล่นลงมาจากด้านบนเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเห็นข่าวเรื่องเดียวที่ฉันอ่านในวันนั้น "หรือว่า" ฉันเว้นคำพูด ก่อนจะเบิกตากว้าง "เธอจะเป็นเหยื่อในเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่สวนสนุกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว" ฉันบ่นคนเดียวแผ่วเบา ก่อนจะหันไปมองแตงกวาที่วิ่งตาตื่นมาหาฉัน "เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่มันอะไรเนี่ย" ฉันมองตามแตงกวาพูกก่อนจะพบกระดาษกับรูปผู้ชายคนนั้น " ใช่จริงด้วย ฉันจะให้เธอทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด" ไม่รอช้าฉันรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าโดยมีแตงกวาขึ้นมาด้วย ตอนนี้เริ่มจะมืดแล้วคนก็ไม่ค่อยเยอะ ฉันจะต้องช่วยเธอให้ได้ ผมที่กำลังยืนอยูข้างหลังเด็กคณะบริหารที่กำลังจะคิดสั้น ถ้าจะถามว่าผมมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง จริงๆ ไอ้ปลื้มมันโทรบอกว่ามีคนคิดสั้น ผมก็รีบโทรบอกเจ้าหน้าที่แล้วก็รีบขึ้นมาทันที "น้องใจเย็นๆ คิดจะฆ่าตัวตายมันไม่ดีเลยนะ" ไอ้ปลื้มที่พยายามโน้มน้าวแต่ก็ไม่เป็นผล เสียงร้องไห้ดังระห่ม "พี่ไม่ได้เป็นหนู พี่ไม่มีวันเข้าใจหรอก ว่ามันเป็นฝันร้ายที่ติดตัวหนูแค่ไหน ผู้ชายคนนั้น ฆาตกรคนนั้นมันกลับมาแล้ว" เธอพูดด้วยท่าทางวาดกลัว ผมมองรูปที่หล่นอยู่เต็มพื้นด้วยความสงสัย หรือว่าจะเป็นคนที่เธอพูดถึง "มันไม่มีใครทำอะไรน้องได้ทั้งนั้น พี่ว่าน้องลงมาคุยกันดีๆนะ" ผมพยายามพูดให้เธอสงบ แต่กลับไม่เป็นผล "อย่าเข้ามา" และผมต้องหยุดชะงักเมื่อเธอไม่ให้เข้าใกล้ "ฉันรู้ว่าเธอกลัว แต่ถ้าเธอตาย แล้วครอบครัวเธอล่ะ กว่าพวกเขาจะพาเธอผ่านมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ง่ายเลยนะ เธอจะปล่อยให้สิ่งดีๆที่พวกเขาทำเปล่าประโยชน์เหรอ" ผมหันไปมองเสียงหวานๆที่ดังขึ้นจากข้างหลัง ข้าวฟ้าที่เดินมาหยุดอยู่ข้างพวกผม แววตาคู่นั้นมันเต็มไปด้วยความเศร้า "เธอไม่รู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน" " ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าความกลัวมันแรงกล้าขนาดไหน ในเมื่อฉันก็เป็นเหยื่อเมื่อ 10 ปีที่แล้ว" เกิดความเงียบขึ้น ผมไม่รู้หรอกนะว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกเจ็บปวดที่ออกมาจากดวงตาคู่นั้น ทำให้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ น้องเคยผ่านเหตุการณ์โหดร้ายมา "ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง แต่เธอไม่คิดเหรอว่าคนเหล่านั้นอยากมีชีวิตอยู่มากขนาดไหน แต่พวกเขากลับไม่ได้รับโอกาสนั้น แล้วเราล่ะ เราได้รับโอกาสให้มีชีวิตอยู่ต่อ เธอไม่เสียดายโอกาสนั้นเลยใช่ไหม" น้ำใสๆที่ไหลออกจากตาคู่นั้น มันทำให้ผมอยากปลอบน้องเอามาก น้องผ่านเรื่องราวที่โหดร้ายมาได้ก็ถือว่าเป็นคนที่เข้มแข็งพอสมควร " ฉันกลัว.." ข้าวฟ้าเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะยื่นมือไปข้างหน้า "ฉันก็ไม่ต่างจากเธอหรอก ถ้าเธอกลัวมันมีวิธีอีกมากมายที่ช่วยได้ อย่างเช่นฉันที่เลือกใช้วิธีนี้..." น้องที่ใช้มือถอดแว่นตาออกก่อนจะส่งยิ้มให้ ไม่นานไอ้ปลื้มก็อุทานขึ้นก่อนจะมองน้องตามันว้าว "กูว่าถ้ามึงไม่ได้ชอบน้อง กูขอนะเพื่อน" "หึ " ผมเค้นหัวเราะก่อนจะมองไอ้ปลื้ม ไม่นานน้องก็โน้มน้าวเธอสำเร็จ ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งไปโรงพยาบาล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD