ตอนที่ 1

1514 Words
ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีนั่งดื่มเหล้าคนเดียวเงียบๆขณะที่ทอดสายตามองบรรยากาศรอบตัวของฝนที่พึ่งจะหยุดตกได้ไม่นาน สัมผัสกลิ่นไอดินหอมกรุ่นอบอวลเบาบางในแบบชอบมาก ตัวเขาชื่อ “ฮาร์ดิน” ไม่ใช่คนไม่ธรรมดาตรงที่เป็นนักฆ่าเชี่ยวชาญอาวุธหลายแขนงโดยเฉพาะปืนที่ยิงแม่นเหมือนจับวางเพราะถูกฝึกฝนมาตั้งแต่จำความได้ ปัจจุบันเขาอยู่ในกลุ่มแบล็คอายเป็นในหัวหน้าทั้งสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพราะต้องบงการนักฆ่าอีกนับสิบกว่าคนในสังกัดตามงานที่ได้รับมอบหมายและเสนองานตามค่าหัวของใครสักคนที่ได้รับมาหรือแม้แต่งานคุ้มครองจากนักฆ่าด้วยกันเอง เรียกได้ว่าชีวิตของเขาเป็นวงจรสีดำมืดสนิท ความรักมันคือสิ่งที่อ่อนแอมากสำหรับเขาและโคตรไร้สาระที่สุดเลยด้วย ทุกครั้งที่เห็นเพื่อนทำอะไรเหี้ยๆด้วยเหตุผลแค่นี้มันน่าตลกขบขันมากจนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นสักสามวันสามคืน เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยเปิดใจให้กับใครเพราะแค่เซ็กส์ก็มากเพียงพอจะระบายอารมณ์กำหนัดออกไปหมดแล้วจะมีเมียไปทำไมให้วุ่นวาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดเสมอว่าไม่สามารถมีความรักจนทำตัวไร้สาระแบบเพื่อนได้หรอกเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรต่อชีวิตสักนิดเดียวจนกระทั่งเขาได้พบกับเธอคนนั้น เธอชื่อ “เวย์” เป็นเด็กสาววัยสิบแปดปีแสนใสซื่อไร้เดียงสาและน่ารำคาญสำหรับเขาเสมอแต่กลับกลายเป็นเธอที่บังเอิญเข้ามาเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนหัวใจที่ด้านชา เปลี่ยนความรู้สึกจักรกลให้กลับมามีหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง เขาไม่รู้วิธีการจะรับมือกับผลกระทบรุนแรงนี้ได้ยังไง สิ่งเดียวที่เขารู้คือเธอจะต้องไม่เป็นของใครนอกจากเขาเท่านั้น เธอจะต้องไม่รักใครนอกจากเขา เธอจะต้องไม่สนใจใครนอกจากเขา เธอจะต้องไม่มีรอยยิ้มให้กับใครนอกจากเขาและทั้งร่างกายหัวใจหรือแม้แต่วิญญาณของเธอก็จะต้องยกให้กับเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!! ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้น... “สวัสดีค่ะมีคนอยู่ไหมเอ่ย?” น้ำเสียงหวานใสตะโกนเสียงดังในเพนท์เฮ้าส์ราคาแพงมากในมือถือถุงขนมที่มีคนสั่งให้เอามาส่งที่นี่และแม่บ้านก็พาเข้ามาแต่ว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนจนน่ากลัวว่าจะถูกหลอก “วางไว้ตรงนั้นแหละ” น้ำเสียงแข็งกระด้างดังมาจากชั้นสองตอบกลับมา นัยน์ตาคมปรายตามองเด็กสาวที่เคยเห็นอยู่ร้านกาแฟใกล้ๆก่อนจะตัดสินใจทำแบบนี้ “ค่ะ เอ่อ...ทั้งหมดห้าร้อยบาทค่ะ” เธอทำงานพาร์ทไทม์เพราะไม่มีใครเลยนอกจากพี่ชายที่พึ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อนทิ้งเงินไว้ให้มากพอสมควรแต่อนาคตใครจะรู้ว่าต้องใช้เงินอีกเท่าไรและจะพออยู่ได้อีกกี่ปีกว่าจะได้หาเงินเลี้ยงตัวเองจริงจัง เธอจำเป็นต้องมาหางานทำและพนักงานร้านขนมที่เปิดถึงเที่ยงคืนก็เหมาะมาก เธอทำพาร์ทไทม์ตั้งแต่สองทุ่มจนร้านปิดทุกวันแล้วยังได้น้ำและขนมกินฟรีเกือบทุกวันด้วยนะ “ชื่ออะไร?” ฮาร์ดินเดินลงมาจากชั้นสองหยุดตรงหน้าเด็กสาวน่ารักคนนี้ “ชื่อเวย์ค่ะ เอ่อ...ถ้าหนูทำอะไรผิดต้องขอโทษด้วยนะคะแต่พี่อย่าโทรบอกพี่เจ้าของร้านเลยนะคะ” เธอกลัวมากว่าจะทำอะไรไม่ถูกใจเขาในตอนนี้แค่เงยหน้ามองยังรู้สึกกลัว “ฝนพึ่งหยุดไม่คิดว่าจะมาเร็ว” เขาสั่งพึ่งคุกกี้ไว้กินกับกาแฟในช่วงเช้าของทุกวัน “คือว่าร้านใกล้ปิดแล้วหนูเลยรีบเอาส่งค่ะ” ตอนนี้มันห้าทุ่มกว่า เธอต้องรีบขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าใกล้พังที่พ่นควันไล่ยุ่งตลอดทางเพื่อส่งให้เขาเลยด้วย “อ่อ ไม่ต้องทอน” “หู้!! ตั้งห้าร้อยพี่ให้ทิฟเหรอคะ?” เขาจ่ายแบงค์พันมาแบบไม่รู้สึกอะไรเลยกับการไม่รับเงินทอนตั้งห้าร้อยบาทแหนะต่างกับเธอที่ตื่นเต้นเพราะนานๆทีจะได้ขนาดนี้ “อืม ค่ารถค่าน้ำมันรีบกลับไปซะมันดึกมากแล้ว” ถึงเขาจะพูดออกไปแบบนั้นแต่กลับกวาดสายตามองเธอด้วยความสนใจอย่างมากจนแทบไม่น่าเชื่อเลยด้วยซ้ำ ฉิบหายแล้วไง! เขาจะสนใจผู้หญิงคนนี้ได้ไงในเมื่อไม่รู้จักสักนิดเดียวแต่คิดได้แบบนั้นก็ไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ “แค่เศษตัง” “แต่ซื้อขนมได้อีกตั้งเยอะนะคะพี่” เธอตอบเขากลับเพราะคนรวยแบบเขาไม่รู้จักคุณค่าของเงินเอาซะเลยเงินตั้งห้าร้อยบาทซื้อข้าวได้เยอะแล้วได้ขนมอีกด้วยนะ “นี่เธอเถียงฉันเหรอ? เป็นแค่พนักงานกระจอกๆไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรทั้งนั้น” ฮาร์ดินแค่นเสียงพร้อมปรายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าพยายามไม่สนใจแต่ก็ละสายตาไม่ได้เลยขนาดว่าตอนนี้เธอเบะปากมองเขาด้วบความไม่พอใจอยู่แต่ก็ดูน่ามองมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาวะ!? “งั้นหนูกลับก่อนนะคะ” เธอบอกเขาเสียงอ่อยเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูดทุกอย่าง ในกลางดึกคืนนั้นฮาร์ดินนอนพลิกตัวไปมาไม่สามารถข่มตาหลับได้เลยเพราะว่ามันมีแต่ภาพเด็กคนนั้นวนเวียนตามหลอกหลอนไม่หยุด สุดท้ายเขาเดินลงไปชั้นล่างหยิบขนมขึ้นมาดูเบอร์โทรที่ติดไว้แต่ว่ามันเป็นเบอร์ร้านนี่สิไม่ใช่เบอร์เด็กคนนั้นเห็นทีพรุ่งนี้เขาต้องไปซื้อกาแฟกินตอนสองทุ่มอีกครั้งแน่นอน เวลาล่วงเลยไปถึงตีสามฮาร์ดินยังไม่นอนไม่หลับเลยเลือกจะฆ่าเวลาโดยการขับรถออกมาต่อยมวยซ้อมมือคนเดียวในออฟฟิศทำงานแต่ไม่ว่าจะพยายามสลัดภาพเด็กคนนั้นออกจากหัวเท่าไรภาพนั้นก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น “โธ่เว้ย!!” เขาสถบเสียงดังแล้วเดินไปหยิบเหล้ามายกดื่ม ที่ผ่านมาแทบไม่เคยมีอะไรที่เขาควบคุมไม่ได้แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปหมด เขาไม่สามารถควบคุมความคิดจิตใจตัวเองได้แม้แต่นิดเดียวแล้วยังนึกถึงสิ่งที่เขาไม่ต้องการคือเธอ “เป็นบ้าไงวะมาซ้อมตอนนี้!?” แคชเดินมานั่งไข้วห้างมองเพื่อนสนิทต่อยกระสอบทรายเหมือนคนบ้าหาที่ระบายอารมณ์ทั้งที่นี่ไม่ใช่นิสัยของฮาร์ดินเลยสักนิด “ยิงปืนแข่งกับกูไหม?” ฮาร์ดินไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้นตอนนี้แค่ทำทุกอย่างให้สมองกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิมก็พอ หรือเขาต้องฆ่าเธอทิ้งซะจะได้ไม่ต้องคิดถึง ปังๆๆๆ….. เสียงปืนนับสิบกว่านัดดังขึ้นกึกก้องไปทั่วทั้งห้องซ้อมแคชเหล่ตามองเพื่อนรักด้วยความงงงวยมากขึ้น คือว่าฮาร์ดินยิงปืนเป็นสิบกว่านัดแต่ทำไมเป้าไม่มีรอยอื่นเลยมีแค่รูเดียวอย่าบอกนะว่ามันยิงทุกนัดเข้าที่เดียวกันหมด คือมึงจะเทพไปไหม!? “ไม่สนุกเลยช่วงนี้มีงานไรสนุกๆมั้งวะ?” ฮาร์ดินเก็บปืนแล้วถึงมานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนต่อ “ไอ้เหี้ย!! มึงมาถามหางานตอนตีสี่นี่นะ มึงไม่คิดว่ากูจะงงมั้งเหรอวะ?!” ไอ้ฮาร์ดินมันเป็นค*ยอะไรอีกวะเนี่ยใครก็ได้บอกกูที “กูจำได้ว่าเคยฝึกไม่หลับไม่นอนสามวันติด” “คือตอนนั้นกูชนะแต่ว่าตอนนี้กูง่วงมาก!” แคชกระแทกเสียงใส่เพื่อนก่อนจะคว้าขวดเหล้าเดินออกจากห้องฝึกลับเฉพาะและจะหาที่นอนแถวนี้แหละเพราะว่าขี้เกียจขับรถกลับคอนโด “เอ้า! แล้วกูจะได้ไรแดก!?” “ซื้อแดกเองดิวะไอ้เวร!” แคชตะคอกกลับแล้วปิดประตูเสียงดังเดินออกไปจริงๆ ในตอนนี้เหลือเพียงชายหนุ่มคนเดียวในห้องที่เงียบสงัด ความจริงแล้วเวลานี้เขาควรจะนอนพักเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมงานในวันพรุ่งนี้หรืออีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้แต่กลับไม่หลับไม่นอนกินเหล้าก็ไม่รู้สึกมึนเมาอย่างที่ต้องการ นี่เขาคล้ายเครื่องจักรกลเข้าไปทุกวันแล้วนะแต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เจอหนึ่งอย่างที่ควบคุมไม่ได้คือความคิดถึงเธอ ต้องฆ่ายัยเด็กนั่นจริงๆใช่ไหมถึงจะหยุดได้?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD