Chapter 1 สาวพรหมจารี

1229 Words
Chapter 1 สาวพรหมจารี หมาป่าสีเงินยวงตัวใหญ่ยักษ์สูงร่วมสองเมตรทอดมองหญิงสาวพรหมจรรย์ซึ่งเป็นเครื่องบรรณาการจากมนุษย์โลภมากด้วยดวงตาสีแดงทับทิม ผู้หญิงคนนี้สวย สวยสะกดสายตากว่าผู้หญิงคนไหนๆ ที่เขาเคยพานพบ ไม่แน่ว่าการได้ครอบครองพรหมจรรย์ของเธออาจช่วยให้เขาได้กลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง หมาป่าขยับร่างเข้าไปใกล้ ยื่นปลายจมูกชื้นดอมดมกลิ่นกายสาวอย่างเชื่องช้า ก่อนจะใช้ฟันแหลมคมฉีกกระชากกางเกงและเสื้อของหญิงสาวออกจนหมดสิ้น “ได้โปรด! อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัวแล้ว” มนรดาร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว หมาป่าตนนี้ต้องการพรหมจรรย์ซึ่งเธอหวงแหนเก็บรักษามาตลอดสิบแปดปี หวังมอบให้กับชายที่รักในคืนวันแต่งงาน แต่เขากลับจะช่วงชิงเอาไปทั้งที่เธอไม่ได้เต็มใจ อีกทั้งเธอเป็นมนุษย์แต่เขาไม่ใช่มนุษย์ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้! มนุษย์ กับ อมนุษย์จะสมสู่กันได้อย่างไรกัน! ทว่าหมาป่าเคยชินกับการวิงวอนเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจของเขาด้านชาเกินกว่าจะคิดสงสารหรือเมตตาใคร เขาเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง อยู่กับตัวเอง และฝังตัวเองไว้กับอดีตที่ผ่านมานับร้อยปี อดีตที่หลอกหลอนเขาไม่ว่ายามหลับหรือยามลืมตาตื่น เขายื่นอุ้งเท้าหนาเทอะทะลงไปแตะที่หน้าอกอวบอิ่มซึ่งบัดนี้เธอกำลังหอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมไหวด้วยความหวาดกลัว แต่มันกลับทำให้เธอดูเซ็กซี่เหลือร้าย ปลุกความต้องการของเขาให้ลุกโชน “อย่าทำอะไรฉันเลย ยะ...อย่า” หญิงสาวสะดุ้งพยายามกระถดกายหนีสัมผัสของเขา เธอถูกปิดตา มัดมือ มัดเท้า มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เธอจึงทำได้แค่เพียงจินตนาการว่าเขาคงเป็นอสุรกายหมาป่าที่แสนอัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว แค่เขาแตะต้องร่างกาย เธอก็หน้าซีดเผือดคล้ายจะเป็นลมทุกชั่วขณะ “อย่าห่วงไปเลยฉันจะช่วงชิงพรหมจรรย์ของเธอด้วยความอ่อนโยน” สิ้นสุดคำพูดของหมาป่าสีเงินยวง ร่างกายของเขาก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยน อุ้งเท้าใหญ่เต็มไปด้วยขนค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นมือมนุษย์หนาสากหยาบกร้าน แขนขาและร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยขนสีเงินแปรเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์งดงามราวกับรูปปั้นสลัก เขายืนเปลือยเปล่า อกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง เอวสอบเรียวเป็นรูปตัววีรับกับหน้าท้องที่มีซิกแพ็คยวนเย้า แก่นกายแห่งบุรุษเพศแข็งขันพร้อมจะเชยชิดพรหมจรรย์ของหญิงสาวราวกับไม่อาจทานทนอีกต่อไป มนรดาสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ อุ้งเท้าก็กลายเป็นมือหนาฟอนเฟ้นหน้าอกของเธออย่างเร่งร้อน เธอผวาแอ่นอกรับอย่างลืมตัว เมื่อได้สติเธอก็ห่อไหล่เข้าหากันพยายามเบี่ยงตัวหนีสัมผัสของอีกฝ่ายเป็นพัลวัน “คุณเป็นใครกัน แล้วหมาป่าไปไหนเสียแล้วล่ะคะ หรือว่าคุณจะเป็นเจ้านายของหมาป่าตนนั้น” พรหมจารีสาวร้องถามด้วยความตกใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมตอบคำถามของเธอ เขาก้มลงปิดเรียวปากช่างซักถามด้วยริมฝีปากหยักได้รูป บดแรงก่อนจะบีบบังคับให้เธอเผยอริมฝีปากออกเพื่อรับปลายลิ้นร้อนที่ก้าวล้ำเข้าไปตวัดลิ้มชิมรสความหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า “อือ...” ความสงสัยมากมายถูกกลบฝังด้วยคลื่นแห่งความซ่านสะท้าน หญิงสาวเงอะงะกับการถูกจูบเป็นครั้งแรก เธอพยายามขัดขืนแต่ดูเหมือนว่ารสจูบมันช่างเย้ายวนจนเธอไม่มีเรี่ยวแรงพอจะต้านทานรสสัมผัสได้เลย “จูบแรกของเจ้างั้นหรือ” หมาป่าหนุ่มค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีแดงเพลิงพิศมองใบหน้าสวยหวานที่มีผ้าสีดำคาดปิดตาเอาไว้ เขาค่อยๆ บรรจงแกะเชือกที่มัดข้อมือเธอออกช้าๆ และแน่นอนเมื่อเธอได้รับอิสระเธอก็ปัดป่ายมือไปทั่วเพื่อที่จะทำร้ายเขา “ปล่อยฉัน! คุณเป็นตัวอะไรกันแน่” นาทีนี้มนรดามั่นใจแล้วว่าหมาป่ากับผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกัน เธอจำน้ำเสียงนุ่มทุ้มของเขาได้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าหมาป่าตนนี้จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ นี่เธอกำลังเผชิญอยู่กับสปีชีส์ไหนบนโลกที่แสนซับซ้อนใบนี้กันแน่ “ฤทธิ์มากนักนะสาวน้อย” ชายหนุ่มรวบแขนทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยมือเดียว ก่อนจะชูขึ้นเหนือศีรษะแล้วมัดไว้กับหัวเตียงแทน “แก้มัดฉันเถอะค่ะ ฉันเจ็บ!” มนรดาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอพลาด เธอไม่น่าบุ่มบ่ามทำร้ายเขา เธอน่าจะแสร้งทำให้เขาไว้ใจเพื่ออาศัยจังหวะหาอะไรเหมาะมือฟาดศีรษะเขาให้แตกแล้วค่อยหลบหนีไป แต่คิดได้ตอนนี้ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว “ริอ่านมีมารยากับข้างั้นหรือสาวน้อย” “ฉะ...ฉันเจ็บจริงๆ” หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เธอโกหกไม่เก่งเมื่อยิ่งต้องโกหกโดยที่เธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน ไม่รู้ว่าเขามองเธอด้วยสายตาเช่นไร เชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่เธอกำลังโกหก อุ้ย! หญิงสาวตกใจเมื่อจู่ๆ เขาก็กดปลายนิ้วโป้งลงบนริมฝีปากของเธอแผ่วเบา อะไรกัน...แค่สัมผัสจากปลายนิ้วทำให้เธอใจเต้นแรงได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ เธอเป็นผู้หญิงร่านไร้ยางอายหรืออย่างไรถึงได้ต้องการรสสัมผัสจากอสุรกายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มือหนาสากประคองแก้มใสก่อนที่เขาจะค่อยโน้มตัวเข้าหาแล้วคร่อมทับร่างกายเธอเอาไว้ด้วยเรือนกายเปลือยเปล่ากำยำของตัวเอง ตัวเขาหนัก...มนรดารับรู้ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ร่างกายสมส่วนเบียดชิดร่างกายบอบบางของเธอแนบแน่น และที่สำคัญส่วนนั้นของเขาผงาดอวดความแข็งขันบดเบียดหน้าขาของเธอ เธอไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสส่วนนั้นของบุรุษเพศมาก่อน การที่เจ้าส่วนนั้นของเขาเบียดชิดแสดงชัดว่ากำลังต้องการตัวเธอ ทำให้เธอพูดไม่ออก ทั้งตกใจและอยากรู้อยากเห็นทั้งที่รู้ว่ามันไม่สมควร เธอควรรังเกียจเขา ไม่ใช่ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น และแอบรอคอยว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอนับจากนี้ ‘บ้าที่สุดเลย’ หญิงสาวก่นด่าตัวเองให้สำเหนียกว่าตนเป็นเครื่องเซ่นสังเวยพรหมจรรย์ ที่เขาจะเสพสมแล้วฆ่าทิ้งวันใดก็ไม่อาจรู้ได้ ชีวิตของเธอไม่ตายก็เหมือนตาย “เจ้างดงามเหลือเกิน” เขากดริมฝีปากหนักๆ ลงบนยอดอกแผ่วเบา ตวัดปลายลิ้นชื้นลงบนยอดอกอิ่ม ลามเลียเชื่องช้ารุกเร้าก่อนจะดันดุนลิ้นลงบนเม็ดบัวแล้วใช้ฟันซี่ขาวขบกัดอย่างหยอกเย้า ขณะที่มือหนากอบกุมสองเต้าเอาไว้เต็มมือ บีบแรงจากนั้นจึงค่อยคลายออกช้าๆ ก่อนจะฟอนเฟ้นหมุนวนจนเธอเริ่มแอ่นหน้าอกขึ้นรับสัมผัสของเขา ยอดอกแข็งชูชันอย่างตื่นตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD