ได้โปรดให้ฉันช่วยเธอ

1535 Words
ตอนที่ 5 หญิงสาววางโทรศัพท์ลง จากนั้นก็ลุกเดินไปมาอยู่อย่างนั้นอาการเธอเหมือนคนกําลังคิดหนัก ก่อนจะเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์ กดเบอร์เจ้าของโมเดลลิ่งอยู่หลายครั้งก็ลบทิ้ง เพราะเธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปทํางานแบบนั้นอีก แต่เวลานี้ครอบครัวกําลังเดือดร้อน หลังจากที่เลิกกับปรเมศวร์ พลอยนภัสเสียใจแล้วก็พอดีกับแม่ของเธอป่วยหนัก เพื่อนจึงพาเธอไปรับงานเป็นพริตตี้ ในงานมอเตอร์โชว์ หลังจากนั้นเธอก็ทำงานนี้เรื่อยมา จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่โมเดลลิ่งรับงานโดยไม่ปรึกษาเธอ เธอจำใจไปงาน ๆ หนึ่งเป็นงานกินเลี้ยงของกลุ่มนักธุรกิจ โชคดีว่าตอนเกิดเหตุร้าย ๆ ขึ้น เพื่อนเธอไปช่วยไว้ทัน ไม่งั้นเธอคงเสร็จพวกหื่นกาม จากนั้นพลอยนภัสเลยเลิกติดต่อกับโมเดลลิ่งรายนี้ และไม่ทำงานแบบนี้อีกเลย ‘จะเอาไงดี’ หญิงสาวลุกเดินไปมาหน้าตาเคร่งเครียด แล้วตัดสินใจโทรกลับไปหาป้า เพื่อให้ท่านเจรจากับโรงพยาบาลว่าขอเวลาสักระยะ “จะใครโทรหาเหรอ ดูสีหน้าเธอเครียดจัง” ปรเมศวร์ถามขึ้น “ฉันอยากให้ป้าไปเจรจากับทางโรงพยาบาลว่าให้ เวลาอีกหน่อย ตอนนี้ฉันหาเงินไม่ได้จริงๆ” “เขาไม่ยอมเจรจาหรอก เธอรับข้อเสนอฉันเถอะ เรื่องจะได้จบ ๆ ไป!” “ฉันถามตรง ๆ นะ ถ้าคุณให้เงินฉันยืม แล้วฉันยังไม่มีให้คืน ฉันต้องนอนกับคุณหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นฉันขอไม่รับ” “ฉันไม่ได้ต้องการเพียงแค่เช็กซ์จากเธอ ถ้าฉันต้องการแค่นั้นฉันซื้อเอาไม่ดีกว่าเหรอ แต่ฉันต้องการความรักจากเธอ......... พลอยนภัส” “แล้วถ้าฉันไม่ได้เหลือความรักให้คุณล่ะ ฉันรักคนที่มีภรรยาแล้วไม่ได้หรอก มันผิดศีลธรรม” “เอาเป็นว่าตอนนี้เธอรับเงินฉันไปก่อน อย่างอื่นฉันไม่เร่งรัดเธอ” พูดจบเขาก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที “เปิด QR code สิ ฉันจะโอนให้” หญิงสาวมองหน้าเขา แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกจริง ๆ เธอถอนหายใจเสร็จก็เปิด ให้เขาสแกน QR code เพื่อโอนเงินให้เธอทันที ยอดที่โอน 200,000 บาท” “มันมากเกินไป ฉันโอนเงินคืนดีกว่า” “เก็บไว้เถอะ แม่เธอยังไม่ได้ออกโรงพยาบาล เดี๋ยวก็มีค่าใช้อื่น ๆ อีก แล้วถ้าไม่พอก็บอกฉันนะ” “ขอบคุณค่ะ” “ว่าแต่วันนี้จะให้ฉันไปส่งที่บ้านหรือเปล่า” “อืม!.. ก็ได้ค่ะ แต่ว่าฉันขอจัดกระเป๋าแป๊บหนึ่งนะคะ” “ไปสิ..เดี๋ยวฉันรอ” ในห้องพักของเธอ พลอยนภัสพยายามตั้งสมาธิเพื่อเก็บกระเป๋าของตนให้เสร็จ เธอไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องปรเมศวร์ ไม่อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอมีเรื่องมากมายที่จะต้องให้คิด เรื่องเกี่ยวกับการรักษาของมารดา เมื่อเธอรูดซิปปิดกระเป๋าใบใหญ่ที่สุดลง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “สวัสดีค่ะ” พลอยนภัสรับสาย ขณะที่ลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ออกไปยังโถงทางเดิน “เสี่ยมีข่าว คิดว่าหนูคงอยากฟัง” เสี่ยชัชนั่นเอง หญิงสาวยืดตัวขึ้น แล้วทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ตรงประตู “ดิฉันมีเรื่องหลายอย่างที่จะทำตอนนี้ คงไม่มีเวลาฟังหรอกค่ะ” คำพูดนี้ทำให้เสี่ยเลือดขึ้นหน้าพลอยนภัสปฏิเสธความรักความหวังดีจากเขา สรรพนามที่คุยกันก็เลยเปลี่ยนไปทันที “มันเป็นเรื่องของน้องชายเธอ พลอยนภัส เธอตั้งใจฟังให้ดีนะ” “ทำไมหรือคะเกิดอะไรขึ้นหรือ” เธอถามด้วยอาการสงสัย “น้องชายเธอถูกจับคดีมีย***าไว้ในครอบครอง” เธอเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเล็กๆ และเอนหลังพิงโซฟา “ฉันคิดว่าน้องชายเธอถูกยัดข้อหา” “ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน ฉันก็ยินดีช่วยเคลียร์ให้” “คุณหมายความว่ายังไงคะ” “ถ้าหนูยังจำข้อตกลงของเราได้ ฉันก็คงไม่ต้องทวนซ้ำ” เสี่ยชัชยิ้มที่มุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ คราวนี้หวังว่าคงได้ตัวเธอมาครอบครองเป็นแน่ มือของพลอยนภัสสั่นเทา ขณะที่เธอถือโทรศัพท์แนบอยู่กับหู ไม่น่าจะเป็นเพชรไปได้ น้องชายเธอไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มเด็กเกเร เขาเป็นเด็กดี ยังเด็กมากด้วยซ้ำ จนเกือบจะเรียกได้ว่าทึ่ม “ฉันเชื่อว่าเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนค่ะ..ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ” เธอพูดอย่างอ่อนแรง ยกมือขึ้นกอดอกเหมือนกับจะสู้กับความเยือกเย็นที่แล่นเข้ามาจับหัวใจ “หนูจะรู้ได้ยังไง เมื่อหนูไม่ได้อยู่กับเจ้าเพชรตลอดเวลา” “พวกตำรวจจับได้ว่าเขาโยนของกลางทิ้ง และวิ่งหนีจากที่เกิดเหตุ” “ไม่ใช่แน่ ๆ ค่ะ...เพชรไม่ทำแบบนั้น...” แล้วน้ำเสียงของเธอก็ขาดห้วง ขณะที่ภาพของเพชรน้องชายได้หวนกลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งนำของขวัญวันเกิดมาให้เธอ เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา หลังจากที่โรงเรียนเลิกแล้ว เธอยังมองเห็นกระดาษสีขาวกับโบว์ไหมสีสวย ที่ทิ้งไว้บนหัวเตียง “ฉันจะไปคุยกับตำรวจเจ้าของคดีเองค่ะ” พลอยนภัสกัดริมฝีปากล่าง “อันที่จริงโทษก็ไม่ได้หนัก เพราะเป็นเยาวชน ก็คงจะมีการลงโทษอย่างเบาที่สุด แต่เพชรจะต้องมีประวัติและเสียอนาคตแน่ ๆ ถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วยก็โทรบอกละกัน” “พลอย..ใครโทรมาอีก” เสียงถอนหายใจของพลอยนภัส ทำให้ปรเมศวร์อดห่วงไม่ได้ “มีเรื่องอะไรอีก บอกฉันมา..พลอย” หญิงสาวกลืนน้ำลาย เมื่อรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของเธอแทบจะเต้นออกมานอกอก เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่น้องชายเธอจะทำอย่างที่เสี่ยชัชว่ามาเลย “คุณเมศวร์คะ เพชรน้องชายฉันเขาถูกจับคดีครอบครองยาเสพติด...” “อะไรกัน ..เป็นไปได้ยังไง” “มันเป็นไปแล้ว และฉันก็ไม่อยากเชื่อเลย!” “เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปสถานีตำรวจนะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ” หญิงสาวยังคงส่ายหน้า มันไม่เป็นความจริง เธอไม่มีวันเชื่อจนกว่าจะได้พูดคุยกับน้องชายของเธอ “ฉันจะต้องไปพบเขาค่ะ พาฉันไปที่สถานีตำรวจด้วยนะคะคุณเมศวร์ กรุณาพาฉันไปเดี๋ยวนี้เลย” “เธอไม่ต้องกังวลไป เพราะถึงอย่างไรตำรวจจะต้องสอบปากคำของเขาก่อน” พลอยนภัสหลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความรู้สึกเจ็บปวด “คุณช่วยพาฉันไปหาน้องชายด้วยนะคะ คุณเมศวร์” “ฉันรู้ว่าเธออยากจะช่วยน้องชาย...แต่เธอต้องตั้งสติแล้วก็ใจเย็น ๆ วันนี้เธอเจอเรื่องปวดหัวพร้อมกันตั้งสองเรื่อง รับรองฉันจะช่วยเธอเอง” อีกครั้งที่ความเงียบเป็นคำตอบของอีกฝ่าย ความเงียบที่นานกว่าครั้งแรก หนักหน่วงกว่า จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงเขาถอนใจอีกครั้ง “คุณพักผ่อนก่อน ระยะทางยังอีกไกลกว่าจะถึง” เมื่อรถไปจอดที่หน้าโรงพัก เขายื่นมือมาให้เพื่อรับเธอลงจากรถ หญิงสาวไม่อยากรับแต่ก็ปฏิเสธเขาไม่ได้ เธอไม่อยากเสียเวลาต่อต้านเขาในตอนนี้ หญิงสาวอึกอักที่จะจับมือเขา รู้สึกถึงนิ้วของเขาที่สัมผัสมา “มือเธอเย็นเฉียบเลย” ปรเมศวร์พูด ขณะที่เธอก้าวไปยืนที่ริมทางเท้า “ฉันตื่นเต้นน่ะ” เธอสารภาพ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ตอนนี้มันเริ่มมืดแล้ว สีหน้าของเขาดุดัน “เธอคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพชรใช่ไหม” “ฉันแน่ใจว่าเพชรไม่ได้ทำ แต่ฉันกลัวแทนเขาค่ะ ถ้าหากตำรวจจะดำเนินคดีด้วยที่เขาต้องจำนนต่อหลักฐาน” หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันหวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้นจริงนะคะ” “แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้เราไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ทั้งสองมุ่งหน้าไปตรงทางเข้าสถานีตำรวจ ภายในโรงพัก ปรเมศวร์ได้รับความเคารพจากพนักงานในสถานีตำรวจทุกคน ตั้งแต่นายสิบที่นั่งโต๊ะเสมียนด้านหน้า ไปจนถึงสารวัตรทำความเคารพยิ้มแย้มต้อนรับปรเมศวร์กันเป็นแถว และหลังจากสิบนาทีในการต้อนรับอันอบอุ่นแล้ว สารวัตรกับปรเมศวร์ก็ปลีกตัวออกไปพูดคุยกันตามลำพัง ระหว่างนั้น พลอยนภัสรอคนทั้งคู่อย่างกระวนกระวาย ภาวนาให้ปรเมศวร์คุยกับสารวัตรเพื่อให้เธอเข้าไปพบน้องชายได้ตอนนี้ ในที่สุดปรเมศวร์ก็ออกมาเรียกเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD