ความห่วงที่หายไป

1546 Words
ซายน์... " ฮัด ชิ่ว แค่ก แค่ก แค่ก" ฉันเดินจามเดินไอมาตลอดทางตั้งแต่เข้ามาในโรงงานทั้งที่ใส่แมสมาหลายชั้นแต่เพราะโรงงานเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างทำให้มีฝุ่นต่างๆเยอแยะมากมายทำให้ฉันสำลักและตอนนี้เหมือนฉันจะรู้สึกคันๆแสบๆผิวหนังโดยฉันลืมไปเลยว่าตัวเองแพ้ฝุ่นพวกนี้ ส่วนพอสเขาไม่ได้สนใจว่าฉันจะเป็นยังไงเพราะตอนนี้เขากำลังเดินไปดูเครื่องที่กำลังผลิตอะไรสักอย่าง ฉันเดินตามเขาเข้าไปซึ่งตรงส่วนนั้นมีคนงานกำลังทำงานกันอยู่หลายสิบคนทุกคนมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว คงจะงงว่าฉันเข้ามาทำไมเพราะดูๆแล้วข้างในนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นไม่มีผู้หญิงเลย "เครื่องจักรตัวใหม่ที่ผมสั่งมาให้เป็นไงบ้างทำงานได้ดีเท่าเครื่องตัวเก่าไหมพี่ยศ" พอสเดินไปถามชายคนนึงที่ดูอายุแล้วน่าจะแก่กว่าเขาหลายสิบปีที่สวมชุดช่างมีป้ายห้อยคอบอกตำแหน่งว่าเป็นหัวหน้าซ่อมบำรุง "ดีมากๆเลยครับคุณพอส เครื่องตัวนี้ทำให้เราผลิตอะไหล่ได้มากถึงสองเท่าเลย แต่ก็สมกับราคาแล่ะครับเกือบสิบล้าน" หืมเกือบสิบล้านฉันอุทานในใจเครื่องจักรอะไรราคาเป็นสิบล้าน "อืมดีแล้วล่ะ ต่อไปเราจะได้มีของส่งให้ลูกค้าตามกำหนดแถมยังมีสต็อกไว้ด้วย" "เอ่อว่าแต่..คุณผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอครับ" พี่คนนั้นหันมามองฉันแล้วถามพอสด้วยความสงสัยเหมือนคนอื่นๆ "ผู้ช่วยฉันเอง" "อ่อครับ สวัสดีครับคุณ..เอ่อ" " แค่ก แค่ก สะ สวัสดีค่ะฉันชื่อซา...." ฉันพยายามเอ่ยชื่อของตัวเองแม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะเริ่มรู้สึกไม่ไหวเพราะคันไปทั้งตัวไหนจะหายใจไม่ค่อยออกอีกแต่ก็ต้องทนเพราะไม่อยากให้เขาดูถูกว่าฉันเป็นพวกไม่อดทนทำอะไรไม่เป็นแถมยังสร้างแต่ปัญหา "ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าจะชื่ออะไรเพราะถึงจะมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยแต่คงช่วยอะไรไม่ได้เพราะไม่มีความรู้อะไรเลยนอกจากแต่งตัวไปวันๆ" ฉันพูดชื่อตัวเองไม่ทันจบก็โดนดูถูกต่อหน้าคนนับร้อย ส่วนพี่คนที่ถามชื่อฉันถึงกับเงียบไม่เอ่ยต่อ จากนั้นฉันก็เดินตามพอสออกมานอกโรงงาน "แค่ก แค่ก แค่ก" ถึงจะเดินออกมาแล้วฉันก็ยังจามไอไม่หยุด "เข้าไปแค่แป๊บเดียวไอขนาดนี้ แบบนี้จะทำงานในโรงงานไหวไหม" "ไหวสิ" "แน่ใจ" "อื้ม แค่ก แค่ก" "แล้วทำไมตัวแดงขนาดนี้" ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาเพราะเขาตัวสูงกว่าฉันเยอะ ก็เห็นว่าเขามองมาที่ใบหน้าไล่ลงมาที่คอก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของฉัน ทำให้ฉันรีบก้มมองดูตัวเอง ฉันตัวแดงจริงๆด้วยจากนั้นฉันก็เริ่มเกาตัวเองเพราะออกมาเจออากาศร้อนตอนเที่ยงเกือบสี่สิบองศา ฉันเริ่มเกาตัวเองหนักขึ้น คือยิ่งเกายิ่งคัน ยิ่งคันก็ยิ่งเกา "เห้ยทำไมไปเกาแบบนั้นดูดิ๊ตัวแม่งถลอกหมดแล้ว" ฉันถูกพอสดึงมือออกเพราะฉันเกาตัวเองจนแสบไปหมด "ก็มันคันนี่ให้ทำไง" "พี่แพ้ฝุ่นใช่ไหมผมจำได้" ฉันเงียบไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะยังจำได้ คือตอนที่เรายังเด็กเราแอบเข้าไปเล่นตรงที่ก่อสร้างตอนนั้นฉันก็เป็นแบบนี้ พอสพอเห็นว่าฉันเป็นผื่นแดงเขาก็รีบพาฉันขี่หลังแล้วพากลับบ้านด้วยความเป็นห่วงโดยมีซันกับตะวันวิ่งตามหลัง พอคิดถึงตอนนั้นแล้วฉันก็อดร้องไห้ไม่ได้เพราะตอนนั้นเขาดีกับฉันมากไม่ใช่เฉยชาแบบนี้ "ร้องไห้ทำไมเจ็บแผลเหรอ" น้ำเสียงของเขามันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาซึม "เปล่า พี่แค่คิดถึงตอนนั้นตอนที่เรายังเป็นเด็ก ตอนนั้นพี่ก็เป็นแบบนี้แล้วพอสก็เอาพี่ขี่หลังวิ่งกลับบ้านหายามาทาให้อย่างเป็นห่วงไม่เหมือนกับตอนนี้ ฮึก ฮึก" ฉันอ่อนแอต่อหน้าเขาอย่างน่าไม่อาย ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตา "นั่นมันตอนเด็ก" "อืมพี่รู้" "ผมว่าพี่เข้าไปข้างในออฟฟิศก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะให้คนไปซื้อมาแก้แพ้มาให้" เขาพูดคล้ายกับห่วงใยฉันแต่คงไม่ใช่หรอกเขาคงทำตามหน้าที่เพราะตอนนี้ฉันมาทำงานกับเขา แม้จะเลยว่าครึ่งค่อนวันฉันยังไม่ได้งานอะไรเลย "อืม" พูดจบฉันก็เดินเข้าไปข้างในออฟฟิศส่วนเขาก็เดินไปอีกทางคงจะไปบอกให้คนของเขาไปซื้อยาให้ล่ะมั้ง "ตายแล้วววววน้องซายน์ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลูก" พอฉันเดินเข้ามาในออฟฟิศอาแพรวก็ตกใจกับสภาพร่างกายของฉัน "คือซายน์ลืมไปน่ะค่ะว่าตัวเองแพ้ฝุ่นก็เลยเกิดอาการคันพอเกามันก็เลยเป็นแบบนี้" "โอ๊ยตายตัวหนูแดงเถือกไปหมดทั้งตัวเลยหน้าอีก แบบนี้แม่ฝนของหนูต้องเป็นลมแน่ๆถ้าเห็นหนูสภาพนี้ อาไม่น่าให้น้องซายน์เข้าไปในโรงงานเลยไม่งั้นน้องซายน์คงไม่เป็นแบบนี้ อาขอโทษนะลูก" อาแพรวจะร้องไห้เพราะสงสารฉัน "ไม่ใช่ความผิดของอาแพรวเลยค่ะ ซายน์เต็มใจมาทำงานเองเดี๋ยวถ้ากินยาก็คงจะดีขึ้น" "เดี๋ยวอาให้นุชไปซื้อยามาให้นะลูก" "ไม่ต้องหรอกค่ะอาแพรวคือเมื่อกี้พอสบอกให้คนไปซื้อมาให้แล้ว" "ออเหรอจ๊ะ งั้นหนูก็นั่งพักก่อนนะลูก" สิบนาทีต่อมาพอสก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงยาแล้วยื่นมันให้กับฉัน "ขอบใจนะ" "อืม" "ตาพอส ต่อไปลูกไม่ต้องให้พี่เค้าเข้าไปในโรงงานอีกนะให้อยู่แค่ในออฟฟิศก็พอเข้าใจไหม" "ครับ" "งั้นเดี๋ยวเราก็ไปส่งพี่ซายน์เค้าที่บ้านเลยนะ" "แต่มันยังไม่ถึงเวลาเลิกงงานเลยไม่ใช่เหรอคะอาแพรว" "ไม่เป็นไรลูกอาให้กลับได้เป็นกรณีพิเศษ" "แต่ว่าซายน์เกรงใจน่ะค่ะให้ซายน์ทำอย่างอื่นก็ได้นะคะพวกงานเอกสารอะไรพวกนี้" "ไม่เอาค่ะ อาว่าน้องซายน์กลับบ้านไปพักก่อนดีกว่านะพรุ่งนี้ถ้ายังไม่หายดีก็ยังไม่ต้องมารอจนกว่าจะหายค่อยมาดีกว่า อาไม่หักเงินเดือนน้องซายน์หรอกนะ^^" คือฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเดือนแต่ฉันไม่อยากทำตัวให้พอสดูถูกว่าฉันมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนงานคนอื่นๆ "คืออาแพรวไม่ต้องให้เงินเดือนซายน์มากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ" "ไม่ได้ค่ะสัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ในเมื่อน้องซายน์ป่วยก็สามารถลาป่วยได้ตามกฏของบริษัทโดยที่ถูกหักเงินเดือน^^" "แต่ซายน์เกรงใจนี่คะ" "จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกันจ๊ะเราคนกันเองทั้งนั้นอาน่ะเห็นน้องซายน์มาตั้งแต่เกิดเห็นเป็นลูกเป็นหลาน เงินแค่นี้อาจ่ายให้ได้สบายมาก^^" "แต่ตอนนี้ซายน์ยังไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ คือซายน์กลัวว่าแม่จะตกใจ" เรื่องนี้ก็สำคัญเพราะถ้าแม่เห็นว่าฉันเป็นแบบนี้ฉันคิดว่าต่อไปฉันคงไม่ได้มาทำงานอีกและคงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพอส "งั้นเอางี้มั้ยคะน้องซายน์ไปนอนพักที่บ้านอาก่อนดีมั้ยรอให้อาการดีขึ้นแล้วค่อยให้ตาพอไปส่งที่บ้าน" "แต่..." "พอสเดี๋ยวลูกพาพี่เค้าไปพักที่บ้านของเราก่อนนะ ที่โรงงานแม่กับป๊าจะดูแลให้เอง ตามนี้นะ ไปลูกไปไปกันเลย" อาแพรวพูดเองเออเองเสร็จสรรพโดยไม่สนใจสีหน้าของลูกชายที่ยืนหน้าบึ้งหน้าตึงบอกบุญไม่รับอยู่หน้าประตู จากนั้นก็เดินมาจับมือฉันแล้วก็เดินไปจับมือพอสแล้วลากออกมาจากห้องพร้อมกันจนมาถึงลานจอดรถแล้วเปิดประตูให้ฉันขึ้นไปนั่งเสร็จสรรพ "ไปลูกกลับบ้านด้วยกันดีๆนะห้ามทะเลาะกันเข้าใจมั้ยโดยเฉพาะเราตาพอสห้ามดุห้ามว่าพี่เขาเข้าใจไหม" "ใครลูกม๊ากันแน่ถามจริง" "ถ้าเลือกได้ม๊าก็อยากได้น้องซายน์เป็นลูกสาวของม๊านะ" "ม๊า!!" "แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ม๊าก็อยากได้น้องซายน์มาเป็นลูกสะใภ้" "ถ้าอย่างงั้นม๊าก็คงต้องผิดหวังเพราะม๊ามีผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียว" คำพูดของเขามันแปลได้ว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับฉันสินะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD