Chapter 3

1478 Words
วันต่อมา.... หลังจากที่ดิวไปเรียนหนังสือช่วงเช้ามาเรียบร้อยเธอก็กลับมาเอากระเป๋าที่หอพักเก็บของจำเป็นก่อนจะหิ้วไปขึ้นแกร็บแท็กซี่ตรงถนนที่เธอนัดไว้ "ไปไร่คาวีวิลล่าใช่มั้ยครับ" "ค่ะ ไปที่ไร่เลย" เธอยิ้มออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดอ่านข้อมูลภายในไร่ เมื่อคืนเขาบอกว่าจะนอนที่ไร่แสดงว่าคงอยู่ที่นั่นแหละ ใช้เวลาเดินทางจากหอพักของเธอไปถึงไร่ประมาณราวๆหนึ่งชั่วโมง ถือว่าค่อนข้างไกลมากพอสมควร แล้วแบบนี้จะมาทำงานยังไงเนี่ยยังคิดไม่ออกเลย แต่ก็ช่างมันเถอะเอาเป็นว่าไปเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองก่อน แล้วค่อยจัดการอีกที เมื่อมาถึงที่ไร่เธอก็จ่ายเงินให้คนขับแล้วหิ้วกระเป๋าไปตรงป้อมยามหน้าไร่ "สวัสดีครับ ติดต่ออะไรครับ" "สวัสดีค่ะ มาหาคุณน้ำเหนือค่ะ" "คุณน้ำเหนือหรือครับ งั้นรอซักครู่นะครับ" เขาหยิบโทรศัพท์กดโทรเข้าไปร้านกาแฟภายในไร่ ตอนนี้คุณหญิงของบ้านยังทำขนมอยู่ที่นั่น "คุณผิงครับมีคนมาขอพบคุณน้ำเหนือครับ" (ให้มาหาที่ร้านเลยจ้ะลุง) "ครับๆ" เขากดวางสายก่อนจะเชิญเด็กสาวในชุดนักศึกษาให้ขึ้นรอกอล์ฟของไร่แล้วพาไปส่งที่ร้านไม่ไกลจากป้อมยามมากนัก ดิวมองไปรอบๆก่อนจะร้องว้าวออกมาทันที "ว้าว... ใหญ่มากเลยค่ะ" "ที่นี่มีร้อยกว่าไร่นะหนู ไม่เคยมาสินะ" "ไม่เคยค่ะ" "อ่อ เดี๋ยวเข้าไปเลยนะครับ แล้วก็บอกว่ามาพบคุณผิง" "คุณผิงคือใครคะ" "คุณแม่ของคุณน้ำเหนือ เจ้าของไร่ที่นี่นะ" "อ่อ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ดิวยิ้มออกมาก่อนจะหิ้วกระเป๋าลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้านกาแฟ สวยมากแถมมีลูกค้ามาเที่ยวอีก เธอเดินเข้าไปข้างในก่อนจะมองซ้ายมองขวาตามหาผู้หญิงที่ชื่อขนมผิง "สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ" "มาหาคุณผิงค่ะ" พนักงานเชิญให้เธอไปนั่งลงที่โต๊ะก่อนจะกลับไปหลังร้านแล้วตามนายหญิงของไร่ออกมา ขนมผิงวางทุกอย่างลงก่อนจะเดินออกมาหา เมื่อเห็นเด็กสาวใบหน้าสวยในชุดนักศึกษาก็นิ่วหน้าด้วยความประหลาดใจ "หนู... มาหาน้ำเหนือเหรอ" ดิวเห็นผู้หญิงที่สวยและดูภูมิฐานก็ลุกขึ้นก่อนจะยกมือไหว้แล้วยิ้มออกมาทันที "ค่ะ หนูชื่อดิวค่ะ มาหาพี่น้ำเหนือ" ขนมผิงมองเด็กสาวพร้อมกระเป๋าในใจก็เริ่มมีคำถามมากมายเต็มไปหมด "หนูเป็นอะไรกับเจ้าน้ำเหนือ" คำถามแรกที่เธออยากจะรู้มาก เพราะดูแล้วเด็กคนนี้อายุน่าจะเด็กกว่าลูกชายเธอมาก ที่สำคัญอายุถึงสิบแปดรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าใส่ชุดนักศึกษามาแบบนี้น่าจะถึงอยู่ล่ะมั่ง "พี่น้ำเหนือเค้า... คือว่า" ดิวกระพริบตาปริบๆบีบน้ำตาออกมาอย่างรู้งาน เธอต้องดราม่าให้มากที่สุดเพื่อที่คุณผิงหรือคุณแม่สามีในอนาคตจะได้เอ็นดูและสงสาร เธอยกมือปิดหน้าตัวเองไว้ก่อนจะร้องไห้ออกมาทันที ขนมผิงตกใจรีบเข้ามาปลอบเด็กสาวก่อนจะพาออกไปข้างนอกพร้อมกับกระเป๋าของเธอด้วย "ใจเย็นๆหนู เล่ามาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ดิวเงยหน้ามองคุณแม่ผิงก่อนจะเริ่มเล่าตั้งแต่เธอไปรับงานพิเศษในคืนงานเลี้ยงรุ่น แล้วบังเอิญไปเจอกับน้ำเหนือ เขาเข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เพื่อนส่งมาเธอบอกเขาแล้วว่าไม่ใช่ แต่เขาไม่ยอมฟังแถมยังขืนใจเธอในคืนนั้นด้วย "ฮึก! พี่น้ำเหนือเค้าขืนใจดิวค่ะ แล้วตื่นเช้ามาก็เอาเงินฟาดหัว ฮือออ พี่เค้าพรากพรหมจรรย์หนูไปแถมยังย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงอีก คุณแม่ต้องให้ความยุติธรรมกับหนูนะคะ" เธอดราม่าเล่นใหญ่โอเวอร์มาก แล้วขนมผิงผู้ที่มีปมในใจเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงมาก่อนก็อินมากเป็นพิเศษแถมยังโกรธลูกชายมากที่ทำร้ายอนาคตเด็กคนหนึ่งแบบนี้ "โธ่ลูก หนูอายุเท่าไหร่แล้ว" "สิบเก้าค่ะ เพิ่งจะขึ้นปีสอง" ขนมผิงทำท่าทางจะเป็นลม อายุวัยนี้เท่ากับเธอเพิ่งจะคบหากับสามีใหม่ๆเลย ทำไมพ่อลูกเชื้อมันไม่ทิ้งแถวแบบนี้นะ นี่คิดว่าน้ำเหนือจะไม่เหมือนพ่อแล้วนะ แต่ไหงตอนนี้ก็อปปี้กันมาแบบนี้ "แม่จะเป็นลม ไปเถอะไปที่บ้านกัน แม่จะให้ความยุติธรรมกับหนูเองไม่ต้องห่วงนะลูก" "ฮือออ ขอบคุณนะคะคุณแม่" ดิวกอดเอวท่านอย่างซาบซึ้งใจ ทำไมว่าที่แม่สามีถึงดีขนาดนี้อ่ะ นิสัยต่างจากลูกราวฟ้ากับเหวเลยรายนั้นอย่างกับคนไม่มีหัวใจ เธอช้ำทั้งตัวแถมยังถูกพรากความบริสุทธิ์ไปอีก แต่เขายังทำเฉยไม่รู้สึกอะไรเลย ถึงบอกไงว่าเขาใจร้ายเกินไป "ไม่เป็นอะไรลูก กลับบ้านกันเดี๋ยวแม่จะจัดการถามเจ้าน้ำเหนือให้รู้เรื่องกันไปเลย" ทั้งสองคนพากันขึ้นรถก่อนจะขับเข้าไปที่บ้านทันที น้ำเหนือที่วันนี้ว่างไม่มีงานที่ไหนก็อยู่บ้านกับพ่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ ปกติเขางานยุ่งมากนี่เพิ่งจะปิดดิวงานต่างประเทศไป ขอพักสมองซักวันแล้วกัน "ไงลูกชาย เหนื่อยล่ะสิ" "ก็เหนื่อยเป็นปกติครับพ่อ แต่ว่าพักซักวันก็ดีขึ้นแล้ว" "ว่าแต่สาวๆเราไม่มีบ้างเหรอ พ่ออยากให้ลูกแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ จะอายุยี่สิบหกปีแล้วควรมีได้ล่ะ" เขาหันไปมองพ่อก่อนจะยักไหล่อย่างเฉยๆ บอกแล้วไงว่าชอบสภานะแบบนี้มากกว่า อยากก็หาเด็กมาบำเรอไม่ต้องมีเป็นตัวเป็นตน เขาเป็นคนที่งานยุ่งมากไม่มีเวลามาดูแลผู้หญิงคนไหนหรอก "ผมอยู่แบบนี้ก็สบายดีครับ มีแล้วเหมือนจะดูแลไม่ได้ยังไงไม่รู้ พ่อก็รู้ว่าผมงานยุ่งมาก" "ไม่เห็นเกี่ยวเลย ตอนพ่อหนุ่มๆก็ยุ่งแบบนี้ไม่เห็นจะดูแลแม่ไม่ได้เลย" คนเป็นลูกกำลังจะตอบกลับแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเสียงของคุณแม่ดังขึ้นมาจากหน้าบ้าน "น้ำเหนือนี่ใครลูก เขาบอกว่าเป็นเมียเราอ่ะคือแม่งงไปหมดแล้ว น้องเพิ่งจะสิบเก้าเองนะลูก" คนเป็นแม่พาเด็กสาวที่ถือกระเป๋ามาหาเขาที่ไร่ น้ำเหนือเห็นหน้าก็ตาโตอย่างตกใจ เด็กคนนี้ที่เขาเมาแล้วเผลอไปมีอะไรด้วยแถมยังไปพรากความบริสุทธิ์ของเด็กอีก ดีที่ไม่พรากผู้เยาว์ไม่งั้นติดคุกหัวโตแน่นอน "คือผม..." "พี่น้ำเหนือต้องรับผิดชอบดิวนะ ได้แล้วก็ต้องรับผิดชอบสิ" "แต่พี่ให้เงินเราไปแล้วนี่... จะเอาเพิ่มอีกเท่าไหร่ล่ะ" หญิงสาวบีบน้ำตาร้องไห้ออกมาทันที เธอไม่ได้ขายตัวซักหน่อยจะมาจ่ายเงินแล้วชิ่งไปได้ยังไงกัน "ตายแล้วน้ำเหนือทำไมพูดกับน้องแบบนั้น" "คือผม..." "ฮืออออออ ดิวไม่ได้ขายตัวซักหน่อย คุณแม่ขาทำไมพี่น้ำเหนือถึงไม่มีความรับผิดชอบเลย คืนนั้นเมาแล้วเป็นอีกคนพอตื่นมาเป็นอีกคน พี่เขาให้เงินดิวแล้วก็บอกว่าจบๆกันไปค่ะ แต่ดิวเสียตัวไปแล้วนะคะ คุณแม่ต้องให้ความยุติธรรมกับหนูนะ ฮึก!" ดิวร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น พ่อเลี้ยงคาวีมองลูกอย่างตกใจ เด็กเพิ่งจะอายุสิบเก้าปีแต่ลูกเขาไปพรากพรหมจรรย์เด็กมาเนี่ยนะ ไม่ติดคุกก็ดีเท่าไหร่แล้ว "น้ำเหนือนี่ลูกคิดยังไงล่อเด็กวัยเท่านี้เนี่ย ดีว่าถึงสิบแปดไม่อย่างนั้นติดคุกไปแล้ว" "ไม่ต้องมาด่าลูก เชื้อมันไม่ทิ้งแถวนะสิ! บาปกรรมของพ่อเลี้ยงนั้นแหละตกมาถึงลูก" พ่อเลี้ยงคาวีอ้าปากค้างอย่างเถียงไม่ออก เขาก็ล่อแม่ของลูกตอนอายุวัยนี้เลยนี่หว่า จะด่าลูกก็ไม่ได้ด้วยเอาเป็นว่าจัดการเองแล้วกัน "พ่อไม่ยุ่งแล้วนะน้ำเหนือ เหมือนว่างานจะเข้าพ่อเหมือนกัน" "เดี๋ยวสิพ่อ.. ช่วยผมก่อน" พ่อเลี้ยงคาวีหันไปยิ้มแห้งๆให้ภรรยาก่อนจะหยิบหนังสือมาเปิดอ่านทันที เรื่องของใครก็เคลียร์กันเองแล้วกันเขาไม่อยากโดนเมียด่าแล้ว... เจ็บนี้อีกนาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD