Chapter 3 สังเวยพรหมจรรย์
‘ท่านจะกลับเป็นมนุษย์ดังเดิม เมื่อได้รับและได้มอบสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดให้กับหญิงสาว’
เขายังจดจำถ้อยคำสุดท้ายก่อนที่แม่มดจะหายตัวไปได้อย่างแม่นยำ อะไรกันคือสิ่งล้ำค่าจากหญิงสาว หากว่าไม่ใช่เยื่อพรหมจรรย์ เขาเชื่อเช่นนั้นและพยายามตามหามานับร้อยปี หาผู้หญิงสักคนที่จะมอบสิ่งที่สำคัญที่สุดให้แก่เขาเพื่อลบล้างคำสาป
เมื่อการเสพสังวาสเป็นแค่เพียงหน้าที่เพื่อให้หลุดพ้นจากบ่วงสาป เขาจึงค่อยๆ ตายด้านและไม่รู้สึกต้องการผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาประกอบกิจอย่างรวดเร็วเพียงเพื่อทำลายเหยื่อพรหมจรรย์ของพวกเธอเหล่านั้น คนแล้วคนเล่า ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนทุกครั้ง...
แปลก! ร่างกายของเขาตื่นตัวและแข็งขันเพียงแค่ได้เห็นใบหน้า เรือนร่าง และกิริยาท่าทางของเธอ ยิ่งเมื่อได้สัมผัสลูบไล้ไปตามร่างกายนุ่มนิ่ม เขาก็แทบจะกลั้นหลั่งเอาไว้ไม่อยู่ เขาเกือบเป็นไอ้ไก่อ่อนเพียงเพราะเด็กสาวไร้เดียงสางั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
หมาป่าหนุ่มค่อยๆ ผละออกจากริมฝีปากหวาน เขาลากลิ้นร้อนตวัดปลายถันกดหนักๆ ก่อนจะดูดกลืนเข้าไปเต็มคำ มือหนาข้างหนึ่งเคล้นคลึงทรวงอกอิ่ม ส่วนมืออีกข้างนั้นเลื่อนลงต่ำบดขยี้เกสรดอกไม้จนเธอบิดร่างไปมา เขารอจนดอกไม้กลั่นน้ำหวานออกมาจนเปียกชุ่ม จึงจับขาของหญิงสาวกางออกแล้วเบียดเอวสอบเข้าไปแทน
หญิงสาวเบิกตาด้วยความกลัวเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะล่วงล้ำเข้ามาในกายเธอ ทว่าเธอกลับไม่มีสิทธิ์ได้ร้องประท้วงเพราะเขาก้มลงปิดริมฝีปากของเธอ จูบหนักร้อนแรงจนหัวใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นจังหวะ อาศัยช่วงที่เธออ่อนระทวยไปกับรสจูบ เขาก็ขยับแก่นกายชำแรกเข้าไปในร่องลึกทันที
“โอ๊ย!” หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มันบีบรัดแน่นไปหมด เธอส่ายหน้าแรงๆ จนผมสวยสยายเต็มหมอน ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ
“อยู่นิ่งๆ สาวน้อย” เขาก้มลงกอดเธอแต่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกจากกายเธอ
“ออกไป เอามันออกไปจากตัวฉัน!” หญิงสาวเริ่มดิ้นและต่อต้าน ทว่าหมาป่าหนุ่มกลับไม่สนใจ เขาแกะผ้าที่มัดข้อมือของหญิงสาวออก แล้วจับมือของเธอให้วางลงบนไหล่หนาของตนเอง
“ถ้าเจ็บก็หยิกลงมาแรงๆ ได้เลย เจ้าจะได้รู้สึกดีขึ้น”
เพียะ!
เธอไม่หยิกแต่เลือกที่จะตบเขาสุดแรง ใบหน้าหล่อราวกับรูปสลักมีรอยแดงเป็นรอยริ้วจากฝ่ามือ บ่งบอกว่าเขามีชีวิต มีเลือดเนื้อไม่ต่างจากเธอซึ่งเป็นมนุษย์
“ออกไป!”
เธอใช้สองมือดันที่แผงอกของเขา ดันแรงให้เขาถอยออกห่าง แต่ตัวเธอทั้งเล็กและบอบบางเมื่อเทียบกับร่างกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม ร่างกายของเขาจึงแทบไม่ขยับทั้งที่เธอออกแรงดันจนสุดแรง
“อะ...อือ”
หญิงสาวเผลอครางออกมาด้วยความตกใจ เพราะเธอดิ้นจึงทำให้เขายิ่งล่วงล้ำเข้าไปในกายเธอได้ลึกขึ้น และถึงแม้ว่ามันจะยังรู้สึกเจ็บแต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างแทรกผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบกระโจนออกมานอกอก ไม่กล้าขยับตัวอีกเลย มีเพียงดวงตาที่เขม่นมองชายหนุ่มอย่างมาดร้าย ทว่าเขากลับก้มลงจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ
“ดีมาก สักพักเจ้าจะรู้สึกดีขึ้น”
หญิงสาวกะพริบเปลือกตาถี่ด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะปิดริมฝีปากเธอด้วยจูบเร่าร้อน สะโพกสอบค่อยขยับพร้อมๆ กับจังหวะหัวใจของเธอที่กำลังเต้นแรงขึ้นด้วยความเสียวซ่าน แค่เขาขยับเบาๆ เธอก็หน่วงหวิวไปทั้งสรรพางค์กาย
“จะ...เจ้าช่าง...”
หมาป่าหนุ่มกัดฟันกรอดพยายามบังคับร่างกายเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ร่องลึกของเธอบีบรัดแนบแน่นจนเขาแทบทนไม่ไหว เขาหยุด...ก่อนจะใช้สองมือช้อนใต้สะโพกแล้วบีบก้อนเนื้อนุ่มเต็มมือ ดันสะโพกเธอให้แอ่นสูงขึ้นรับแก่นกายของเขาที่ค่อยๆ ขยับลึกจนสุดปลาย
กาแอลครางในลำคอ กัดฟันกรอดจนสันกรามนูนโปน ในขณะที่มนรดาสะท้านหวามจนคิดอะไรแทบไม่ออก ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำครางเบาๆ อยู่ข้างหู หัวใจและร่างกายของเธอก็ยิ่งเตลิดจนกู่ไม่กลับ บัดนี้เธอไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ความเจ็บ คับ แน่น จนน้ำตาไหลปริ่มขอบตาเมื่อครู่จางหายราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทว่าหมาป่าหนุ่มยังคงไม่กล้าขยับเพราะกลัวว่าสาวบริสุทธิ์จะเจ็บจนมีบาดแผลในใจ ส่งผลให้หวาดกลัวการมีเพศสัมพันธ์ในอนาคต น่าแปลกเหลือเกิน...เขาไม่เคยคิดใส่ใจความรู้สึกของผู้หญิงคนไหนเท่าผู้หญิงคนนี้มาก่อน...เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
มนรดาค่อยช้อนเปลือกตาขึ้นสบดวงตาสีแดงเพลิงอย่างช้าๆ การที่มีแก่นกายของหมาป่าหนุ่มชำแรกอยู่ในกายเธอ โดยที่เขาทำเพียงแค่ตระกองกอดเธอไว้แทบไม่ขยับ ทำให้เธอรู้สึกทรมาน และเธอก็จะไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นไปจากความทรมานนี้สักที
ไวกว่าความคิดเธอแอ่นสะโพกขึ้นสูง บดเบียดเสียดชิดความแข็งแกร่งของเขา แล้วเธอก็ได้ประจักษ์ว่าการขยับเสียดสีอวัยวะทั้งสองเข้าหากัน ทำให้เธอถึงกับต้องห่อปากด้วยความเสียวซ่าน ต่างจากคนตัวโตที่เลิกคิ้วขึ้นสูง เขาหยักยิ้มที่มุมปากก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวถอยออกมาจากร่างกายเธออย่างช้าๆ และโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเขาก็ดันตัวเองกลับเข้าไปจนสุดแรง
“อ๊ะ!”
มนรดาส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มส่งเสียงครางกระเส่าไม่ได้ศัพท์เมื่อเขาเริ่มขยับเข้าออกด้วยจังหวะต่อเนื่อง นาทีนี้หญิงสาวรู้สึกหูอื้อไปหมด มันหวิวไหวโหวงเหวงราวกับลอยคว้างอยู่กลางอากาศ สองมือเรียวเล็กจิกทิ้งไปตามร่างกายของเขาอย่างไม่รู้จุดหมาย
เธอส่ายหน้าไปมาแรงๆ ราวกับไม่ต้องการให้เขาโหมกระหน่ำกระแทกแก่นกายลงในร่องลึกของเธอ ทว่าเรียวขายาวกลับเกาะเกี่ยวพันรอบเอวสอบเอาไว้แนบแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะผละจากไป มันช่างเป็นความรู้สึกย้อนแย้งสับสนสิ้นดี
“กาแอล...”
“หืม...ว่ายังไงสาวน้อย”
เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ เธอ ทำให้หยดเหงื่อที่เกาะพราวใบหน้าหล่อเหลาหยาดหยดลงบนแก้มนวล กาแอลมองใบหน้าแดงจัดราวกับซับสีเลือดของเธอด้วยความหลงใหล การตอบสนองอย่างไร้เดียงสาของเธอทำให้เขาแทบคลั่ง