คำพูดของอ้อยใจถึงไม่ใช่การลำเลิกบุญคุณแต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เทียนกัลยารู้ดีว่าเพื่อนของเธอคนนี้มีนิสัยยังไง อ้อยใจมักจะเลือกรับแขกและเธอก็ยิ่งไม่แน่ใจด้วยในเมื่ออ้อยใจบอกว่ามีโปรไฟล์ที่ไม่ชัดเจนกับเท่าไหร่สำหรับมหาเศรษฐีคนนี้ คนที่ต้องการจะปัดงานไห้เธอรับเอาไว้
“ อ้อย ถ้าอย่างนั้นบอกยูได้ไหมว่าโปรไฟล์ที่ไม่ชัดเจนมันหมายถึงอะไร”
“ก็เหมือนกับว่าเขาเป็นแขกใหม่แล้วอ้อยก็ไม่รู้ว่ามหาเศรษฐีคนนี้เป็นยังไงแต่ว่าอ้อยคิดว่าเขาก็คงจะเป็นเศรษฐีแก่ ๆ ก็คิดดูนะเขาเป็นเจ้าของเหมืองเพชรรวยระดับหมื่นล้านคงจะไม่มีนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตขนาดนั้นที่อายุน้อย ๆ หรอก อ้อยก็คิดเอานะแล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายก็แค่ไปเอ็นเตอร์เทนให้เศรษฐีแก่คนนึง ที่อ้อยรู้มาน่ะเขาไม่เคยติดต่องานรับเด็กเอ็นเตอร์เทนให้ตัวเองรื่นเริงบันเทิงใจก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นพวกประเภทที่ไม่ได้คลุกคลีอยู่ในแวดวง แบบนี้ก็คิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นเศรษฐีที่อันตรายสักเท่าไหร่นะ ช่วยหน่อยนะยูเพราะว่าอ้อยมีธุระที่จะต้องไปทำกับแฟนของอ้อยจริง ๆ ถ้าเกิดว่าเทียนไม่ช่วยเหลืออ้อยก็ไม่รู้ว่าอ้อยติดต่อคนอื่นหรือยังล่ะ”
“ไม่มีใครว่างเลยเหรออ้อย?”
“ไม่มีใครว่างสักคน ก็เนี่ยมีอยู่แค่คนเดียวอีกสัปดาห์สอง สัปดาห์ก็จะสอบแล้วยังไงคืนนี้ช่วยรับงานให้อ้อยสักหน่อยได้ไหม”
อ้อยใจพยายามพูดตะล่อมเพื่อนสนิทและเทียนกัลยาก็เงียบไปชั่วๆขณะที่กำลังชั่งใจหล่อนกำลังนึกอยู่ว่าถึงเวลานี้มันก็ใกล้จบการศึกษาเต็มทีแล้ว ถ้าเกิดว่าจะรับงานนี้เป็นงานสุดท้ายถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนที่เคยมีบุญคุณต่อกันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรเพราะเท่าที่ผ่านมาเธอเองก็ไม่เคยให้ใครได้มีโอกาสลวนลามหรือทำไม่ดีไม่ร้ายกับเธอ เธอไม่เคยต้องเสียสาวให้ผู้ชายคนไหนเลยแม้แต่คนเดียวอย่างน้อยที่สุดก็ยังสามารถเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้ก็อย่างที่อ้อยใจว่านั่นแหละ มหาเศรษฐีที่อ้อยใจกล่าวถึงอาจจะเป็นเศรษฐีแก่ ๆ ที่ก็คงไม่ได้มีอะไรทำให้เธอวุ่นวายใจ สักครู่เทียนกัลยาจึงตอบกลับไปว่า
“ก็ได้ก็ได้แต่ว่างานนี้อยู่จะรับเป็นงานสุดท้ายแล้วนะ ยูจะไม่รับปากว่าจะไปเป็นเด็กเอ็นให้ใครอีกเพราะหลังจากสอบเสร็จแล้วยูก็จะไปสมัครงาน”
“ขอบใจมากจ้ะยู ก็ถือว่าได้ช่วยอ้อยอ้อยไม่รู้ว่าจะขอให้ใครช่วยเหลืออ้อยจริง ๆ นะเนี่ย โชคดีมากเลยที่ยูช่วยไปเป็นเด็กเอ็น แทนอ้อยแล้วถ้าเกิดยังไง ถ้าอ้อยได้รับเช็คหรือค่าตอบแทนอ้อยก็จะให้ค่าตอบแทนนั้นทั้งหมดแก่ยูนะ”
“เรื่องเงินไม่เป็นปัญหาหรอก ยูคิดว่ายูก็ได้ช่วยอ้อยด้วย แต่หลังจากนี้ก็คงจะไม่รับงานของใครอีกแล้วนะ”
เทียนกัลยาวางโทรศัพท์ลงและถอนหายใจ สักครู่ก็ได้รับข้อความที่อ้อยใจส่งมาเป็นข้อความบอกถึงสถานที่และเวลาที่จะนัดพบกับแขกซึ่งเธอจะต้องไปให้ความบันเทิงแก่เขาในฐานะของเด็กเอ็น เธอนั่งนิ่งนึกและพยายามปัดความรู้สึกอคติในใจออกไป เธอรับงานมาตั้งเท่าไหร่แล้วถึงแม้ว่าชั่วโมงบินจะไม่ได้สูงอะไรมากมายแต่ส่วนใหญ่แขกที่เธอรับงานไว้นั้นก็มักจะเป็นเศรษฐีที่ไม่ทำรุ่มร่ามกับเธอและเธอก็รักษาตัวเองให้พ้นภัยมาได้จนถึงบัดนี้ ก็ถ้าคืนนี้จะไปรับงานให้มหาเศรษฐีแก่ ๆ คนหนึ่งอีกสักครั้งก็จะเป็นไรไป
ดอนนา คลับ โรงแรม ดอนนา พาเลซ
เทีอนกัลยาเดินทางมาถึงโรงแรมที่มีความหรูหราระดับ 5 ดาวและอยู่ใจกลางกรุงที่สำคัญก็อยู่ไม่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ตอนนี้ เธอมาในชุดแซกสีชมพูแสนสวยช่วยขับผิวขาวผ่องเป็นยองใยของเธอให้ดูงดงามท่ามกลางแสงไฟในยามค่ำคืนแต่ก่อนที่เทียนกัลยาจะมุ่งหน้าตรงไปอย่างเดียวเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นและต่อสายไปหาเพื่อนสนิท
“อ้อย...ยูขอถามอีกนิดได้ไหม”
เทียนกัลยากรอกเสียงใส่โทรศัพท์และอีกฝ่ายหนึ่งตอบกลับมาว่า
“จะถามอะไรอีกล่ะ แล้วนั่นน่ะไปถึงโรงแรมพี่อ้อยส่งชื่อที่อยู่ไปให้หรือยัง”
“มาถึงแล้วแต่ว่ายูอยากจะถามอ้อยให้แน่ใจอีกที”
“ก็จะต้องถามอะไรอีกล่ะ แต่ว่าหลังจากนี้ไม่ต้องโทรศัพท์หาอ้อยแล้วนะเพราะว่าอ้อยไม่อยากให้ใครรู้ว่างานนี้อ้อยไม่ได้มาด้วยตัวเองแต่เพื่อนมาแทนเดี๋ยวคนที่ติดต่ออ้อยเขาจะตำหนิเอาได้นะ”
“ก็แค่อยากถามว่าแขกที่ติดต่อมาแต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อน่ะอะไรนั่นน่ะเขาเป็นเศรษฐีแก่ ๆ อ้อยคิดว่าเขาน่าจะอายุสักประมาณเท่าไหร่”
“ก็คงจะ 60 - 70 ปีได้แล้วกระมัง ยูอย่าไปสนใจเลยก่อนหน้านี้อยู่ก็รับงานนี้มาตั้งเท่าไหร่ เรื่องอายุของค่ะไม่ต้องไปสนใจหรอกมันไม่เป็นปัญหา ยิ่งเป็นมหาเศรษฐีแก่ ๆ ก็ยิ่งพูดง่ายควบคุมง่ายกว่าพวกหนุ่ม ๆ เป็นไหน ๆ”
“ยูก็แค่สงสัยเท่านั้น แต่ถ้าอ้อยบอกว่าไม่มีอะไรถ้ายังไงยูก็จะไปที่ห้องเขาแล้วนะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสายกระทั่งสัญญาณถูกตัดไปเทียนกัลยาจึงเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าใบเล็กของเธอซึ่งเป็นคลัตช์ ใบเล็กที่เธอถือติดมือมาเพื่อไม่ให้เกะกะ