"ข้าวเป็นอะไรหรือเปล่า" ฉันตื่นจากภวังค์ก่อนจะยิ้มให้พี่หนิ๋ง
"เปล่าค่ะ"
"หรือไม่สบาย ลาหยุดได้นะ"
"ข้าวสบายดีค่ะ ว่าแต่พี่หนิ๋งมีอะไรหรือเปล่า"
"มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ข้าวต้องไปกับพี่ เตรียมตัวนะเจอกันที่ลานจอดรถ" ฉันยกมือนวดขมับตัวเองก่อนจะลุกเดินไปที่ลานจอดรถ หลังจากที่พีมาส่งฉันที่คอนโดฉันก็ไม่ได้เจอพี่ไวน์อีกเลย ฉันรู้ว่าพี่ไวน์คงไม่อยากเจอหน้าฉัน ฉันขยับแว่นตาก่อนจะขึ้นรถพลางเม้มปากแน่น ฉันตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้นอีก แต่เวลาอยู่เงียบๆคนเดียวฉันมักจะคิดมากตลอด
"ถึงแล้วจ้ะ" ฉันลงจากรถก่อนจะมองศพที่มีผ้าสีขาวคลุมอยู่ กึก ฉันหยุดอยู่ข้างๆศพ ก่อนจะสวมถุงมือพร้อมกับใส่หน้ากากอนามัย
พรึบ!! ฉันเผลอก้าวถอยหลังทันทีเมื่อพี่หนิ๋งเปิดผ้าคลุมศพออก สภาพศพไม่ต่างจากศพผู้หญิงคนนั้น ฉันยกมือปิดปากตัวเองผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่
"พี่หนิ๋ง" ฉันเรียกชื่อพี่หนิ่งก่อนจะเปิดผ้าที่แขนศพ ซึ่งพี่หนิ๋งก็ตกใจเล็กน้อย
"ข้าวจะบอกพี่ว่าคนร้ายคือคนเดียวกันใช่ไหม" ฉันพยักหน้าเบาๆก่อนจะสำรวจที่คอเหยื่อ
"เหยื่อที่ตายมักจะเป็นคนที่มีหน้าตาสวย คนร้ายเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดี ลักษณะการตายก็คล้ายกัน"
"งั้นคืนนี้เราคงไม่ได้นอนอีกแล้วสินะ" ฉันได้แต่ส่งยิ้มให้พี่หนิ๋งก่อนจะเอาผ้าคลุมศพเหมือนเดิม เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปที่โรงพยาบาลตำรวจ
"พี่หนิ๋งค่ะ ข้าวขอเดินตรวจดูสถานที่เกิดเหตุแปปหนึ่งได้ไหม" พี่หนิ๋งพยักหน้าก่อนจะเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ฉันหยุดอยู่กับที่ทันที ก่อนจะมองผู้ชายที่ใส่เสื้อฮูดสีดำเขากำลังจ้องมองมาที่ฉัน ฉันที่มุ่งตรงไปหาผู้ชายคนนั้นแต่เขากลับหายไปในคนกลุ่มหนึ่งที่มามุงดู แววตาคู่นั้น เขากำลังยิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข
หลังจากที่ทำงานเสร็จฉันก็มุ่งหน้ากลับหอทันที แต่ภาพตรงหน้าทำให้ฉันขมวดคิ้วทันที รถพยาบาล รถตำรวจที่จอดเรียงกันอยู่ เกิดอะไรขึ้น "น่ากลัวมากเลย เมื่อวานยังเห็นเดินไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย"
"ฉันได้ข่าวมาว่าผู้หญิงแอบบคบชู้ พอผู้ชายจับได้ก็เกิดการทะเลาะกันขึ้น จนต้องใช้มีดแทงผู้หญิงตาย" ฉันเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินผู้หญิงสองคนพูด
"ฉันว่าฉันอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถึงจะเป็นคนห้อง 222 ก็เถอะ แต่ฉันกลัวผี" เดี๋ยวนะ ติดห้องฉันเลยเหรอเนี่ย
ฉันไม่สนใจก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง ตอนนี้ทุกอย่างก็อยู่ในสถานการณ์ปกติแล้ว ฉันค่อยๆล้มตัวนอนแต่ในขณะที่เปลือกตาจะปิดลงก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ห้องข้างๆ เสียงลากเก้าอี้ เสียงร้องไห้ ฉันกระชับผ้าห่มแน่น เสียงกรีดร้องมาจากห้องข้างๆ แถมห้องข้างๆก็พึ่งเกิดเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วใครมากรีดร้องเวลานี้ถ้าไม่ใช่ผี
"ช่วยด้วย" ขนฉันลุกซู่ขึ้นมาทันที เสียงอันเยือกเย็นทำให้ฉันลุกไปเปิดไฟห้องทันที ให้ตายเถอะ ฉันเจอผีหลอก
ฉันยกมือทาบอกตัวเอง ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้น แต่ฉันต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา "สวัสดีค่ะ"
(นี่ ฉันเองยัยข้าว ฉันแตงกวา)
"ยัยแตง แล้วแกใช้เบอร์ใครโทรมา"
(เบอร์พี่ไวน์นะ)
ฉันเงียบครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเพื่อน "แกอยู่กับพี่เขาได้ไง"
(พอดีเจอที่ผับแล้วมือถือแบตหมด ฉันก็เลยขอยืมพี่เขาโทรมาให้แกมารับฉันหน่อย)
" ได้ เดี๋ยวไปรับ ฉันจะไปนอนกับแก"
(โอเค รักเพื่อนนะ) ฉันเก็บมือถือก่อนจะลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกจากหอทันที
ฉันลงจากรถก่อนจะเดินไปหาแตงกวาที่กำลังนั่งรอฉันแต่สายตากลับมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังแต่ไม่นานฉันก็ต้องหลบตา "สวัสดีค่ะ"
"ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายวัน ดูไม่สดชื่นเลย" ฉันได้แต่ส่งยิ้มให้พี่ปลื้มก่อนจะพยุงแตงกวา
"กลับก่อนนะคะ" ฉันบอกพี่ปลื้มก่อนจะมองพี่ไวน์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ดันไปสบตากับดวงตาคู่นั้นก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายหลบตา
"ไวน์ค่ะ คืนนี้ไปต่อที่ห้องน้ำหวานนะ" ฉันเม้มปากแน่นก่อนจะมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆพี่ไวน์
"ครับ" ไม่รอช้าฉันก็พยุงแตงกวาไปที่รถทันที ฉันไม่อยากฟังเสียงสนทนาอะไรทั้งนั้น ในใจมันรู้สึกเจ็บไปหมด
"ข้าว แกโอเคไหม" แตงกวาเอ่ยถามทันทีเมื่อถึงรถ สรุปนางไม่ได้เมาแต่แกล้ง
"อืม ฉันว่าจะย้ายหอ"
"ย้ายทำไม เกิดอะไรขึ้น" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ผีหลอก ระหว่างหาที่อยู่ใหม่ ฉันขออยู่กับแกนะ"
"ได้ แค่ได้ยินเรื่องผีฉันนี่แทบช็อค" ฉันส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความโอเวอร์ของมัน
2 วันต่อมา
ฉันนั่งเม้มปากแน่นระหว่างที่ฉันนั่งรถไปเที่ยวทะเล ภายในรถมีพี่ปลื้ม พี่ไวน์แล้วก็ฉัน ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่นะเหรอ ก็เมื่อวานฉันเจอพี่ปลื้ม จู่ๆพี่เขาก็ชวนฉันมา แรกๆฉันก็ไม่ยอมไปหรอกบอกว่ามีงาน แต่จะว่าโชคดีหรือไม่ดี พี่หนิ๋งโทรมาบอกว่าให้ฉันลาพักร้อน 3 วัน สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งอึดอัดอยู่บนรถนี่ไง
ภายในรถจะมีแค่พี่ปลื้มที่ชวนฉันคุย จนกระทั่งถึงที่พัก ฉันนำกระเป๋ามาเก็บในห้องก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวรอปาร์ตี้คืนนี้
20:00 น.
ฉันเดินลงมาจากห้องก่อนจะหยุดมองทะเล วันนี้จะมีการเตรียมเพื่อช่วยพี่ติณง้อพราวไหม หน้าที่ของฉันก็คือเดินไปคุยกับพี่ติณเพื่อทำให้พราวไหมหึง
"พี่ติณค่ะ พร้อมหรือยัง" ขณะที่ฉันคุยกับพี่ติณก็แอบมองที่พราวไหมเหมือนกัน ก็พบว่าพราวไหมกำลังมองมาที่พวกเรา
"ครับ" ฉันกับพี่ติณเดินไปตามทางเรื่อยๆ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายเดินไปแอบ
เสียงหวานๆที่ตะโกนหาคนรักดังขึ้นเรื่อยๆ พี่ติณถือเค้กก่อนจะเดินไปหาพราวไหม ฉันว่าถ้าฉันมีคนรักแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
"อ้อ น้องพราวอย่าเข้าใจผิดนะ นั่นข้าวฟ้าแฟนไอ้ไวน์" พี่ปลื้มแนะนำตัวฉันให้พราวไหมรู้จัก แต่ไอ้ประโยคข้างหลังทำให้ฉันหันไปมองทันที
"ข้าวฟ้าไม่ใช่แฟนกู" ฉันเม้มปากแน่น
"ใช่ค่ะ ข้าวไม่ใช่แฟนเขา" พูดจบฉันก็เดินออกทันที ฉันหยุดกอ่นจะนั่งลงแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดาวที่เรียงกันระยิบระยับ ไม่นานฉันก็ปัดฝุ่นก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ซึ่งในห้องมีพี่ติณพี่ปลื้มพี่ไวน์และพราวไหมที่นั่งดูทีวีอยู่
"น้องข้าวมานั่งตรงนี้กับพี่ปลื้มดีกว่า" ฉันพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆพี่ปลื้ม แต่ก็นั่งตรงข้ามพี่ไวน์ ฉันไม่รู้จะทำยังไงก็เลยหันไปดูโทรทัศน์แทน
"จะว่าไปไอ้ติณก็มีแฟนแล้ว เมื่อไหร่มึงจะเปิดใจให้น้องข้าวคนสวยสักทีวะไอ้ไวน์" จู่ๆ เสียงพี่ปลื้มก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองพี่ไวน์ก็พบว่าเขาแม้จะมองหน้าฉัน
"นั่งเงียบๆไป" พี่ปลื้มทำหน้าตาน้อยใจก่อนจะกดเปลี่ยนช่อง
"พี่ปลื้มค่ะ ข้าวขอดูช่องนี้ก่อนนะ" ฉันมองภาพตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้ว
ภาพผู้ชายที่ปรากฎที่ทีวีทำให้ฉันตกใจไม่น้อย นักข่าวที่บอกว่าถูกฆาตกรรมเมื่อ 30 นาทีที่แล้ว ผู้ชายคนนั้น คนที่ถูกจับในคดีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถูกฆ่าตาย เป็นไปได้ไง
"มีอะไรหรือเปล่า" ผมมองไอ้ปลื้มที่เอ่ยถามข้าวฟ้าที่กำลังขมวดคิ้วมองข่าวฆาตกรรม จะว่าไปเหมือนเคยเห็นรูปผู้ชายคนนี้ที่ไหนสักที่
"ข้าวแค่ตกใจ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ" ปากก็บอกว่าตกใจไม่มีอะไร แต่สีหน้าที่แสดงออกมากลับตรงกันข้าม เหมือนน้องกำลังกลัว
ผมหยิบรีโหมดก่อนจะปิดทีวี "มึงจะปิดทำไมเนี่ย" ผมไม่สนใจที่ไอ้ปลื้มโวยวายก่อนที่ผมจะลุกเดินออกไปข้างนอกเพื่อสูบบุหรี่ ผมเดินหลบมาสูบคนเดียวในที่มืดๆคนเดียว
"คุณลุงมันเกิดอะไรขึ้นคะ" เสียงหวานๆที่ดังออกมาทำให้ผมชะงักทันที
"ค่ะ ข้าวจะรีบกลับไปหาความจริง มันเป็นไปได้ยังไงถ้าคนร้ายโรคจิตคนนั้นจะมีลักษณะการตายเหมือนเหยื่อที่ผ่านมา"
"ไม่ว่าข้าวต้องแลกด้วยชีวิต ข้าวก็จะหาตัวคนร้ายตัวจริงให้เจอ ข้าวจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว ถึงข้าวจะเป็นหนึ่งในนั้น ที่เกือบถูกฆ่า " เสียงน้องอ่อนลงก่อนที่จะได้ยินเสียงสะอื้น
"ถึงข้าวจะกลัวเพศตรงข้ามเพราะผู้ชายคนนั้น แต่ข้าวจะไม่ยอมให้คนที่ข้าวรักตายไปโดยที่ยังจับคนร้ายตัวจริงไม่ได้เด็ดขาด" จู่ๆ ใจผมก็รู้สึกแปลกๆทันที น้องเคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีมา น้องเป็นแบบนี้เพราะผู้ชายคนนั้น ตอนที่น้องต้องการคนช่วย ผมกลับวิ่งหนีออกมา ผมแม่งเหี้ย
"อ้ะ" แต่ขาเจ้ากรรมกลับเดินไปหยุดตรงหน้าน้องก่อนจะดึงน้องมากอด ซึ่งทำให้น้องสะดุ้งตกใจไม่น้อย
"พี่ขอโทษ"
"พี่ไวน์"
"พี่ขอโทษ" ผมกระชับกอดแน่นขึ้น ผมรู้สึกผิดแล้วก็ไม่ชอบที่น้องไปนั่งใกล้ไอ้ปลื้ม และไม่ชอบทุกๆอย่าง น้องชอบทำให้ผมหงุดหงิดเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา