พยุงหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งบนเบาะด้านข้างคนขับเสร็จ ก็เดินอ้อมไปประจำที่ของตัวเอง เคลื่อนตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนนั่งข้างๆ เสร็จสรรพชายหนุ่มก็เอ่ยปากถาม
“คุณจะไปไหน ผมจะต้องกลับบ้านแล้วนะ”
นาฬิกาหน้าคอนโซลรถบอกเวลาตีหนึ่งครึ่งทั้งที่ความจริงเวลานี้ชายหนุ่มควรจะได้นอนหลับสบายอยู่บนที่นอนหนานุ่มไม่ใช่มาผจญกับเรื่องไร้สาระเหมือนที่เป็นอยู่
“บ้าน...นาย...” เสียงหญิงสาวดังขึ้น
“ไม่ได้” เสียงทุ้มเข้มๆ แทบทำให้เกศน์สลิลสะดุ้ง
“ผมหมายถึงมันไม่เหมาะ” ก่อนน้ำเสียงจะอ่อนโยนลงในประโยคหลัง
“โรงแรม...ม่านรูด...ที่ไหนก็ได้...ข้างถนนตรงนี้ก็ได้!”
คนเมาตวาดออกไปจนสุดเสียง ก่อนมือทั้งสองข้างจะถูกยกขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเอง เสียงสะอึกสะอื้นจนตัวโยนดังขึ้นอีกครั้ง เพลิงอัคคีส่ายหน้าไปมา ให้ตายเถิดดวงจะซวยอะไรขนาดนี้ที่ต้องมาเจอ ‘ผู้หญิงบ้า’ คนหนึ่ง
รถกระบะโฟร์วิลสีดำสนิท เคลื่อนตัวออกจากผับดังตรงดิ่งไปยังโรงแรมกลางใจเมือง ชายหนุ่มคิดว่าจะไปส่งหญิงสาวจ่ายค่าห้องพักให้หลังจากนั้นก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน เพราะวันนี้ชีวิตเขาวุ่นวายมามากเกินพอแล้ว
เพลิงอัคคีประคองร่างระหงลงจากรถ ในขณะที่มีผู้ชายหน้าเข้มสองสามคนเดินไปเดินมาจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครสนใจชายหนุ่มแม้แต่คนเดียว ร่างเพรียวบางถูกพยุงเข้าไปในโรงแรม โดยมีพนักงานชายคนหนึ่งอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ห้องวีไอพีชั้นสิบเก้าคือจุดมุ่งหมาย
มือหนาประคองหญิงสาวให้ล้มตัวนอนบนเตียงกว้างอย่างแผ่วเบา ได้ยืนเสียงหล่อนครางจิ๊จ๊ะขัดใจอะไรสักอย่างก่อนจะกระสับกระส่ายไปมา เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายทั้งๆ ที่บรรยากาศในห้องเย็นจัด ดูเหมือนหล่อนจะง่วงและเมาในเวลาเดียวกัน
“นี่คุณร้อนเหรอ” เพลิงอัคคีเอ่ยถามเบาๆ ได้ยินคนเมาครางตอบรับกลับมา
ผ้าผืนเล็กที่มีบริการไว้ในห้องพักวีไอพีถูกชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ ซับไปตามใบหน้านวลงามที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา ซับเหงื่อที่เริ่มผุดพรายให้อย่างอ่อนโยน เพลิงอัคคีมั่นใจว่าหล่อนไม่ได้โดนสารกระตุ้นหรือสิ่งอื่นๆ นอกจากพิษจากเบอร์เบิ้นวิสกี้เท่านั้น
“ดีขึ้นรึยัง ผมจะกลับแล้วนะ”
“เดี๋ยว...นาย...อย่า...ทิ้งฉาน...”
เกศน์สลิลลุกขึ้นมาคว้าแขนชายหนุ่มไว้แน่น เธอพยายามปรือตาขึ้นมาสบมอง แววตาหวานหยดที่เอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ นั้นไม่ต่างจากโซ่ที่ตราตรึงล็อกร่างกายแข็งแกร่งไม่ให้ขยับไปไหน เพลิงอัคคีตัวแข็งทื่อก่อนจะค่อยๆ ทรุดกายนั่งลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา
“ผมต้องขอตัว นี่ดึกมากแล้วคุณพักผ่อนเถอะจะได้ดีขึ้น”
“ก็ได้ แต่...นายช่วยจูบฉันก่อนจะได้ไหม ฉันขอร้อง...”
มือบางทั้งสองข้างเลื่อนขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่ม ก่อนจะแหงนเงยสบตามองอย่างเชิญชวน ลูกพญาอินทรีนั่งนิ่งหยุดหายใจเพียงชั่วครู่แล้วค่อยๆ แกะมือบางออกเบาๆ
“อย่าทำอย่างนี้...”
“นายรังเกียจฉันเหรอ ทำไม ทำไม...ทำไม...”
“อุ๊บ...”
เสียงคนโวยวายเงียบกริบ มือบางเคลื่อนโอบรอบคอของชายหนุ่ม ในขณะที่เรียวปากหนาทาบทับลงมาหยุดเสียงทุกอย่าง เรียวปากได้รูปเคล้นคลึงคลุกเคล้าเฝ้าวนเวียนจูบเรียวปากอวบอิ่มวนเวียนครั้งแล้วครั้งเล่า เพลิงอัคคีเฝ้าหยอกเย้าด้วยความเป็นธรรมชาติก่อนจะรุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความซ่านสยิววิ่งพล่านทั่วเรือนกายแกร่ง
จูบที่หวานล้ำเริ่มเรียกร้องความวาบหวิวมากขึ้น ปลายลิ้นร้อนชื้นลากไล้แตะชิมเรียวปากบางก่อนจะค่อยๆ ผลักลิ้นหนาเข้าไปพลิ้วไหวแตะไล้เรียวลิ้นอ่อนนุ่มผะแผ่ว
“นะ... นาย” เกศน์สลิลผลักอกกว้างให้ออกห่างเบาๆ เมื่อร่างกายตัวเองเริ่มขาดอากาศหายใจ
“ผม...ผมขอโทษ”
เพลิงอัคคีถอนลิ้นร้อนชื้นออกจากเรียวปากอวบอิ่มอย่างแสนเสียดายก่อนจะปล่อยให้ลมหายใจร้อนๆ รินรดต้นคอหอมกรุ่นราวกับกำลังหักห้ามใจอย่างหนักใจ ลมหายใจหอบแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นกายสาวเย้ายวนชวนปลุกปั่นอารมณ์หวิวๆ เหลือเกิน
“ผมกลับล่ะ ขอโทษที่ล่วงเกิน”
มือบางของเกศน์สลิลกำสาบเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น หญิงสาวส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่งเหยิง
“คุณมั่นใจเหรอที่อยากให้มันเป็นแบบนี้”
ในขณะที่รอคอยคำตอบ ร่างกายของเพลิงอัคคีก็แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอจะรู้บ้างไหมเขาต้องหักห้ามใจมากเพียงใด มากเสียจนร่างกายรวดร้าวไปหมด
“มะ...มั่น...ใจ...” เสียงสั่นๆ ดังขึ้น
เพียงสิ้นสุดคำตอบ ร่างบางก็ถูกผลักลงให้นอนกลางเตียงหนานุ่ม มือหนาสอดประสานกับมือเรียวเล็กอย่างแน่นหนา นิ้วร้ายของชายหนุ่มนวดคลึงหลังมือเรียวเล็กอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากหนาเคลื่อนจุมพิตบนขมับบางที่ชื้นเหงื่อด้วยพิษสุรา ก่อนน้ำเสียงสั่นพร่าจะดังขึ้น
“ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่สามารถหยุดมันได้ ถึงแม้จะหยุดได้...ผมก็ไม่คิดที่จะทำ!”
หญิงสาวหลับตาพริ้มแน่นิ่งอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่ม รู้สึกถึงความเย็นนิดๆ ที่แตะไล้ผ่านเรียวปากอวบอิ่ม ก่อนความร้อนชื้นจะลากไล้ผะแผ่วพาดผ่านแก้มเนียนนุ่ม ระเรื่อยไล้ผ่านมายังใบหูบอบบางทั้งสองข้าง ในขณะที่คนใต้ร่างสั่นเทาอย่างหวาดกลัว
รสชาติเบอร์เบิ้นวิสกี้ทำให้รสจูบครั้งนี้หวานล้ำแปลกแตกต่างยิ่งกว่ารสจูบของสาวๆ ทุกคนที่ผ่านมา เมื่อคลุกเคล้ากับบรั่นดีที่ดื่มเข้าไป ยิ่งทำให้กายแกร่งแข็งขึง ท่อนเนื้อหนาแน่นช่วงกลางลำตัวเหยียดขยายดุนดันผ่านกางเกงตัวยาวที่เจ้าตัวสวมใส่จนร้อนผ่าว
ลิ้นร้อนๆ ลากไล้มาหยุดแทะเล็มอยู่บริเวณเนินอกที่ขาวอวบอิ่ม ผิวนวลเนียนถูกพาดผ่านทุกรูขุมขน ชุดแซกสีน้ำตาลอ่อนที่เอื้ออำนวยนั้นทำให้เพลิงอัคคีเคลื่อนตวัดลิ้นไล้ผ่านได้อย่างถนัดถนี่
หัวใจของเกศน์สลิลเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกเบาหวิวคล้ายๆ อาการของคนจะเป็นลม ยิ่งเขาสัมผัสเธอมากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกตื่นกลัว
“นะ...นาย...พะ...พอแล้ว” เสียงตะกุกตะกักเอ่ยบอก
“อะ...อื้อ”
เสียงห้ามปรามที่ดังขึ้นเมื่อสักครู่ ถูกเรียวปากอุ่นทาบทับบดเบียดและเรียกร้อง ก่อนมือหนาจะสอดเข้าแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว ซิปชุดแซกถูกรูดลงแล้วค่อยๆ ดึงรั้งชุดนั้นลงมากองไว้ที่เอวคอด บราไร้สายก็ถูกกระชากให้ร่วงหล่นไปกองแหมะอยู่ปลายเตียงนอนหรู คนโดนจูบดวงตาเบิกกว้างหายเมาเป็นปลิดทิ้งเมื่ออาภรณ์ชิ้นเล็กที่ปกปิดปทุมถันอวบอูมลอยหวือไปต่อหน้าต่อตา
มือเล็กๆ ผลักร่างกายบึกบึนให้ออกห่าง เพลิงอัคคีทำเสียงขัดใจอยู่ในลำคอ ก่อนจะเลื่อนมือหนาข้างซ้ายขึ้นมากอบกุมอกสล้างผะแผ่วเบา แล้วเริ่มเคล้นคลึงอยู่อย่างนั้น มือข้างขวาจับมือเล็กๆ ที่เริ่มทุบตีเนื้อหนุ่มจนแทบช้ำ ตราตรึงกดลงให้ฝังแน่นในที่นอนนุ่ม