ตอนนี้ของเริ่มเต็มไม้เต็มมือของน้ำเหนือแล้ว และทุกชิ้นเขาเป็นคนเลือกเองทั้งนั้น ส่วนชุดนอนก็ได้หมีน้อย เป็ดเหลือง และอีกหลายแบบตามที่เธอต้องการ และตอนนี้เขาพามาซื้อรองเท้าผ้าใบอีกสองคู่เอาไว้ใส่มาเรียนหนังสือ ได้กระเป๋าใบใหม่มาด้วยอีกสองใบซึ่งเธอก็ไม่ได้เลือกเองเพราะไม่ได้อยากได้แต่แรก
"พอแล้วมั่งคะ"
"ไม่เอาอ่ะ ยังไม่ครบตามที่ต้องการเลย ยังเหลือน้ำหอม ของบำรุงผิว ส่วนหน้าไม่ต้องแต่งแล้วไม่ได้ไปทำงานแล้วนี่ ไปเรียนก็ใส่แป้งก็พอแล้วไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ"
ดิวมองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่อยากขัดอีกเพราะขัดไปหลายรอบก็ไม่เป็นผล เขาไปสั่งพนักงานให้จัดชุดครีมบำรุงผิวของผู้หญิงมาให้เซตใหญ่ แถมด้วยน้ำหอมกลิ่นที่เขาชอบไม่ได้เลือกเพราะเธอชอบด้วยนะ
"พี่ชอบกลิ่นนี้ หอม"
"ค่ะ"
ดิวยืนมองเขาตาแป๋ว อะไรที่ซื้อมาคือเขาชอบทั้งหมดไม่ใช่เธอชอบนะ เมื่อได้ของที่ต้องการเขาก็พาเธอไปนั่งที่ร้านอาหารสั่งของมาเต็มโต๊ะก่อนจะเดินเอาของไปเก็บที่รถแล้วให้เธอนั่งรอในร้าน
"ทำไมไม่กินล่ะ"
เขามาถึงก็นั่งลงข้างๆหญิงสาว เธอส่งจานไปให้ชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมา
"กินก่อนเลยค่ะ"
"อืม เราก็กินสิผอมไปอย่างที่แม่บอกเลย กินเยอะๆบำรุงตัวเองบ้าง"
"ค่ะ"
ดิวตักของอร่อยให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ นี่ทำตามที่พี่นุชแนะนำทุกอย่างว่าให้อยู่กับพี่น้ำเหนือให้เป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูเขาจะได้อยู่กับเธอนานๆ อีกอย่างวันนี้เขาทำให้เธอเห็นว่าการเป็นเมียเจ้าของไร่คาวีวิลล่า มันเหมือนเจ้าหญิงเลย เขาใช้เงินเหมือนกระดาษในขณะที่เธอกว่าจะหามาได้ยากลำบากมาก
"พี่ไม่กินอันนี้อ่ะ"
ดิวมองในจานเขาก่อนจะใช้ส้อมจิ้มออกมาวางในจานของตัวเอง
"พี่น้ำเหนือไม่กินผักคะน้าเหรอคะ"
"อืม มันขมอ่ะแล้วเราไม่ชอบกินอะไรเหรอ"
"ไม่ชอบมะเขือเทศค่ะ อย่างอื่นกินได้"
ทั้งสองคนชวนกันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ทั่วไปจนอิ่ม จากนั้นเขาก็พาหญิงสาวมานั่งเล่นที่ม้านั่ง ส่วนเขาขอตัวไปห้องน้ำก่อน
"พี่ไปห้องน้ำก่อนเรารออยู่ตรงนี้นะ"
"ค่ะ"
ดิวยิ้มออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่มากดเล่น เครื่องเก่าที่ใช้อยู่ไม่หรูหราขนาดนี้หรอก เธอไม่มีเงินมากพอจะเปลี่ยนของแพงๆใช้ เครื่องเดิมก็ใช้มาสองปีแล้วด้วย
"สวยจัง สงสัยแพงน่าดู"
ดิวกดโทรศัพท์เครื่องใหม่เล่น เปิดดูกล้องถ่ายรูปภาพใสแจ่วก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น เกิดมาไม่เคยใช้ของแพงนี่นาพอมีเป็นของตัวเองมันก็จะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอเลื่อนกล้องไปเรื่อยๆก่อนจะตาโตเมื่อภาพในโฟกัสนั้นคือแม่ของเธอกำลังอุ้มน้องคนละพ่อยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าเด็ก
"แม่นี่นา"
ดิวยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะรีบวิ่งไปหาท่านทันที เธอไม่ค่อยกล้าโทรไปรบกวนท่านเท่าไหร่ เพราะแม่มีลูกใหม่อีกคนเพิ่งจะได้สองขวบเอง คงจะเหนื่อยน่าดู
"แม่จ๋า"
หญิงสาวเดินไปหาคุณแม่ ท่านหันมาเจอลูกสาวคนโตก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงเรียบไม่ได้แสดงความยินดีใดๆที่ได้เจอเธอ
"ดิวเหรอ... มาทำอะไรที่นี่"
"ดิวมาซื้อของค่ะ แล้วแม่พาน้องมาเที่ยวเหรอ"
คนเป็นแม่รีบซ่อนถุงเสื้อผ้าของลูกชายทันที ดิวที่เห็นแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอไม่ได้อยากรบกวนอะไรท่านหรอกก็แค่คิดถึงแม่เท่านั้น ไม่ได้กอดทั้งพ่อและแม่มาไม่รู้กี่ปีแล้ว บอกตามตรงว่าทุกวันนี้เธอเหลือตัวคนเดียวเท่านั้น
"ตามคนอื่นๆมานะ แม่จะไปมีเงินมาซื้อของที่ห้างได้ยังไง พ่อตาดรีมเขาได้โบนัสมาก็เลยซื้อของให้ลูกนิดหน่อย แล้วแกเป็นยังไงบ้างยังเรียนอยู่เหรอ"
"ค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ปีสองแล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะเรียนจบแล้วค่ะ"
ดิวยิ้มออกมาก่อนจะเปิดกระเป๋าของตัวเองแล้วหยิบเงินสดในกระเป๋าที่ได้จากงานพิเศษมาในคืนวันก่อน ในกระเป๋าของเธอมีเงินอยู่5,000บาท เธอจะให้แม่ทั้งหมดเพราะตอนนี้ยังไม่ได้ใช้อะไร อีกอย่างเงินเก็บก็พอมีบ้าง
"ดิวให้แม่ค่ะ เอาไว้ใช้นะ"
เธอเอาเงินแบงค์พันห้าใบใส่ไว้ในมือของคนเป็นแม่ ท่านก้มลงมองเงินในมืออย่างรู้สึกผิดต่อลูก นานแค่ไหนแล้วที่คนเป็นแม่อย่างเธอไม่เคยให้เงินลูก เธอผลักภาระไปให้คนเป็นพ่อเพราะเขาได้เมียใหม่เป็นคนรวยมีฐานะ แต่เธอเพิ่งจะรู้ไม่นานว่าทางนั้นก็ไม่ได้ให้เงินลูกเช่นกัน เธอคิดว่าดิวอยู่ที่บ้านกับพ่อแต่ไม่ใช่เธอย้ายออกมาทำงานพิเศษหาเงินเองแล้วเช่าหอพักอยู่คนเดียว ทำงานทุกอย่างเพื่อส่งตัวเองเรียน นั่นเท่ากับว่าตอนนี้ลูกสาวคนนี้ไม่มีใครส่งเสียเลี้ยงดูซักคน
"ทำไมแกไม่เก็บไว้ใช้ล่ะ เดี๋ยวต้องจ่ายค่าเทอมอะไรอีก แม่ก็ไม่มีเงินให้แกหรอกนะ"
"ไม่เป็นอะไรจ้ะแม่ ดิวยังพอมีอยู่ แม่คงเหนื่อยเพราะน้องก็ต้องกินนมด้วย ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่เก็บไว้ใช้นะ ถ้าดิวมีเงินจะให้อีก งั้นไม่รบกวนแล้วค่ะดิวไปแล้วนะ"
หญิงสาวฝืนยิ้มออกมาก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที พอคล้อยหลังจากที่ออกมาเธอก็หลับตาลงช้าๆปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินแต่พวกเขาไม่ให้เธอก็เท่านั้น และเหตุผลที่เธออยู่กับพ่อไม่ได้เพราะผู้ชายที่ชื่อโอม หรือว่าเป็นลูกเลี้ยงของพ่อเขาชอบมาลวนลามเธอและพยายามจะปล้ำเธอทุกครั้งที่มีโอกาส เธอเล่าให้ใครฟังไม่ได้เพราะไม่อยากให้พ่อลำบากใจ จึงตัดสินใจออกมาอยู่ที่อื่นแต่เขาก็ยังตามรังควานไม่เลิก เขาขู่เธอบอกว่าจะไม่ให้เงินของเขาตกมาถึงเธอซักบาทเว้นแต่เธอจะยอมนอนกับเขาเท่านั้น เขาจะส่งเธอเรียนและให้เงินใช้ นี่คือเหตุผลที่เธอไม่เคยได้เงินจากพ่อและต้องดูแลตัวเองอย่างทุกวันนี้
"ดิว..."
น้ำเหนือเรียกหญิงสาวไว้ เธอชะงักไปก่อนจะรีบปาดน้ำตาให้มันแห้งเหือด หันกลับมาหาชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาทันที
"เสร็จแล้วเหรอคะ"
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินมากุมมือหญิงสาวไว้หลวมๆ เขาเห็นทุกอย่างและรู้สึกแย่มากกับสิ่งที่คนเป็นแม่ปฎิบัติต่อลูกสาว เธอถือถุงข้าวของมากมายซื้อให้ลูกชายอีกคนแต่กับลูกสาวกลับทิ้งขว้างไม่สนใจใยดี แถมคนเป็นลูกที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองต้องเอาเงินที่มีให้แม่เพื่อที่ท่านจะได้ภูมิใจ คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นแม่คนจริงๆ
"อืม อยากกลับบ้านมั้ย"
"ค่ะ กลับกันเถอะ"
ดิวมองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ หลายปีมานี้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียวมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่ามีที่พึ่งพิง การมาอยู่กับครอบครัวของน้ำเหนือมันเยียวยาความรู้สึกของเธอได้เป็นอย่างดี ครอบครัวของเขาคือครอบครัวที่น่าอิจฉามากจริงๆ
"งั้นไปกันเถอะ บ่ายนี้จะพาไปขับรถเล่นที่ไร่อยากไปมั้ย"
หญิงสาวพยักหน้าทันที เธออยากเห็นไร่คาวีวิลล่ามากเหมือนกันว่าจะสวยอย่างที่คนพูดถึงรึเปล่า
"ไปค่ะ พี่น้ำเหนือจะพาดิวไปเที่ยวเหรอคะ"
"อืม ขับรถกอล์ฟวนเล่นไง อ่อ เดี๋ยวให้ตะกร้าไปเก็บผลไม้ด้วยอยากกินไรมั้ย"
เขากุมมือหญิงสาวพาเดินออกไปทันที ดิวลืมเรื่องที่ทำให้เธอเสียใจเมื่อซักครู่เพราะน้ำเหนือชวนเธอคุยเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า
"มีองุ่นให้เก็บมั้ยคะ ดิวชอบกินองุ่นนะ"
"มีสิ ว่าแต่เก็บถึงเหรอ เตี้ยขนาดนี้"
"เอ้า! บูลลี่หนูซะงั้น"
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะหัวเราะออกมา หญิงสาวมองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ทำไมรู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วสบายใจจังเลย ถึงแม้ว่าจะหื่นกามแต่เรื่องอย่างอื่นคือดีมากจริงๆ