คืนวันต่อมาเวลาสี่ทุ่มห้าสิบนาทีสาวน้อยหยิบถาดมาเก็บจานขนมและแก้วเครื่องดื่มที่ลูกค้าพึ่งดื่มเสร็จไปเสียงกระดิ่งดังกรุ้งกริ้งหน้าประตูบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาเธอถึงรีบวางแล้วให้เพื่อนอีกคนล้างไปก่อนแล้วออกมารับออเดอร์ต่อ
“โกโก้ปั่น ชีสเค้ก พายสตอเบอร์รี่” ฮาร์ดินสั่งโดยที่ไม่มองเมนูสักนิดเดียวแต่กลับมองหน้าคนมาจดรายการต่างหากแล้วดูเหมือนเธอจำเขาไม่ได้ด้วย
ปัดโธ่เอ้ย!! พึ่งเจอกันเมื่อวานเองนะเว้ย
“ขอเบอร์หน่อยสิ” คำพูดสั้นๆที่เขาอยากจะดึงกลับมาคืนที่สุดในตอนนี้เลย
“เบอร์ร้านเหรอคะ?” เวย์ถามเสียงใสกะพริบตาถี่ๆรู้สึกคุ้นหน้าลูกค้าคนนี้จังเลยแต่ว่านึกไม่ออก
“พี่เบอร์เวย์ได้ไหม?”
"เอ่อ...คือว่า…"
“กดเบอร์มาเร็วแอดไลน์ด้วยนะแล้วพี่ขออินสตาแกรมเดี๋ยวนี้!”
“….!!”
“มัวแต่ทำหน้าเอ๋ออยู่นั่นแหละนี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง?” นี่เขาส่งโทรศัพท์ให้เธอเองกับมือเลยนะทำไมถึงยังทำอ่ำอึ้งด้วยละ หรือว่าจะมีลูกค้ามาจีบบ่อยถึงได้ทำหน้าเอ๋อแดกแบบนี้
“คือ…” เธอกำลังจะบอกเขาก็พูดตัดแล้วจ้องเธอได้โคตรน่ากลัวมากเลย
“เดี๋ยวนี้!!” เขาไม่ชอบคนขัดใจขัดคำสั่งแล้วการทำตามมันยากนักรึไงห่ะถึงได้นิ่งเป็นศพอยู่นั่น เขาเอื้อมมือจับแขนเธอดึงเข้ามาใกล้สบแววตาตื่นตระหนกแล้วอยากจะชักปืนมายิงสักที เห้ย! นี่เขาไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะถึงหน้าจะดุเสียงจะแข็งแต่จริงๆเขาเป็นบ้ากว่าที่เธอคิดไว้เยอะ
“ปะ...ปล่อยหนูก่อน!!” เธอแกะมือเขาออกแต่คนบ้าอะไรแรงเยอะขนาดนี้
“แล้วจะให้ไหม?”
“หะ...ให้ค่ะ!!”
“เออ! ปล่อยก็ได้แล้วเมื่อไรจะเลิกงาน”
"..." เขายอมปล่อยมือก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้เธอกดเบอร์โทรด้วยมือสั่นๆทั้งที่เป็นคนหน้ากลัวมากแต่ทำไมหน้าจอโทรศัพท์ถึงได้หล่อขนาดนี้นะ ภาพเหมือนพึ่งตื่นนอนถ่ายแบบไม่ใส่เสื้อแต่โคตรขาวเห็นแล้วสับสนมากว่าควรจะกลัวหรือควรจะชอบดี
“ถามก็ตอบ!!”
“เที่ยงคืนค่ะ!!!” โอ๊ย…เขาน่ากลัวอ่า
“ไปกินข้าวไหม?” เขายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยเพราะว่ามัวแต่ทำงานเพลินไปนิดนึง
“กินข้าว?” รู้ไหมว่าเขาเป็นลูกค้าที่แปลกมาก
“ไม่ค่ะ คือว่าหนูต้องรีบกลับหอพักขอตัวน่ะค่ะ” ใครอยู่ได้ก็เชิญเธอไปก่อนแล้วคนอะไรน่ากลัวขนาดนี้เกิดมาปล้นร้านหรือไม่พอใจจนฆ่าเธอขึ้นมาจะทำไงละ
ขนมกับเครื่องดื่มเธอให้เพื่อนไปเสิร์ฟแทนแล้วแอบดูเขาที่หลังเคาน์เตอร์แทน คนอะไรหล่อจังเลยแต่ดุแล้วน่ากลัวมากเชื่อไหมว่าตั้งแต่เขาเดินเข้ามายังไม่เห็นยิ้มเลยมันแปลกมากๆ
“เห้ย! พี่คนเมื่อวานนี่!!” เธอพึ่งจะนึกออก
“นี่แกหล่อเนอะ?” นิลเพื่อนอีกคนเดินมาบอก
“อืม แกว่าเขาน่ากลัวป่ะ? แล้วเขาให้ทิฟไหม?” เธออดจะถามไม่ได้เลยจริงๆ
“ก็ให้นะแต่ไม่กี่สิบบาทเองคือเขาไม่เอาตังทอนที่เป็นเหรียญน่ะ” นิลมองลูกค้าสุดหล่อด้วยความงงนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรเงินทองมันของหายากแค่เขาให้บ้างเธอก็ก็ดีใจแล้ว
ไม่นานเขาก็ไปเธอกับเพื่อนช่วยกันปิดร้านกันก่อนจะกลับไปพัก โชคดีนะที่หออยู่ใกล้มากขับรถมาแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงห้องแล้วแต่ก็ยังไม่นอนเพราะอาบน้ำเส็รจก็มานั่งอ่านหนังสือต่อประมาณครึ่งชั่วโมงนั่นแหละถึงได้ปิดไฟนอนพักจริงๆแต่กำลังจะหลับเสียงไลน์ดังขึ้นนี่สิ
ฮาร์ดิน : ฝันดีนะ
เวนิส : ค่ะ พี่ชื่ออะไรคะ
ฮาร์ดิน : ดิน จะนอนยัง?
เวนิส : ฝันดีค่ะ
ชายหนุ่มยืนพิงประตูห้องเธอด้วยใจเต้นระทึกไม่คิดว่าจะคุยกับเธอได้แล้วเขายิ้มทำบ้าอะไรเนี่ย! หุบยิ้มสิโว๊ย!! แม่งคุมตัวเองไม่ได้เลยยัยเด็กเวย์จะรู้ตัวบ้างไหมว่าทำให้เขาเป็นเหมือนคนบ้าแบบนี้
“เห้อ…กูเป็นเชี้ยไรวะ?”
หนึ่งเดือนผ่านไปชายหนุ่มนั่งมองนาฬิการอเวลาที่ขนมจะมาส่งเหมือนทุกวัน เขาสั่งทีละไม่เยอะมากเพราะเคยสั่งเยอะแล้วกินไม่หมดง่ายๆนี่สิเลยต้องเอาไปแบ่งให้เพื่อนสองคนช่วยกินแทนจะได้สั่งเพิ่มและเจอเธอทุกคืน
“ขนมมาส่งค่ะ” เวย์เดินเข้ามาภายในเพนท์เฮ้าส์อย่างคุ้ยเคยเพราะมาส่งที่นี่ทุกวันเลย เธอไม่รู้ว่าเขากินขนมทันได้ไงสั่งทีละห้าร้อยบาทตลอดไม่เคยขาดหรือเกินสักครั้ง
“มาช้า” ฮาร์ดินนั่งไข้วห้างรออยู่แล้วแต่ยังไม่คิดจะเดินไป
“วันนี้หนูเเตรียมตังทอนมาด้วยนะ” และทุกครั้งเขาไม่เคยรับเงินทอนจากเธอเลยสักครั้งแล้วก็จ่ายด้วยแบงค์พันตลอดจนน่าแปลกใจมากๆ
“เงินไว้กินขนมเถอะ อืม…เลิกงานแล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินกันไหม?” เขาก็ชวนเธอแบบนี้ทุกวันแต่เธอก็ปฎิเสธทุกวันจนน่าหงุดหงิดมาก
“ไม่ค่ะ หนูกินข้าวที่ร้านแล้ว”
“กินกับใคร?”
“ก็เพื่อนค่ะ พี่ดินมีอะไรรึเปล่าคะ?” เธอชักจะกลัวเขามากขึ้นทุกวันแล้วนะ
“ผู้หญิงผู้ชาย?”
“ก็ทั้งสองค่ะ”
“พี่ไม่ชอบให้ยุ่งกับผู้ชาย” ทีเขาชวนเธอกินข้าวด้วยทุกวันไม่เคยได้แล้วไอ้เหี้ยนั่นมันเป็นใครเธอถึงยอมกินด้วยง่ายดายขนาดนั้น ฮาร์ดินลุกขึ้นเต็มความสูงหยิบขนมพร้อมจับเงินยัดใส่มือเธอแต่ยังไม่ปล่อยมือเธอไป
“พี่ไม่มิสิทธิ์มาจับมือหนูนะ!” เธอแกะมือเขาออกแต่เขายิ่งดึงเข้าใกล้มากขึ้น
“อย่าให้พี่ต้องโกรธนะเวย์!” ฮาร์ดินบอกเสียงเบาก่อนจะก้มหน้าไปหอมแก้มเธอจนเต็มปอด
“เคยมีใครหอมบ้างรึยัง?” เขากระซิบถามชิดใบหูเล็กๆ
“ยะ...ยังค่ะ” หัวใจเต้นแรงมากขึ้นทั้งกลัวทั้งเขินจนแทบทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้วนะ
“เลิกงานแล้วมาหาพี่ได้ไหม?” เขาแทบไม่เคยร้องขอใครแบบนี้เลยแต่กับเธอเขายอม
“ไม่ค่ะ พี่น่ากลัว!” เธอหลบนัยน์ตาดุก่อนจะผลักเขาออกรีบวิ่งออกไปด้วยความกลัวหนักมาก
ฮาร์ดินยืนมองนิ่งๆไม่คิดจะตามไปเพราะเขาให้คนคอยติดตามเธออยู่แล้ว ถ้าคืนนี้เธอไม่มาหาเขารับรองว่าจะไปหาเธอเองถึงห้องนอนเลยด้วย อย่าคิดว่าแค่นี้จะหนีรอดได้เพราะว่าเขาจะไล่ล่าและเอาทุกอย่างที่เป็นเธอมาเป็นของตัวเองให้หมดทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ลมหายใจ
“หนูไม่มีวันหนีพี่พ้นหรอกเวย์”
เมื่อถึงเวลาเลิกงานเวย์ปิดร้านก่อนจะแวะซื้อน้ำกับขนมเล็กน้อยที่ร้านสะดวกซื้อใกล้หอพักแล้วเผลอคิดเรื่องเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนด้วยหัวใจสั่นสะท้าน เธอคิดถึงคนน่ากลัวคนนั้นได้ไง! จะว่าเขาจีบเธอเหรอก็ไม่น่าจะใช่นะเพราะไม่เห็นแสดงอะไรออกมาเลยนอกจากวันนี้จะลวมลามเธอด้วยการหอมแก้ม
งื้อ…คิดแล้วก็เขิน!
“พรุ่งนี้หนูจะกล้าไปหาไหมเนี่ย!”
เวลาล่วงเลยไปถึงตีสองที่ควรเป็นเวลานอนของใครหลายคนแต่ไม่ใช่กับเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มนั่งยิ้มที่โต๊ะหนังสือของเธอภายในมือถือกล้องถ่ายรูปคุณภาพดีเดินไปรอบๆเตียงขนาดเล็กที่เวย์กำลังนอนหลับฝันดีก่อนจะหามุมกดชัตเตอร์ถ่ายรูปบันทึกเอาไว้ดูเล่นแก้เบื่อในช่วงที่ว่าง
แววตาคมกริบมองอย่างโลมเลียในขณะที่นิ้วเรียวยาวเกลี่ยผิวหน้าเนียนมีไฝเล็กๆที่ใต้ตาแต่ก็ไม่น่าเกลียดอะไรสักนิดกลับดูน่ารักมากกว่า เขานั่งลงกับพื้นเพราะเตียงเธอมันต่ำก่อนจับมือบางแสนนุ่มมาพรมจูบอย่างแผ่วเบา
รักเธอ!
รักเธอมาก!!
รักเธอมากเหลือเกิน!!!