หนอนชาเขียว

1688 Words
พอส..... "กรี๊ดดดดด" "เห้ยยยย!!!!" "พอสนายทำไมทุเรศอย่านี้ ฮืออออ" ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออก อะไรคือการมาว่าผมว่าผมทุเรศวะ "ทุเรศอะไรนี่มันห้องน้ำในห้องนอนผมแล้วพี่เข้ามาทำไมใครอนุญาต!!!" ผมตวาดใส่คนที่ยืนหันหลังปิดตา "ฮือออ ก็ ก็ อาแพรวให้ขึ้นมาตามลงไปกินขนมข้างล่างพี่เคาะห้องตั้งหลายทีแล้วนายก็เงียบพี่ก็เลยเปิดประตูเข้ามาดูแล้วไม่เจอพอเดินมาที่หน้าห้องน้ำพี่ก็เรียกอีกแต่นายก็ไม่หือไม่อือได้ยินแต่เสียงเพลงที่นายเปิดพี่ก็คิดว่านายอาจจะลื่นล้มในห้องน้ำก็เลยเปิดเข้ามาดูแต่....แต่ไม่คิดว่าจะเจอ....เจอ....ฮืออออ เจอหนอนชาเขียวตัวโต" "ห๊ะ หนอนชาเขียวตัวโต!!!!" ผมอึ้งอีกรอบอะไรคือมาพูดว่าน้องชายของผมคือหน่อนชาเขียวตัวโต "อื้อออ มะก่อนตอนนายเด็กๆพี่เคยอาบน้ำให้มันไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ตอนนั้นมันยังเป็นหนอนตัวเล็กๆอยู่เลยอ่ะ แต่ตอนนี้ทำไมมันโตวัยจังเลยล่ะ>ซายน์... ฉันวิ่งออกมาจากห้องนอนของพอสด้วยใจที่เต้นแรงเพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจออะไรแบบนี้ ถึงมันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นของพอสเพราะตอนเด็กๆเราเล่นด้วยกันอาบน้ำด้วยกันแต่นั่นมันก็ตั้งสมัยไหนแล้วตอนนั้นของเขามันยังจิ๋วหลิวอยู่เลยแต่ตอนนี้มันเอ่อ...มันทั้งใหญ่ทั้งยาวมันน่ากินเอ้ยน่ากลัวมากๆ...แค่คิดฉันก็รู้สึกร้อนใบหน้าขึ้นมาซะงั้น โอ๊ยจะทำไงดีภาพมันติดตาฉันอยู่เลยสลัดยังไงก็ไม่หลุด "น้องซายน์ตามตาพอสให้อาแล้วใช่ไหม" ฉันเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นก็เจออาแพรวกำลังนั่งจัดจานขนมจีบกุ้งที่เราเพิ่งช่วยกันทำเสร็จเมื่อครู่นี้ก่อนที่ฉันจะขึ้นไปตามพอส "ค่ะตามแล้วค่ะ เดี๋ยวคงจะลงมาค่ะอาแพรว" ฉันรีบตอบอาแพรวก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแต่... "ทำไมหน้าน้องซายน์แดงแบบนี้ล่ะลูก" "เอ่อ คือว่าซายน์ร้อนน่ะค่ะอาแพรว" ฉันโกหกออกไปเพราะจะให้ฉันตอบตามความจริงว่าที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะไปเจอหนอนชาเขียวมาก็คงจะไม่ดี "อ้าวเหรอลูก มามานั่งพักก่อนเดินขึ้นเดินลงคงจะเหนื่อยโทษทีนะจ๊ะบันไดบ้านอามันสูงไปหน่อย^^" คืออยากจะบอกว่าบ้านอาแพรวน่ะใหญ่โตพอๆกับบ้านฉันมีด้วยกันสามชั้นชั้นที่พอสอยู่อยู่ชั้นสามอาแพรวคงคิดว่าฉันคงจะเหนื่อยที่ต้องเดินขึ้นเดินลงแต่จริงๆแล้วไม่ใช่สาเหตุนี้หรอกที่ทำให้ฉันหน้าแดง ฉันเดินไปนั่งข้างอาแพรวสักพักพอสก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงลงมาเขาสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงวอมสีดำเหมือนที่เขาชอบใส่เวลาอยู่บ้านผมของเขาที่ยังเปียกเพราะเพิ่งสระผมมาใบหน้าที่เรียบเฉยไม่ค่อยแสดงอาการหรืออารมณ์ใดๆทำให้เขาดูน่ามองน่าสนใจและน่าค้นหาในสายตาของฉันเขาหล่อมากเลยนะ คือจะบอกว่าพอสน่ะหล่อมาตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้ ฉันจำสมัยที่เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันฉันเห็นสาวๆเข้าหาเขาเยอะแต่เขาไม่สนใจใครเลยไม่เคยพูดหรือให้ความหวังกับใครเพราะเขามีคนที่สนใจอยู่แล้วนั่นก็คือตะวันเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง ฉันมองเขาตั้งแต่เดินลงมาจนกระทั่งเขาเดินมาในห้องนั่งเล่นที่มีฉันกับอาแพรวนั่งอยู่แล้วสายตาของฉันก็ดันไปจ้องตรงส่วนนั้นโดยไม่รู้ตัว คือมันอยู่ในระดับสายตาของฉันพอดีฉันก็เลยมองอย่างไม่ตั้งใจ "มองอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจ "เปล่าไม่ได้มอง" ฉันรีบส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธแล้วหันไปหาอาแพรวทันที หลังจากนั้นเราสามคนก็นั่งทานขนมจีบด้วยกันสามคน ฉันลอบมองหน้าพอสตอนที่เขาเผลอแล้วก็แอบยิ้มคนเดียว นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้มองหน้าเขาแบบใกล้ชิดแบบนี้ "น้องซายน์เรียนจบกลับมาคิดจะทำธุรกิจอะไรไหมลูก" อาแพรวที่คงเห็นว่าเราเงียบกันมากก็เลยหันมาถามฉัน "อ่อ ยังไม่รู้เลยค่ะอาแพรว" "แล้วน้องซายน์เรียนด้านไหนมาล่ะลูก" "น้องซายน์เรียนบริหารการจัดการมาน่ะค่ะ" "เหรอลูก ดีจัง ว่าแต่น้องซายน์คิดหรือยังว่าทำอะไร หรืออยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง" "น้องซายน์ไม่เก่งพอที่จะทำอะไรใหญ่โตขนาดนั้นหรอก น้องซายน์อยากหาประสบการณ์อยากลองทำงานบบริษัทดูก่อนลองไปเป็นลูกน้องเค้าก่อนแต่พ่อกับแม่ของซายน์กลัวว่าซายน์จะไปเจอเจ้านายโรคจิตหื่นกามก็เลยยังไม่อยากให้ไปทำงานที่ไหน นี่น้องซาย์ก็เซ็งๆนะคะอยู่แต่บ้าน" นี่คือเรื่องจริงเพราะตั้งแต่ฉันเรียนจบโทกลับมาฉันยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนั่งๆนอนๆอยู่แต่กับบ้านเพราะพ่อกับแม่ไม่อยากให้ฉันไปเป็นลูกจ้างใครบอกว่าไม่ต้องทำอะไรพ่อกับแม่ก็เลี้ยงฉันได้แต่ฉันก็อยากลองทำอะไรดูบ้างไม่ใช่เรียนมาแล้วไม่ได้ใช้ "ที่โรงงานของอาขาดอยู่หนึ่งตำแหน่งพอดีเลยน้องซายน์สนใจมั้ยลูก" "จริงเหรอคะ" ฉันถามอย่างตื่นเต้นแม้จะยังไม่รู้จะไปทำอะไร "จริงสิจ๊ะ ถ้าน้องซายน์สนใจ อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ก็บอกอามาได้เลยนะอายินดีจ่าย^^" "แล้วถ้าน้องซายน์ไปทำน้องซายน์จะไปทำตำแหน่งอะไรคะอาแพรว" เรื่องเงินเดือนฉันไม่สนใจหรอกแต่ฉันอยากรู้ว่าฉันจะได้ทำอะไรเพราะฉันเรียนจบบริหารมาอยากทำงานตามที่ตัวเองเรียนมาก็เท่านั้นเอง "ก็ตำแหน่งผู้ช่วยของตาพอสไง น้องซายน์จบตั้งปริญญาโทอาคิดว่าน้องซายน์น่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีให้กับลูกชายอาได้มีอะไรก็ปรึกษากันอะไรแบบนี้" "คะ??" "ม๊า!!!" "คือม๊าเห็นว่าพี่เค้าเรียนจบโทมาอาจจะช่วยพอสได้" "แต่ผมไม่ต้องการผู้ช่วยผมทำของผมเองได้" "ไม่ได้สิ" "เอ่อ คือถ้าลูกชายของอาแพรวเค้าไม่ต้องการผู้ช่วยน้องซายน์ก็...." "ต้องการสิทำไมจะไม่ต้องการ" เวลาต่อมา... "จริงเหรอจ๊ะน้องแพรว พี่ขอบใจเรามากเลยนะที่ชวนยัยซายน์ไปทำงานด้วยน่ะ ถ้าได้ทำกับตาพอสพี่ก็จะได้สบายใจ" ตอนนี้อาแพรวกำลังนั่งคุยกับแม่ของฉันที่บ้านของฉันเองค่ะเรื่องที่จะให้ฉันไปทำงานเป็นผู้ช่วยของพอสโดยมีพอสนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆไม่พูดไม่จาอะไร "พี่ฝนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะแพรวจะช่วยดูแลน้องซายน์อย่างดีเลย ส่วนค่าจ้างอยากเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามาเลยค่ะแพรวยินดีจ่ายให้ขอแค่พี่ฝนยอมให้น้องซายน์ไปทำงานที่โรงงานของตาพอส" "ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้น้องแพรว น้องแพรวให้เงินเดือนน้องซายน์ตามเกณฑ์ของบริษัทนั่นแล่ะ ลูกสาวของพี่ก็ถือว่าเป็นพนักงานทั่วไปคนนึงไม่ต้องมีอภิสิทธิ์อะไรทั้งนั้นคนอื่นเค้าจะได้ไม่มาว่าเราทีหลัง" แม่ของฉันพูดถูกต้องทุกอย่างเพราะถ้าฉันต้องทำงานฉันก็ไม่อยากให้ใครมาว่าลับหลังว่าใช้เส้นสายเพื่อเข้าทำงานแถมยังได้เงินเดือนเยอะกว่าคนอื่นๆ "ไม่ได้หรอกค่ะเพราะน้องซายน์จบตั้งปริญญาโทมาจากเมืองนอกยังไงค่าจ้างก็ต้องได้เยอะกว่าคนอื่นๆอยู่ดี เอางี้ดีกว่าแพรวจะให้เงินเดือนน้องซายน์เท่าตาพอสเลยดีมั้ยคะ^^" "ห๊ะ!!!" แม่ฉันเองค่ะที่อุทานออกมาด้วยความตกใจรวมถึงฉันด้วยที่ตกใจไม่น้อยไปกว่าแม่ "อาแพรวคะคือว่า" คือว่าฉันรู้สึกเกรงใจน่ะถึงแม้จะรู้ว่าครอบครัวอาแพรวจะรวยมากๆพอๆกับครอบครัวของฉันก็เถอะแต่มันเยอะเกินไปฉันเป็นแค่ผู้ช่วยแต่ให้เงินเดือนเท่าเจ้าของของพอสมันดูยังไงๆอยู่ ฉันหันไปมองหน้าพอสที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตากดมือถือเล่นไม่ได้หือได้อืออะไรกับคำพูดของแม่ตัวเอง นี่เขาไม่คิดจะมีปฏิกริยาต่อต้านบ้างเหรอที่ฉันจะได้เงินเดือนเท่าเขาน่ะ "ไม่มีแต่จ๊ะน้องซายน์ ถ้างั้นตกลงตามนี้นะคะพี่ฝน^^" คุณแม่เปย์หนักมาก55555
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD