Chapter 10

1429 Words
หลังจากที่ทั้งสองคนขับรถเล่นจนเหนื่อยก็กลับมาที่ไร่เพื่ออาบน้ำพักผ่อน ตอนนี้ดิวแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำกับน้ำเหนือ เขานอนพิงกับขอบอ่างโดยมีหญิงสาวกำลังนั่งตะไบเล็บให้อยู่ "เล็บมีแต่ดินเต็มไปหมดเลยค่ะ พี่น้ำเหนือต้องล้างทุกครั้งนะไม่งั้นมันจะสะสมเป็นเชื้อโรค" "ไม่มีคนทำให้อ่ะ อีกอย่างทำไร่ทำสวนทุกวันจะให้สะอาดเหมือนทำงานออฟฟิศได้ยังไงล่ะ ถ้าว่างงั้นทำให้ทุกวันแล้วกัน" เขาเอ่ยออกมาก่อนจะลูบผมหญิงสาวเล่น ดิวหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "ได้ค่ะ งั้นต่อไปนี้ดิวจะขัดเล็บให้ค่ะ" "อืม โอเคว่าง่ายค่อยน่ารักหน่อย" เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะหลับตาลงอย่างสบายตัว นอนแช่น้ำอุ่นก็สบายตัวดี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาเปิดน้ำอุ่นให้แช่นั่งขัดเล็บขัดตัวให้โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร ก็สบายดีนะ... "เสร็จแล้วค่ะ สะอาดแล้ว" เขาลืมตาขึ้นมองหญิงสาวแผ่นหลังขาวนวลชวนหลงไหล เป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆสวยไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ "นี่ยัยเตี้ย" "เรียกดิวสิคะ เตี้ยมันเหมือนบูลลี่กันเลยอ่ะ" หญิงสาวทำหน้ายู่ซะก่อนจะถูสบู่ให้ตัวเอง ทำใจนานมากกว่าจะเข้ามาอาบน้ำกับเขาได้ มันไม่ชินและยังรู้สึกเขินที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าเขา แต่เขาก็อ้างสิทธิ์ความเป็นผัวเมียจนเธอต้องยอมแพ้เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะเป็นรองเขา ให้ทำอะไรก็ต้องยอมหลีกเลี่ยงไม่ได้ "เรียกเตี้ยนั่นแหละน่ารักดีออก ขึ้นได้แล้วแช่นานไปละ" อยู่ๆเขาก็ลุกขึ้นยืน ดิวเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรู้สึกเขิน ก็เพราะความเป็นชายของเขามันโชว์หราอยู่ตรงหน้าเธอแถมยังแข็งตัวจนเธอเริ่มกลัวอีกครั้ง "ทำอย่างไม่เคยเห็นไปได้" เขาดึงเธอให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะโอบเอวไว้หลวมๆ "ไปสนุกกันบนเตียงดีกว่า ผ่อนคลายไง" เขายิ้มมุมปากก่อนจะล้างเนื้อล้างตัวแล้วลากหญิงสาวไปจัดหนักบนเตียงต่อ เธอร้องลั่นออกมาแต่ก็ไม่สามารถขัดอะไรเขาได้ บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่ต้องทำตัวน่ารักถ้าเขาอยากก็ต้องยอม... มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ตกเย็น... "ดิวช่วยนะคะคุณแม่" ตอนนี้เธอออกมาช่วยคุณแม่จัดโต๊ะอาหารเย็น เมื่อเห็นหญิงสาวในเวลานี้ก็คิดว่าลูกชายน่าจะเคลียร์เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าจะต้องแอบถามอีกที "จ้ะ หนูไปหยิบน้ำเย็นในครัวมาสิลูก" "ได้ค่ะ" ดิวเดินออกไปทันที ลูกชายเธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ในสภาพเหนื่อยล้า จัดหนักไปหน่อยปวดตัวไปหมดเลย "มีอะไรกินบ้างครับแม่" "เยอะแยะ ว่าแต่เรื่องน้องจัดการยังไงบ้าง จะให้ไปทำงานอยู่เหรอเราจะใจร้ายเกินไปรึเปล่า" คนเป็นแม่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเด็กสาว ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเอ็นดูและสงสารเด็กคนนี้มากเป็นพิเศษ หรือเพราะว่าตกอยู่ในสถานะเดียวกันมาก่อนล่ะมั่ง "ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะไปรับไปส่งน้องเอง แล้วก็จ่ายเงินเดือนทุกเดือนไม่ให้ไปลำบากทำงานหรอกครับ พอใจแม่นะ" เขาเอ่ยประชดเล็กน้อย เพิ่งเจอกันไม่นานแต่เอ็นดูดิวมากกว่าเขาที่เป็นลูกอีก ไม่รู้ไปรักไปหลงอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ "จ้ะให้มันจริงเถอะ" "มาแล้วค่ะ" เด็กสาววางเหยือกน้ำเย็นลงที่โต๊ะ พ่อเลี้ยงคาวีเดินออกมาจากห้องก่อนจะนั่งลงตรงข้ามลูกชาย "พ่อไม่เจอเราเลย ไปส่งน้องแล้วไปแวะไหน" "ส่งแล้วรอรับกลับมาครับพ่อ ไปเดินห้างด้วยแล้วก็ช่วงบ่ายพาน้องไปเก็บองุ่นที่ไร่เพิ่งจะกลับมาก็หลับเพิ่งตื่นเนี่ยครับ" พ่อเลี้ยงคาวีพยักหน้าอย่างเข้าใจ นึกว่าลูกชายไปธุระที่ไหนแล้วปล่อยให้เมียกลับบ้านคนเดียวซะอีก "พ่อนึกว่าเราปล่อยน้องกลับคนเดียวซะอีก" "ผมรับกลับมาด้วยครับพ่อ ทั้งคู่เลยเห้อ! เตี้ยมานั่งนี่มา" เขากวักมือเรียกเด็กสาว คุณแม่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ตีแขนลูกชายทันที "ไปเรียกน้องแบบนั้นลูกคนนี้" เขายิ้มขำก่อนจะดึงดิวมานั่งลงข้างๆ "น่ารักดีออก เนาะ" หญิงสาวยิ้มเขินก่อนจะตักกับข้าวให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ คุณแม่กับคุณพ่อเห็นสองคนดูเข้ากันได้ดีก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ท่าทางลูกชายตัวดีจะมีความสุขเมื่อมีเด็กสาวคนนี้เข้ามาในชีวิต "เราก็กินบ้างสิ อ่ะตักให้" "ขอบคุณค่ะ" ทั้งสองคนตักนั่นตักนี่ให้กัน คนเป็นแม่เห็นเด็กสาวยิ้มได้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด เพราะเวลาถามอะไรเธอจะมีใบหน้าเศร้าแสดงออกมาตลอดเหมือนคนอมทุกข์ "หนูดิวลูกพรุ่งนี้ไปเรียนมั้ยจ๊ะ" "ไปค่ะ มีเรียนทั้งวันเลย" "แม่ว่าให้คนขับรถไปส่งมั้ยน้ำเหนือ วันไหนเราต้องทำงานเช้าจะไม่สะดวกไปส่งน้องเอานะ" คุณแม่หันไปมองลูกชายอย่างมีคำถาม เขานิ่งคิดซักพักก่อนจะหันไปมองหญิงสาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากทิ้งให้เธออยู่คนเดียวเท่าไหร่ อย่างน้อยถ้าเขาไปรับและไปส่งเธอจะได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง จากเมื่อกลางวันที่เขาเห็นเธอร้องไห้คงจะโดดเดี่ยวมากพอสมควร "พรุ่งนี้ผมจะไปเก็บของที่หอพักของดิวครับแม่ ไหนๆก็มาอยู่ที่นี่แล้วจะเช่าทำไมให้เสียเงิน เอาเป็นว่าต่อจากนี้ถ้าผมว่างจะไปส่งเองถ้าไม่ว่างก็ให้คนขับรถไปแล้วกัน" คุณแม่พยักหน้าอย่างเข้าใจที่ลูกกำลังจะสื่อ เอาแบบนี้ก็ได้อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อย ไม่ต้องนั่งรถไปเองแค่นี้ก็พอแล้ว "อืม เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้าหนูเบื่ออยากทำงานมาอยู่คาเฟ่กับแม่นะลูก" "ได้ค่ะคุณแม่ หนูจะไปช่วยวันหยุดนะคะ" "จ้ะ ทานข้าวเถอะตัวเล็กมากเลยเรานะกินเยอะๆ" คุณแม่ตักนั่นนี่ให้เด็กสาวไม่หยุด น้ำเหนือมองทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอโดยเฉพาะดิวที่ยิ้มสดใสมากเป็นพิเศษ แสดงว่าครอบครัวของเขาคงจะทำให้เธอรู้สึกไม่ขาดซึ่งถือว่าเขาคิดถูกที่รับเธอไว้ในฐานะเมียและให้มาอยู่ตรงนี้ เด็กคนหนึ่งที่ต้องโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพิงอย่างดิว น่าจะมีสถานะเดียวกับแม่เขาในอดีตจึงทำให้คุณแม่ของเขาเอ็นดูเธอมากกว่าคนอื่น พอรู้จักกันไปเรื่อยไปเธอเด็กที่น่ารักคนหนึ่งเลยแหละ แถมยังพูดจาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดพ่อเขายังเอ่ยปากชมเลย หลังจากทานข้าวเสร็จน้ำเหนือก็ไปนั่งเล่นหน้าทีวีในห้องนอนของตัวเอง ส่วนดิวมาปอกผลไม้ให้ชายหนุ่ม เมื่อเรียบร้อยก็ถือจานเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำผลไม้คั้นสดๆ "มาแล้วค่ะ" "นานจัง ทำอะไรเยอะแยะ" หญิงสาวนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม เธอส่งแก้วน้ำผลไม้ไปให้เขาชิมก่อนจะเอ่ยถามเสียงหวาน "อร่อยมั้ยคะ" "อืม อร่อยดีทำเองเหรอ" "ค่ะ นี่เมล่อนค่ะปอกเรียบร้อยเย็นชื่นใจเลยด้วย" หญิงสาวยื่นจานไปตรงหน้าชายหนุ่ม เขาหยิบรีโมททีวีมาถือไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาหน้ามึน "มือไม่ว่างจับรีโมทอยู่" เขากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆยังตีมึนไม่ยอมกินเองอีก หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะป้อนเขาเอาถึงปาก "บอกว่าป้อนหน่อยก็ได้ค่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อมขนาดนั้นก็ได้ ดิวเข้าใจอะไรง่าย" เขาอ้าปากงับเมล่อนก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ย ใช้มือหยีผมหญิงสาวอย่างหมั่นไส้สุดขีด "พูดมากเด็กเตี้ย ป้อนมาเร็วๆ" "ค่าาาา รับทราบค่ะนายท่าน" "หึ! เดี๋ยวจะโดน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD