อดีตที่เจ็บปวดของแพทริค #1

1413 Words
แพทริคกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้เขากำลังคิดถึงแฟนเก่าอย่างฮาเซลอีกแล้ว เหตุการณ์ในวันวานยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เปลี่ยนแปลง ‘ฉันรู้สึกเหนื่อยและเบื่อเต็มทีแล้วแพทริค’ ฮาเซลพูดด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ ประโยคนั้นทำให้แพทริคสับสนและตกใจไม่ใช่น้อย เขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยล้าและยังไม่ทันได้ทำอะไรเธอเลยสักนิด ไม่คิดเลยว่าจะได้รับการต้อนรับกลับบ้านจากแฟนสาวด้วยคำพูดที่ทิ่มแทงจิตใจแบบนี้ ‘คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม’ เขาถาม ก่อนจะได้รับเสียงกรีดร้องด้วยความไม่พอใจของเธอตอบกลับมา ‘กรี๊ดด ! คุณนั่นแหละเคยเข้าใจหรือสนใจในตัวฉันบ้างไหม !’ ฮาเซลถามอย่างหงุดหงิดที่แฟนหนุ่มไม่เคยเข้าใจอะไรในตัวเธอเลย ‘งั้นก็บอกผมมาสิว่าคุณต้องการจะสื่ออะไรกันแน่’ ‘ฉันเกลียดคุณ... แพทริค เกลียด… เกลียดที่สุด !’ ฮาเซลตะคอกใส่เขาด้วยอารมณ์โกรธที่ก่อตัวมากขึ้นจนแพทริคถึงกับผงะถอยหลังอย่างเกรงกลัวเพลิงพิโรธของเธอ จากนั้นคำตอบก็ถูกเฉลยพร้อมกับความตกใจที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิดในหัวของเขา ‘ฉันจะบอกให้คุณรู้ก็ได้ วันนี้ฉันรอคุณตั้งสามชั่วโมงเพียงเพราะคำสัญญาเรื่องที่เราจะไปเดตกัน แต่ดูสิ่งที่คุณทำสิ คุณผิดนัดฉันและปล่อยให้ฉันรอเก้อ มันรอบที่เท่าไรแล้วที่คุณผิดนัดฉันแบบนี้ เฮ้อ ! ฉันว่านะ ถ้าคุณยุ่งกับงานมากนักก็ไปเป็นแฟนกับกองงานของคุณซะเถอะ !’ แพทริคตัวแข็งทื่อ ใช่ เขาลืมเรื่องนัดเดตกับฮาเซลเสียสนิท ทั้งที่เขาเป็นคนออกปากสัญญากับเธอเองด้วยซ้ำ คราวนี้เขาผิดจริง ๆ ผิดแบบไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นเพราะมัวแต่ทำงานจนลืมนัดสำคัญครั้งนี้เอง ‘ที่รักผมขอโทษ เผอิญมีประชุมเร่งด่วนสำคัญเข้ามาพอดีผมเลยลืมนัด ยกโทษให้ผมหน่อยได้ไหมครับ’ ‘อ๋อเหรอแพทริค คุณมีสิ่งสำคัญต้องทำตลอดเลยนะ แล้วฉันล่ะ ! ไม่มีความสำคัญกับคุณบ้างเลยเหรอ บริษัทของคุณมันสำคัญมากกว่าฉันใช่ไหม’ แพทริคไม่ชอบสถานการณ์ในตอนนี้เลย เขารักฮาเซลมากและไม่อยากให้เราต้องทะเลาะกัน ทว่าบริษัทก็สำคัญมากเช่นกัน ‘ผมขอโทษ ผมจะยอมทำตามทุกอย่างที่คุณต้องการเลยก็ได้ เพราะงั้นหายงอนผมเถอะนะ’ แพทริคพยายามง้อเธออีกครั้ง เขาไม่อยากให้เธอและเขาต้องหมางเมินใส่กัน ‘ไม่จำเป็นหรอกแพทริค’ ฮาเซลตอบปฏิเสธ ชายหนุ่มจึงยิ้มอย่างดีใจเพราะนึกว่าเธอคงจะหายงอนเขาแล้ว ทว่าเขาคิดผิด... ‘คุณพูดแบบนี้เสมอเวลาทะเลาะกัน แต่คุณไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง แล้วอย่างนี้คุณจะหาข้อแก้ตัวอะไรอีก’ ฮาเซลทำหน้าตาไม่พอใจโดยไม่สนใจว่าแพทริคจะคิดยังไง ‘คุณมันไม่ได้เรื่องแพทริค !’ ‘ฮาเซล ผมว่าเราหยุดทะเลาะก่อนเถอะ ใช่ ผมมันแย่ แต่สัญญาว่าต่อจากนี้ผมจะปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิม เอางี้ไหม พรุ่งนี้เราไปเดตกันใหม่เถอะ’ แพทริคพยายามเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวใจเย็นลง เขายอมรับว่าตัวเองเป็นแฟนที่แย่มากจริง ๆ ‘ไม่ต้องหรอกแพทริค เพราะมันจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว’ ฮาเซลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แพทริคไม่เข้าใจว่าเธอต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้พูดกับเขาว่ามันจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีก และในที่สุดฮาเซลก็หลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ต้องการ ‘ที่บอกว่าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้วก็เพราะว่าฉันเก็บของทุกอย่างพร้อมที่จะย้ายออกจากที่นี่แล้วน่ะสิ ฉันแค่นั่งรอให้คุณกลับมาและบอกลาคุณด้วยตัวเองก่อนจะออกไปก็เท่านั้น’ ‘หมายความว่ายังไงที่ว่าจะย้ายออก…’ แพทริคถามด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งและชาไปหมดทั้งตัว สิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดมากที่สุด มันกำลังจะเป็นจริงแล้วสินะ ‘ฉันไม่อยากมีชีวิตรักแบบนี้อีกต่อไปแล้วแพทริค ในเมื่อคุณทำให้ฉันมีความสุขไม่ได้ ฉันว่าพวกเราก็ควรพอกันแค่นี้เถอะ ฉันเหนื่อยกับความสัมพันธ์ของพวกเราเต็มกลืนแล้ว’ ทันใดนั้นแพทริคก็แสดงสีหน้าตกใจและร้องไห้ออกมาทันที ฮาเซลไม่ได้แค่โกรธเขา แต่เธอถึงขั้นขอเลิกกับเขาเลยด้วยซ้ำ… ‘คุณกำลังแกล้งบอกผมเลิกอยู่ใช่ไหม’ เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาใส ๆ คลอหน่วยพร้อมจะไหลริน ‘เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ได้แกล้ง ฉันอยากเลิกกับคุณจริง ๆ’ ประโยคนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจแพทริค น้ำตาเขาไหลออกมาทันที ก่อนที่จะทรุดลงกับพื้นพร้อมกับร่างของฮาเซลที่เดินออกจากประตูไปโดยไม่คิดจะมองย้อนกลับมาหาเขาอีกเลย ฮาเซลไม่ยอมให้แม้แต่โอกาสที่สองแก่เขา เธอทิ้งเขาไปแล้วจริง ๆ เธอปล่อยเขาไว้กับหัวใจที่แตกสลายและทนทุกข์ทรมานด้วยความเศร้าที่กัดกินตัวตนของเขาอยู่เพียงลำพัง เหตุการณ์วันนั้นผ่านมาได้เจ็ดปีแล้ว ทว่าแพทริคยังคงทำใจไม่ได้ มันเหมือนทุกอย่างยังคงติดอยู่ในหัวของเขาราวกับว่าเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานอย่างไรอย่างนั้น และนั่นคือสาเหตุที่เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการทำงาน เพราะตอนนี้งานคือสิ่งเดียวที่เขารักและเข้าใจตัวเขาอย่างแท้จริง แต่มัมกับแด๊ดไม่คิดแบบนั้น พวกท่านเป็นห่วงเขามากและต้องการให้เขาเดินไปข้างหน้า พวกท่านต้องการให้เขาหาแฟนใหม่เพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์นี้ มัมมักโทรหาเขาทุกเดือนเพื่อเช็กดูว่าเขามีแฟนใหม่แล้วหรือยัง พอเขาตอบว่ายังไม่มี เธอก็แอบคิดหนักว่าจะหมดโอกาสแล้วกับการได้เป็นคุณย่าเหมือนคนอื่น ๆ เนื่องจากลูกชายไม่ยอมมีแฟนคนใหม่เสียที …. (แพทริคลูกรักเชื่อมัมเถอะ หาแฟนใหม่แล้วเดินไปข้างหน้า ลืมฮาเซลไปซะ ถ้าเธอรักลูกจริงคงไม่มีวันที่จะทิ้งลูกแบบนี้แน่) ‘ขอร้องละครับมัม ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก’ (เราต้องคุยแพทริค ลูกอายุมากขึ้นทุกปี อีกสองเดือนลูกจะสี่สิบแล้วนะ หยุดทำร้ายตัวเองโดยใช้ชีวิตแบบนี้สักทีเถอะลูกรัก อีกอย่างเธอไม่มีค่าพอให้ลูกมาจมปลักหรอก) ‘ขอโทษนะครับ ผมมีงานอื่นที่ต้องทำต่อ ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันคราวหลังเถอะครับ’ แพทริครีบหาทางออกเพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องโดนกดดันไปมากกว่านี้ (สิ่งที่มัมกำลังสื่อคือมัมไม่อยากให้ลูกทำงานหนักมากจนเกินไป ออกไปข้างนอกสังสรรค์กับคนอื่นบ้าง เจอสังคมใหม่ ๆ บ้าง คิดซะว่าทำเพื่อมัมจะได้ไหมแพทริค) นาโอมิทำเสียงคร่ำครวญร้องไห้ออกมาตามสายเพื่อล่อลูกชายดู ‘ครับ ๆ ก็ได้มัม ไว้ผมจะลองเก็บไปคิดดู’ แพทริคเสียรู้จนใจอ่อนให้มัมอีกแล้ว เขายอมรับปากเพื่อให้เธอหยุดร้องไห้ (จะเสียเวลาคิดทำไม ทำเลยสิลูก คราวหน้าถ้ามัมโทรมาหวังว่าลูกจะมีแฟนใหม่แล้วนะ) ‘เดี๋ยวสิครับ....’ (รักลูกนะ บายจ้ะลูกรัก) นาโอมิรีบตัดสายไปทันทีก่อนแพทริคจะได้มีโอกาสพูดอะไรกลับมา และนี่ก็เป็นบทสนาสุดท้ายของเขากับมัม เรื่องนี้กดดันเขาเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่เพียงแค่จากตัวมัมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสื่อมวลชนที่พากันเกาะติดเขาในเรื่องนี้อีกต่างหาก เห็นทีว่าเขาต้องจัดการบางอย่างและลงมือทำมันให้เสร็จโดยเร็วแล้วละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD