บทที่ ๓ ตราบาปเพลิงอสูร(๒)

1274 Words
พยุงหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งบนเบาะด้านข้างคนขับเสร็จ ก็เดินอ้อมไปประจำที่ของตัวเอง เคลื่อนตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนนั่งข้างๆ เสร็จสรรพชายหนุ่มก็เอ่ยปากถาม “คุณจะไปไหน ผมจะต้องกลับบ้านแล้วนะ” นาฬิกาหน้าคอนโซลรถบอกเวลาตีหนึ่งครึ่งทั้งที่ความจริงเวลานี้ชายหนุ่มควรจะได้นอนหลับสบายอยู่บนที่นอนหนานุ่มไม่ใช่มาผจญกับเรื่องไร้สาระเหมือนที่เป็นอยู่ “บ้าน...นาย...” เสียงหญิงสาวดังขึ้น “ไม่ได้” เสียงทุ้มเข้มๆ แทบทำให้เกศน์สลิลสะดุ้ง “ผมหมายถึงมันไม่เหมาะ” ก่อนน้ำเสียงจะอ่อนโยนลงในประโยคหลัง “โรงแรม...ม่านรูด...ที่ไหนก็ได้...ข้างถนนตรงนี้ก็ได้!” คนเมาตวาดออกไปจนสุดเสียง ก่อนมือทั้งสองข้างจะถูกยกขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเอง เสียงสะอึกสะอื้นจนตัวโยนดังขึ้นอีกครั้ง เพลิงอัคคีส่ายหน้าไปมา ให้ตายเถิดดวงจะซวยอะไรขนาดนี้ที่ต้องมาเจอ ‘ผู้หญิงบ้า’ คนหนึ่ง รถกระบะโฟร์วิลสีดำสนิท เคลื่อนตัวออกจากผับดังตรงดิ่งไปยังโรงแรมกลางใจเมือง ชายหนุ่มคิดว่าจะไปส่งหญิงสาวจ่ายค่าห้องพักให้หลังจากนั้นก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน เพราะวันนี้ชีวิตเขาวุ่นวายมามากเกินพอแล้ว เพลิงอัคคีประคองร่างระหงลงจากรถ ในขณะที่มีผู้ชายหน้าเข้มสองสามคนเดินไปเดินมาจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครสนใจชายหนุ่มแม้แต่คนเดียว ร่างเพรียวบางถูกพยุงเข้าไปในโรงแรม โดยมีพนักงานชายคนหนึ่งอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ห้องวีไอพีชั้นสิบเก้าคือจุดมุ่งหมาย มือหนาประคองหญิงสาวให้ล้มตัวนอนบนเตียงกว้างอย่างแผ่วเบา ได้ยืนเสียงหล่อนครางจิ๊จ๊ะขัดใจอะไรสักอย่างก่อนจะกระสับกระส่ายไปมา เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายทั้งๆ ที่บรรยากาศในห้องเย็นจัด ดูเหมือนหล่อนจะง่วงและเมาในเวลาเดียวกัน “นี่คุณร้อนเหรอ” เพลิงอัคคีเอ่ยถามเบาๆ ได้ยินคนเมาครางตอบรับกลับมา ผ้าผืนเล็กที่มีบริการไว้ในห้องพักวีไอพีถูกชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ ซับไปตามใบหน้านวลงามที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา ซับเหงื่อที่เริ่มผุดพรายให้อย่างอ่อนโยน เพลิงอัคคีมั่นใจว่าหล่อนไม่ได้โดนสารกระตุ้นหรือสิ่งอื่นๆ นอกจากพิษจากเบอร์เบิ้นวิสกี้เท่านั้น “ดีขึ้นรึยัง ผมจะกลับแล้วนะ” “เดี๋ยว...นาย...อย่า...ทิ้งฉาน...” เกศน์สลิลลุกขึ้นมาคว้าแขนชายหนุ่มไว้แน่น เธอพยายามปรือตาขึ้นมาสบมอง แววตาหวานหยดที่เอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ นั้นไม่ต่างจากโซ่ที่ตราตรึงล็อกร่างกายแข็งแกร่งไม่ให้ขยับไปไหน เพลิงอัคคีตัวแข็งทื่อก่อนจะค่อยๆ ทรุดกายนั่งลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา “ผมต้องขอตัว นี่ดึกมากแล้วคุณพักผ่อนเถอะจะได้ดีขึ้น” “ก็ได้ แต่...นายช่วยจูบฉันก่อนจะได้ไหม ฉันขอร้อง...” มือบางทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่ม ก่อนจะแหงนเงยสบตามองอย่างเชิญชวน ลูกพญาอินทรีนั่งนิ่งหยุดหายใจเพียงชั่วครู่แล้วค่อยๆ แกะมือบางออกเบาๆ “อย่าทำอย่างนี้...” “นายรังเกียจฉันเหรอ ทำไม ทำไม...ทำไม...” “อุ๊บ...” เสียงคนโวยวายเงียบกริบ มือบางเคลื่อนโอบรอบคอของชายหนุ่ม ในขณะที่เรียวปากหนาทาบทับลงมาหยุดเสียงทุกอย่าง เรียวปากได้รูปเคล้นคลึงคลุกเคล้าเฝ้าวนเวียนจูบเรียวปากอวบอิ่มวนเวียนครั้งแล้วครั้งเล่า เพลิงอัคคีเฝ้าหยอกเย้าด้วยความเป็นธรรมชาติก่อนจะรุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความซ่านสยิววิ่งพล่านทั่วเรือนกายแกร่ง จูบที่หวานล้ำเริ่มเรียกร้องความวาบหวิวมากขึ้น ปลายลิ้นร้อนชื้นลากไล้แตะชิมเรียวปากบางก่อนจะค่อยๆ ผลักลิ้นหนาเข้าไปพลิ้วไหวแตะไล้เรียวลิ้นอ่อนนุ่มผะแผ่ว “นะ... นาย” เกศน์สลิลผลักอกกว้างให้ออกห่างเบาๆ เมื่อร่างกายตัวเองเริ่มขาดอากาศหายใจ “ผม...ผมขอโทษ” เพลิงอัคคีถอนลิ้นร้อนชื้นออกจากเรียวปากอวบอิ่มอย่างแสนเสียดายก่อนจะปล่อยให้ลมหายใจร้อนๆ รินรดต้นคอหอมกรุ่นราวกับกำลังหักห้ามใจอย่างหนักใจ ลมหายใจหอบแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นกายสาวเย้ายวนชวนปลุกปั่นอารมณ์หวิวๆ เหลือเกิน “ผมกลับล่ะ ขอโทษที่ล่วงเกิน” มือบางของเกศน์สลิลกำสาบเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น หญิงสาวส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่งเหยิง “คุณมั่นใจเหรอที่อยากให้มันเป็นแบบนี้” ในขณะที่รอคอยคำตอบ ร่างกายของเพลิงอัคคีก็แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอจะรู้บ้างไหมเขาต้องหักห้ามใจมากเพียงใด มากเสียจนร่างกายรวดร้าวไปหมด “มะ...มั่น...ใจ...” เสียงสั่นๆ ดังขึ้น เพียงสิ้นสุดคำตอบ ร่างบางก็ถูกผลักลงให้นอนกลางเตียงหนานุ่ม มือหนาสอดประสานกับมือเรียวเล็กอย่างแน่นหนา นิ้วร้ายของชายหนุ่มนวดคลึงหลังมือเรียวเล็กอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากหนาเคลื่อนจุมพิตบนขมับบางที่ชื้นเหงื่อด้วยพิษสุรา ก่อนน้ำเสียงสั่นพร่าจะดังขึ้น “ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่สามารถหยุดมันได้ ถึงแม้จะหยุดได้...ผมก็ไม่คิดที่จะทำ!” หญิงสาวหลับตาพริ้มแน่นิ่งอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่ม รู้สึกถึงความเย็นนิดๆ ที่แตะไล้ผ่านเรียวปากอวบอิ่ม ก่อนความร้อนชื้นจะลากไล้ผะแผ่วพาดผ่านแก้มเนียนนุ่ม ระเรื่อยไล้ผ่านมายังใบหูบอบบางทั้งสองข้าง ในขณะที่คนใต้ร่างสั่นเทาอย่างหวาดกลัว รสชาติเบอร์เบิ้นวิสกี้ทำให้รสจูบครั้งนี้หวานล้ำแปลกแตกต่างยิ่งกว่ารสจูบของสาวๆ ทุกคนที่ผ่านมา เมื่อคลุกเคล้ากับบรั่นดีที่ดื่มเข้าไป ยิ่งทำให้กายแกร่งแข็งขึง ท่อนเนื้อหนาแน่นช่วงกลางลำตัวเหยียดขยายดุนดันผ่านกางเกงตัวยาวที่เจ้าตัวสวมใส่จนร้อนผ่าว ลิ้นร้อนๆ ลากไล้มาหยุดแทะเล็มอยู่บริเวณเนินอกที่ขาวอวบอิ่ม ผิวนวลเนียนถูกพาดผ่านทุกรูขุมขน ชุดแซกสีน้ำตาลอ่อนที่เอื้ออำนวยนั้นทำให้เพลิงอัคคีเคลื่อนตวัดลิ้นไล้ผ่านได้อย่างถนัดถนี่ หัวใจของเกศน์สลิลเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกเบาหวิวคล้ายๆ อาการของคนจะเป็นลม ยิ่งเขาสัมผัสเธอมากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกตื่นกลัว “นะ...นาย...พะ...พอแล้ว” เสียงตะกุกตะกักเอ่ยบอก “อะ...อื้อ” เสียงห้ามปรามที่ดังขึ้นเมื่อสักครู่ ถูกเรียวปากอุ่นทาบทับบดเบียดและเรียกร้อง ก่อนมือหนาจะสอดเข้าแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว ซิปชุดแซกถูกรูดลงแล้วค่อยๆ ดึงรั้งชุดนั้นลงมากองไว้ที่เอวคอด บราไร้สายก็ถูกกระชากให้ร่วงหล่นไปกองแหมะอยู่ปลายเตียงนอนหรู คนโดนจูบดวงตาเบิกกว้างหายเมาเป็นปลิดทิ้งเมื่ออาภรณ์ชิ้นเล็กที่ปกปิดปทุมถันอวบอูมลอยหวือไปต่อหน้าต่อตา มือเล็กๆ ผลักร่างกายบึกบึนให้ออกห่าง เพลิงอัคคีทำเสียงขัดใจอยู่ในลำคอ ก่อนจะเลื่อนมือหนาข้างซ้ายขึ้นมากอบกุมอกสล้างผะแผ่วเบา แล้วเริ่มเคล้นคลึงอยู่อย่างนั้น มือข้างขวาจับมือเล็กๆ ที่เริ่มทุบตีเนื้อหนุ่มจนแทบช้ำ ตราตรึงกดลงให้ฝังแน่นในที่นอนนุ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD