เขาวางมันลงบนโต๊ะและรินวอดก้าลงในแก้วอย่างใจเย็น ขณะนั้นเทียนกัลยาก็อดไม่ได้ที่จะมองเขา ตั้งแต่รับงานสร้างความรื่นรมย์ให้แขกยังไม่เคยเจอใครเหมือน โธมัส สิงหรัฐ มหาเศรษฐีหนุ่มลูกครึ่งไทย รัสเซีย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดึงดูดสายตาอย่างประหลาด นัยน์ตาเป็นประกายสีเขียวมรกตคู่นั้นฉายประกายวับวาวยามต้องแสงไฟ ท่าทีสุขุม ดูลึกลับในเวลาเดียวกันทำให้เธอไม่อาจละสายตาไปทางอื่นได้ แต่แล้วความคิดทั้งหมดทั้งมวลของเธอก็หยุดนิ่งเมื่อเขายื่นแก้วให้
“ฉันไม่ดื่มวอดก้าค่ะ” เธอรีบบอก
“คุณรับงานนี้แล้วไม่ควรปฏิเสธความต้องการของแขกนะ”
“แต่ฉันไม่เคยดื่มนะคะ”
เขาเลิกคิ้ว “ให้ตายเถอะ...คุณรับงานสร้างความบันเทิงให้พวกผู้ชายแต่ไม่เคยดื่มของแบบนี้อย่างนั้นเหรอ ถ้าอยากทำให้ตัวเองดูดีน่าจะมีวิธีการอื่นที่แยบยลสักหน่อยนะ”
“ฉันไม่ได้แกล้งพูดให้ตัวเองดูดีนะคะ แต่ฉัน...” เธอพูดไม่ทันจบก็ต้องสะดุ้งเมื่อเขาขยับเข้ามานั่งชิดและโอบไหล่ของเธอเอาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง เทียนกัลยาตระหนกกับท่าทีนั้น เขากดบ่าของเธอด้วยมือหนาหนักเหมือนคีมเหล็ก
“คุณต้องดื่ม...นี่เป็นคำสั่ง”
บทที่
4
“ไม่นะ!...ฉัน...” เธอกำลังจะปฏิเสธแต่กลับถูกมือแกร่งของเขาตะปบปลายคางและบีบจนแน่น โธมัสทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงนั่นคือกรอกวอดก้าในแก้วลงในปากของเธอที่อ้าค้างเพราะแรงบีบจนหมด เทียนกัลยาถึงกับสำลักและร้อนในลำคอ เธอหอบและไอโดยโธมัสปล่อยเธอให้เป็นอิสระแล้วขยับไปนั่งบนตะรับแขก เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง
“นี่คุณจะบ้ารึไง!” เทียนกัลยาโพล่งใส่พร้อมทั้งกุมลำคอของตัวเองเอาไว้ เธอน่าจะใช้มือทั้งสองบีบคอเขามากกว่า
“บอกแล้วยังไงว่าฉันไม่เคยดื่มของพวกนี้”
“ผมอยากให้คุณดื่มมันเพื่อจะได้สร้างอารมณ์ยังไง ใคร ๆ ก็หลงใหลในรสชาติของมัน ยิ่งดื่มก็ยิ่งทำให้มีความสุขกันทั้งนั้น”
“แต่ไม่ใช่ฉัน! และฉันก็ขอยกเลิกงานของฉันคืนนี้เพราะคุณเป็นแขกที่ไร้มารยาทมากที่สุดเท่าที่ฉันเจอมา!”
เทียนกัลยาผุดลุกขึ้นแต่กลับถูกเขาฉวยข้อมือไว้
“ผมเข้าใจว่าคุณต้องการทำงานเพื่อรับเงินแล้วมันจะไม่ดีกว่าหรือยังไงถ้าคุณจะทำงานเพิ่มจากเดิมอีกสักนิดเพื่อที่จะรับเงินตอบแทนที่มันจะมากกว่าที่เราได้ตกลงกันเอาไว้”
“แต่ฉันไม่ได้ตกลงกับคุณโดยตรงนะคะ”
“ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในเมื่อคนที่รักงานและติดต่อกับผม เขารับส่วนที่เขาจะได้ไปแล้วด้วย”
“ดิฉันขอทำงานเฉพาะส่วนที่ดิฉันมีความจำเป็นต้องทำ ทำให้ได้เทียบเท่ากับค่าตอบแทนที่ดิฉันได้รับเท่านั้น!”
“ผมจะจ่ายให้คุณเพิ่มมากกว่าที่ผมให้ตัวแทนรับงานของคุณคุณต้องการเท่าไหร่”
“ฉันไม่ต้องการค่ะงานของฉันมีเพียงเท่าที่ฉันได้ตกลงกับตัวแทนของฉันเท่านั้น”
“แต่ผมต้องการให้คุณทำและคุณก็ต้องรับเงินส่วนที่เกินจากที่ผมให้ตัวแทนของคุณไป”
เทียนกัลยารู้สึกตกใจกับคำพูดของเขาห่างและเจ้าหน้าครั้งนึ่ง
“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบังคับจะมาบีบคั้นให้ดิฉันทำในสิ่งที่ฉันไม่ต้องการทำนะคะ”
“ผมมีสิทธิ์เต็มที่ต่างหากพบผมคือเจ้าของเงิน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอยืนยันตรงนี้ว่าดิฉันไม่ต้องการรับเงินส่วนเกินจากคุณไม่ว่าคุณจะให้ฉันมากเท่าไรฉันก็ไม่อยากได้และฉันจะขอตัวกลับตอนนี้เลยเพราะดิฉันถือว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่ดิฉันได้ตกลงกับตัวแทนของที่ฉันไว้”
“เสียใจด้วยนะคุณออกไปจากห้องนี้ไม่ได้”
“น้ำเสียงเข้มของเขาและใบหน้าที่แปรเปลี่ยนจากเรียบเฉยเป็นดุดันขึ้นทำให้เทียนกัลยารู้สึกตกใจ”
เธอไม่เคยต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มันเป็นสภาวะการที่เธอกลัวมาตลอดก็ไม่เคยพบกับตัวเองเลยสักครั้งนั้นก็คือการถูกกักกันและการวางอำนาจของแขกระดับวีไอพีซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีมหาเศรษฐีคนไหนที่แสดงท่าทีแบบนี้กับเธอตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอวางตัวไม่ยอมให้ใครก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวและร่างกายของเธอมาได้ตลอดเธอคิดเพียงว่างานนี้จะเป็นเงินขายต่างเมื่อพบกับโธมัสทำให้เธอต้องคิดว่าทำยังไงถึงจะหลีกหนีไปจากเขาได้เพราะดูท่าทางเขาจะเป็นคนที่จริงจังและไม่ยอมลดร้ายเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณโทมัสถ้าคุณไม่ยอมปล่อยฉันไปฉันจะโทรแจ้งความตำรวจให้มาจากคุณสถานกักขังหน่วงเหนี่ยวฉันไว้”
“นี่เป็นวิธีการอัพราคาของผู้หญิงอย่างคุณหรือเปล่าผมไม่รู้นะว่าพวกคุณมีวิธีการอย่างไรที่จะเรียกเงินจากแขกให้ได้มากๆแต่อย่างน้อยที่สุดขั้นตอนแรกเลยก็คือการเล่นตัวอย่างนั้นใช่ไหม”
พูดจบเขาก็คว้าข้อมือของเทียนกัลยามากุมไว้แน่นเธอมีท่าทีตกใจนึกว่า thomas ที่เคยเห็นครั้งแรกว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีผู้มีท่าทีสุขุมลุ่มลึกจะกลายร่างเป็นซาตานไปได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีที่ได้เจอกันในตาของเขาใช้ความเย้ยหยันและดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจและเธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหนที่มึงบีบข้อมือเล็กเรียวนั้นไว้จนแน่น