บทที่ 4

1569 Words
  “ผม...” กรขยับริมฝีปากบางแต่ไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความลึกซึ้งที่ไม่อาจเข้าใจได้ภายใต้แว่นตากรอบทอง เขาจ้องไปที่แผ่นหลังของแก้วกานดาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หันหลังเดินไปที่ห้องทำงาน   ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แก้วกานดาเช่าห้องเองและอยู่ตัวคนเดียว เธอทำอาหารที่บ้านเก่งมาก ไม่นาน อาหารสองจานและซุปก็เสิร์ฟบนโต๊ะ   “กรคะ ได้เวลากินข้าวแล้ว” แก้วกานดาเคาะประตูห้องทำงานอย่างระมัดระวังและค่อยๆ ผลักประตูเปิดเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ   กรกำลังโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงาน เขาพูดว่า "ดูแลเรื่องพวกนี้ ไม่ต้องรายงานผมทุกเรื่อง"   หลังจากนั้น เขาก็วางสายทันที ทันทีที่เขามองขึ้นมา เขาก็สบตากับแก้วกานดาและถามอย่างเย็นชาว่า “มีอะไร?”   “ได้เวลากินข้าวแล้วค่ะ” แก้วกานดายิ้มและไม่กล้ามองเขา   "สักครู่เดี๋ยวผมไป" น้ำเสียงของเขาไม่แยแสเหมือนปกติ   ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน กินข้าวกันอย่างตึงเครียด ทั้งคู่ไม่ได้พูดเพื่อทำลายความเงียบ สักพัก บรรยากาศก็ดูน่าเบื่อหน่ายอย่างยิ่ง   แก้วกานดาขยับริมฝีปากหลายครั้งเพื่อหาหัวข้อที่จะพูดคุย แต่เธอก็กลืนคำพูดของเธอกลับไปหลังจากเห็นท่าทีที่ไม่สนใจของกร   หลังอาหารเย็น กรเสนอตัวช่วยเธอล้างจาน และแก้วกานดาก็ไม่ปฏิเสธ เนื่องจากเขาเต็มใจที่จะแบ่งภาระงานบ้านเหล่านี้กับเธอ เธอจึงยินดีที่จะปล่อยให้เขาทำ   เห็นได้จากความซุ่มซ่ามของกรว่าเขาไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน   แต่มันเป็นเรื่องจริง เป็นไปไม่ได้ที่เจ้านายของบริษัทใหญ่ๆ จะทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นล้างจาน   เคร้ง   เมื่อได้ยินเสียงชามกระเบื้องในห้องครัวแตก แก้วกานดาก็ลุกขึ้นยืนทันทีแล้วเดินไป   สิ่งที่เธอเห็นคือกรถือชามอยู่ในมือและจ้องมองเซ่อไปที่ชิ้นส่วนเครื่องเคลือบที่แตกอยู่บนพื้น   "ให้ฉันจัดการค่ะ" แก้วกานดาเดินไปหยิบชามจากมือกร   "ไม่ ผมจะทำ" กรเอื้อมมือออก น้ำเสียงของเขาไม่เปลี่ยน   “กร จริงๆ แล้ว…” แก้วกานดามองตาแข็งของกรและไม่สามารถพูดอะไรได้ เธอพยักหน้าและออกจากครัวเพื่อให้เขาทำต่อ   แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่สามีภรรยากันตามกฎหมาย แต่กรก็ยังเป็นผู้ชายที่แก้วกานดาไม่คุ้นเคย   เธอต้องการรู้จักเขาให้มากขึ้น เพื่อรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา เธอพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะเป็นภรรยาที่ดี   อย่างไรก็ตาม ด้วยบุคลิกแบบเขา เธอสามารถใกล้ชิดกับเขาอย่างที่วางแผนไว้ตอนแต่งงานได้เหรอ?   แก้วกานดานั่งลงในห้องนั่งเล่น หยิบรีโมทขึ้นมา เปิดทีวี เธอสุ่มเปิดช่องข่าว   ขณะดูทีวี เธอหันศีรษะไปทางห้องครัวเป็นบางครั้ง ผ่านประตูกระจก เธอเห็นกรทำความสะอาดชามและช้อนส้อมอย่างระมัดระวัง   เธอแอบถอนหายใจในใจ ผู้ชายดูดีขนาดนี้ตอนล้างจานได้อย่างไรกัน   บางทีสายตาของแก้วกานดาอาจชัดเจนเกินไป กรก็มองกลับมาเช่นกัน ตาของทั้งสองสบกัน และแก้วกานดาเห็นความเย็นชาเล็กน้อยในดวงตาของกร แต่แล้วเขาก็ยิ้มไม่มีที่ติอย่างสุภาพให้เธอ   ใบหน้าของอก้วกานดาเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้ว่ามองเขา และเธอก็ยิ้มอย่างสุภาพกลับ   แก้วกานดาหันกลับมามองหน้าจอทีวี คิดถึงเรื่องกร   ผู้ชายคนนี้มั่นใจในการทำงานและถึงขนาดดูดีตอนล้างจาน เมื่อไหร่ที่เธอจะได้เห็นเขาทำตัวเองดูโง่เง่านะ?   หลังจากทำความสะอาดห้องครัว กรก็กลับไปที่ห้องโถงและเห็นแก้วกานดากำลังงุนงง เขาจ้องไปที่ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของเธอและพูดหลังจากนั้นไม่กี่วินาที “แก้วกานดา”   “ห๊ะ...” แก้วกานดาพูดขณะที่เธอฟังเสียงละมุนของเขา เธอพบว่ามันฟังเพลิน สักพัก เธอก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปครู่หนึ่ง   กรนั่งลงบนโซฟาข้างเธอ “ผมมีบางอย่างจะคุยกับคุณ”   “ได้สิคะ” แก้วกานดาตอบ เธอยังต้องการคุยกับเขาดีๆ และใช้โอกาสนี้ทำให้ชัดเจน   สายตาคมเข้มของกรกวาดดูเธอ แล้วเขาก็ค่อยๆ พูดขึ้นว่า "แก้วกานดา วันนี้ที่บริษัท..."   “เราจะมีงานและชีวิตส่วนตัวแยกจากกัน ฉันเข้าใจค่ะ ที่จริงแล้ว ฉันไม่อยากให้ใครมานินทาลับหลังเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวของเรา” กรยังพูดไม่จบ แต่แก้วกานดาขัดจังหวะเขา   เธอทำงานหนักในบริษัทนี้มาสามปีเพื่อให้ประสบความสำเร็จในวันนี้ เธอต้องการที่จะปีนขึ้นไปบนบันไดขององค์กรต่อไปด้วยตัวของเธอเอง เธอไม่อยากให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปเพราะกร   ใบหน้าของเขาสงบ แต่ดวงตาของเขาส่องประกายเล็กน้อยภายใต้กรอบแว่นตาของเขา “ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังตัวตน ผมไม่รู้ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับผมตอนที่ผมเห็นคุณในงาน ดังนั้นผมเลยไม่ได้ประกาศอะไรต่อสาธารณะ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังโดยเจตนา” ."   “ฉันรู้ค่ะ” แก้วกานดาพยักหน้าและพูดว่า “ชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวของฉันแยกจากกันเสมอ ฉันไม่อยากนำชีวิตส่วนตัวมาสู่เรื่องงาน”   มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอและกรแต่งงานกัน แก้วกานดารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องประกาศให้คนในบริษัททราบ   อีกด้านหนึ่ง เธอไม่ต้องการให้งานของเธอได้รับผลกระทบ ในทางกลับกัน เธอไม่แน่ใจว่าเธอกับกรจะไปได้ไกลสักแค่ไหน   เมื่อมองไปที่ความแน่วแน่ของแก้วกานดา กรก็หยุดและพูดว่า "คุณได้บอกครอบครัวของคุณเกี่ยวกับการแต่งงานของเราหรือเปล่า"   แก้วกานดาส่ายหัว เธอไม่ต้องการพูดถึงครอบครัวตัวเอง   “ผมเพิ่งเข้าถืออินโนเวทีฟเทคและผมมีเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่ต้องจัดการ ถ้าคุณไม่ว่ากัน หลังจากทั้งหมด ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผมอยากจะไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายของผมกับคุณ” เขาพูดอย่างใจเย็นราวกับว่าเขาคาดว่าแก้วกานดาจะพูดเรื่องนี้กับครอบครัวของเธอ   "ไม่"แก้วกานดาปฏิเสธทันที แต่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม เธอจึงรีบอธิบายว่า "ฉันมีปัญหาบางอย่างกับครอบครัว ฉันไม่ได้ติดต่อพวกเขานานแล้ว ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะค่ะ"   ครอบครัวเหรอ?   ทุกครั้งที่เธอนึกถึงคำนี้ แก้วกานดารู้สึกเจ็บปวดในใจตัวเอง มันทำให้เธอหายใจไม่ออกเล็กน้อย   เมื่อสามปีที่แล้ว บ้านนั้นไม่ใช่บ้านของเธออีกต่อไป และเธอไม่สามารถกลับไปได้อีก   "แก้วกานดา" กรเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและพูดว่า "คุณไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้วนะ คุณมีผม"   น้ำเสียงของกรทื่อ แต่เพราะเสียงที่ไพเราะของเขา มันจึงมีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป   ประโยคนี้เห็นได้ชัดว่าไม่โรแมนติก แต่มันทำให้หัวใจของแก้วกานดาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก   แม้ว่าเธอกัดฟันและค่อยๆ เอาชนะความเจ็บปวดมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้าและหลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ในช่วงดึกๆ   "แก้วกานดา" หลังจากเงียบไปนาน กรก็พูดอีกครั้ง “เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคุณจริงๆ นะ”   จู่ๆ กรก็พูดแบบนี้ และแก้วกานดาก็อึ้งไปอีกครั้ง เมื่อมองดูเขาและดวงตาที่จริงใจของเขา เธอก็พูดว่า "ฉันตั้งใจแน่วแน่ที่จะอยู่กับคุณตลอดชีวิตที่เหลือของฉัน"   กรจ้องไปที่ดวงหน้าสวยของเธอ หยุดชั่วครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แก้วกานดา คุณสัญญาได้ไหมว่าจะไม่เลิกกับผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”   "ค่ะ!" แก้วกานดาพยักหน้าอย่างหนัก “ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นภรรยาที่ดี”   เธอยังคิดว่าพวกเขาไม่ควรเลิกรากันง่ายๆ และตอนนี้กรก็พูดอย่างนั้น สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ   หลังจากคุยกับกร เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก   กรกลับไปยังห้องทำงาน แก้วกานดาทำความสะอาดห้องและไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและเป่าผมให้แห้ง ทันทีที่ผมของเธอแห้ง กรก็เข้ามา   เขาก็อาบน้ำเช่นกันและสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวเผยให้เห็นผิวอกส่วนเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มเรียบเนียนของเขา ผมของเขายังคงน้ำหยด ซึ่งไหลไปตามร่างกายของเขาและหายไปในเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว   ใบหน้าของแก้วกานดาก็แดงขึ้นทันที   “คุณคงเหนื่อยมาก ไปนอนก่อนนะ” กรพูดขึ้นทันที น้ำเสียงของเขาเบาและน่าดึงดูด ซึ่งทำให้หัวใจของแก้วการดาเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก   กรไม่ได้ตั้งใจจะจากไป คืนนี้เขาตั้งใจจะนอนในห้องเดียวกันเหรอ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD