แล้วฉันรักเธอได้หรือเปล่า

1240 Words
‘กำลังใจจากใครสักคนมันช่วยให้เรามีแรงเดินต่อไปจริงๆ นะ มันเป็นเหมือนโล่กำบัง ยามที่เราต้องเดินฝ่าคำดูถูก คำตำหนิ คำพูดแย่ๆ ที่ถาโถมเข้ามาใส่เรา ถึงมันจะเป็นแค่คำพูดที่จับต้องไม่ได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกจริงๆ นะ” -แอดมินสายลม-  2-3 วันมานี้ฉันไปออกกำลังกายทุกวันเลยนะ แต่ก็ไม่ลืมที่จะวอร์มร่างกายก่อนออกไปแล้วล่ะ เพราะถ้าไม่ทำกลับมาคุยกับสายลมเขาคงจะบ่นฉันจนหุชาแน่ ๆ แล้วเรื่องอาหารก็เหมือนกัน ฉันตัดสินใจเรียนรู้วิธีทำอาหารเอาเอง แล้วก็ทำกินเอง  ไม่อิ่มก็กินเยอะหน่อย อยู่ท้องได้นานเหมือนกัน ถ้าไปซื้อนะอาหารคลีนนี่แพงเป้นบ้า แถมได้น้อยอีกต่างหาก เขาใจเพื่อนร่วมโลกอ้วนเลยว่าทำไมถึงไม่อยากจะลด อุปสรรคมันเยอะเหลือเกิน “นี่สายลม วันนี้ฉันทำอาหารคลีนกินเองอีกแล้วนะ อร่อยขึ้นมากไม่เหมือนวันแรก ถ้าไมติดว่าเสียดายของล่ะก้ฉันเททิ้งไปตั้งแต่ตอนชิมแล้วแน่ ๆ แต่วันนี้ไม่ต้องห่วงเลยนะอร่อยมาก ฉันน่ะอยากให้นายลองชิมจัง” เวร!! ฉันดันเผลอพูดสิ่งที่คิดออกไปอย่างไม่ตั้งใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังชอบสายลมอยู่ยังไงก็ไม่รู้ แต่คนที่ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันหรือเปล่าแบบฉันกับเขา มันจะรักกันได้ยังไง อย่าใช้คำว่ารักกันสิแนไปแอบรักเขาข้างเดียวต่างหาก “อืมจริง ๆ ฉันก็อยากชิม ไม่รู้จะดีจริงอย่างที่เธอเคยพูดให้ฟังหรือเปล่า” ก็เพราะแบบนี้ไง อีตาสายลมก็ชอบมาพูดแบบนี้กับฉัน พูดให้ฉันคิดไปเอง ฉันน่ะรู้นะว่าเขาไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่แนก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้เหมือนกันนี่ “สายลม...” ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย อย่านะฝ้าย อย่าพูดออกไปเชียวนะ “ว่าไง” แง พอเขาตอบกลับมาใจมันเต้นตึกตัก ตึกตัก ปากสั่นงั่ก ๆ อยากกับกำลังหนาว ไม่นะฝ้าย อย่าพูดออกไปนะ “คือ....ที่ดาวนาย มีคนเป็นแฟนกันหรือเปล่า” ฮือ...ห้ามตัวเองไม่ได้เลย ทำไมฉันถึงได้เพ้อเจ้อขนาดนี้นะ “แฟน? หมายถึงคนที่เคมีเข้าคู่กันน่ะเหรอ?” อะไรนะ สายลมเข้าใจแบบเดียวกับที่ฉันเข้าใจไหมวะเนี่ย ฉันพูดถึงแฟน ถึงความรักน่ะ นายเข้าใจไปไหนของนายเนี่ย “เคมีเข้าคู่กัน?” ฉันทวนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด “ใช่” เขาเองก็ตอบอย่างไม่ลังเลเหมือนกัน อืม...เขาเข้าใจผิด หรือว่าไม่รู้จักคำว่าแฟนนะ “คือยังไง? ฉันไม่เข้าใจ” “คนที่...เอ่อ...พูดยังไงดี แบบว่า...ถ้าแต่งงานกันจะมีโอกาสมีลูกได้ ต้องเป็นคนที่เคมีเข้าคู่กัน ‘เออในที่สุดก็เจอความแตกต่างของดาวนายสายลม กับโลกสักที” “แล้วถ้าคนที่รักกันแต่เคมีไม่เข้าคู่กันล่ะ?” “ รัก? รักคืออะไร?” ห้ะ? นี่ไม่รู้จักคำว่ารักหรอกเหรอ? แต่เมื่อกี้ก็พูดถึงแต่งงานมีลูกไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมถึงได้ไม่เข้าใจคำว่ารักกันล่ะเนี่ย “ก็หมายถึงความรู้สึกของคนสองคน คล้ายๆ กับทฤษฎีเคมีเข้าคู่กันของนายไง” “ ไม่จำเป็นหรอก แค่เคมีเข้าคู่กันก็พอแล้ว” “ บนดาวของนาย ไม่มีคนรักกันเลยเหรอ จะมีคู่ทีนึงก็ต้องหาคนที่เคมีเข้าคู่ด้วยแบบนี้เหรอ “คนรักกัน ฉันไม่รู้สิว่ามันคืออะไรน่ะนะ แต่คิดว่าน่าจะ  ใช่” “ แล้วเขาจีบกันยังไง” “จีบเหรออืม...หมายถึงการทำความรู้จักกับเพศตรงข้ามน่ะเหรอ  ก็ถามรหัสเคมี ทุกคนจะรู้รหัสเคมีตัวเองเมื่ออายุพร้อมจะมีลูก” ดูเหมือนใช้สัญชาตญาณยังไงชอบกล “นี่ไง ก่อนจะเข้าไปถามเคมีก็ต้องมีความรู้สึกว่าชอบคนนี้ถึงได้ถาม” “ไม่นะปกติทำความรู้จักกับใครก็ต้องถามคู่เคมีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าเรารู้รหัสเคมีตัวเองแล้ว และแน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้หรือยัง แต่ก็อาจจะถามก่อนว่ารู้รหัสเคมีหรือยังเพื่อความแน่ใจ” ฟังดูแปลกๆ เนอะ ดีแล้วที่โลกเราไม่ต้องมีกฎบ้าบอคอแตกแบบนี้ “แล้วนายรู้รหัสเคมีตัวเองยัง?” “รู้นานแล้วล่ะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร” “นี่...นายอายุเท่าไหร่” เพราะเขาบอกว่า การรู้รหัสเคมีตัวเองน่าจะเป็นการบอกว่าพร้อมมีครอบครัว ฉันเลยเดาเอาว่านายนี่น่าจะโตแล้ว เผลอๆ อาจจะโตกว่าฉันอีก “ก็ 26 ปีบนไฮเรยามู” “เวลาที่นั่นเท่ากับโลกไหม” “ ยาวนานกว่า วันหนึ่งมี 30 ชั่วโมงของโลก กลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน” “แล้วถ้าตีเป็นเวลาบนดาวนายล่ะกี่ชั่วโมง แล้วชั่วโมงเท่ากันกับโลกไหม” “ กลางวัน 11 ชั่วโมง 1 ชั่วโมงเท่ากับ 1 ชั่วโมงครึ่งบนโลก พ่อบอกแบบนั้นนะ ในตำราก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน” “อ๋อ...แล้ว...นายเจอคู่เคมีตัวเองหรือยัง” เป็นคำถามที่ฉันแอบกลัวคำตอบอยู่นิดๆ เฮ้อรักครั้งแรก ดันแอบรักมนุษย์ต่างดาวน่ะเหรอ “ยัง ฉันไม่เคยถามใครน่ะ ก็บอกไปแล้วนี่ว่าไม่ได้สนใจ” เย้!! หู่ววว โล่งอกฉันตัวเกร็งไปหมด กว่านายสายลมจะตอบ “แล้ว...ตกลงไอ้ รัก ที่ว่ามันคืออะไร” ถามคนไม่เคยมีความรักเนี่ยนะ ไม่สิ ถามคนเพิ่งเคยมีความรักเนี่ยเหรอ “มันก็คือความรู้สึกดีดีที่เรามีให้กับใครสักคน” “ แล้วใครล่ะ” “มันก็ใครก็ได้ พ่อ แม่ เพื่อน หรือคนรัก แบบที่บนดาวของนายเรียกว่าคู่เคมีน่ะ” “คนรักคือคู่เคมีของเราเหรอ” “ อืม...ก็เปรียบได้กับคู่เคมีบนดาวนายน่ะ แต่เราไม่ได้รักกันมั่ว ๆ แบบนั้น มันซับซ้อนกว่านั้น” “ไม่ได้มั่วสักหน่อย แล้วที่ว่าซับซ้อน มันซับซ้อนยังไง” “โอ๊ย!!! มันอธิบายยาก ไปหางานวิจัยอ่านเอาเองเถอะ” ก็มันอธิบายยากจริงๆ นี่นา พูดเรื่องนี้เล่า 7 วันก็ไม่หมดหรอก’ “แล้วฉันรักเธอได้หรือเปล่า?” พอได้ยินคำถามนี้ ตาที่กำลังจะหลับลงก็เบิกกว่างทันที...ใครสั่งใครสอนให้ถามแบบนี้ หัวใจจะวายเอานะเว้ย “เอ่อ....” มันใช่คำถามที่ควรถามเหรอ คนก็ยิ่งหวั่นไหวอยู่แล้วด้วย ยิ่งมาทำให้หวั่นไหวมากเข้าไปอีกไอ้บ้าเอ๊ย “ เราเป็นเพื่อนกัน ก็รักกันแบบเพื่อน แบบนี้ได้ใช่ไหม? ฉันเขาใจถูกไหม” เฮ้อ...ทำไมไม่รวมมาในประโยคเดียว ไอ้บ้า!! ไอ้มนุษย์ต่างดาวบ้า!! มาทำให้ตกใจเล่นๆ ซะงั้น เราคุยกันต่อได้สักพัก ฉันก็เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว ถ้าฉันขอให้เราได้คุยกันแบบนี้ทุกวันตลอดไปเลย มันจะมากไปหรือเปล่านะ....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD