‘บางอย่างที่เรารู้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยเชื่อมั่นในมันเลย จนถึงวันหนึ่งมีใครบางคนหยิบมันขึ้นมาพูดอีกครั้ง เรากลับมีความรู้สึกว่ามันน่าเชื่อ และปลุกความเชื่อในตัวเราขึ้นมาว่า เราทำได้ การมีใครสักคนมันคือสิ่งที่เติมเต็มเราได้จริง ๆ’ -แอดมินสายลม-
ฉันเริ่มรู้สึกว่าบทความของฉันหลุดคอนเซปคนเหงามาหลายวันแล้ว ไม่รู้สึกความรู้สึกเหงามันจางลงไปมาก ตั้งแต่ที่มีสายลมเข้ามาในชีวิต ล่าสุดไอ้เรื่องลดความอ้วนพอได้คำแนะนำจากสายลม มันทำให้ฉันรู้สึกมีแรงผลักดันที่อยากจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองควรทำอะไร แต่มันเหมือนไม่มีความมั่นใจ ไม่มีความเชื่อว่าตัวเองจะทำได้ ไม่มีแรงศรัทธา และรู้สึกอายที่จะออกไปวิ่ง แต่พอได้คำยุยงจากสายลมมันทำให้ฉันรู้สึกว่า จริงๆ แล้วคนที่ฉันควรแคร์ที่สุดก็คือตัวเองทำไมต้องแคร์คนอื่นอยู่เรื่อย
“นี่ๆ ดูคนนั้นดิ” ระหว่างที่ฉันวิ่งมาสักพักแล้ว ก็เริ่มจะรู้สึกเหนื่อย เลยตัดสินใจชะลอการวิ่งลงมาเป็นเดินแทน แต่แล้วก็มีเสียงกระซิบกระซาบที่แม้มันจะเบา แต่ฉันก็ได้ยิน
“อื้อ ทำไม” ผู้หญิงอีกคนถามขึ้นพวกเธอสองคนกำลัง นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ม้านั่งริมทางวิ่งของฉัน
“อ้วนขนาดนั้น....” ถึงฉันจะไม่ได้ยินประโยคหลัง แต่ก็ได้ยินประโยคหน้าชัดเจน ฉันไม่สนใจอะไรแล้ว พอคนพูดถึงขึ้นมาแบบนั้น ความมั่นใจที่พกมาวิ่งก็หมดสิ้นลงทันที ฉันออกวิ่งและเร่งฝีเท้าวิ่งๆๆๆ วิ่งแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง วิ่งจนเหนื่อย แล้วก็วิ่งตรงกลับมาที่บ้านเลย
ยอมรับว่าเสียความมั่นใจมากที่โดนทักแบบนั้น ถึงจะไม่ได้ยินประโยคทั้งหมดแต่มันก็ทำให้ฉันเขวพาลไม่อยากจะไปวิ่งอีกเลย ผ่านไปกับการออกกำลังกายฉันเดิน ๆ วิ่ง ๆ กินเวลาไป เกือบชั่วโมงรวมที่เดินไปสวนสาธารณะและวิ่งกลับมาด้วย โอ๊ย...วันแรกปวดไปหมดทั้งตัว เหนื่อยจนอยากจะซดน้ำลำไยแก้วโต ๆ แต่ทำได้แค่หยิบเอาน้ำเปล่ามาดื่มแทน เพราะการออกกำลังกายมันเหนื่อยแบบนี้ไง คนอ้วนแบบฉันถึงไม่เคยคิดจะทำมันสักที
“ฝ้าย สลัดกับอกไก่นึ่งที่สั่งให้แม่ซื้อมา อยู่ในครัวนะ” วันนี้แม่กลับเร็วฉันเลยฝากท่านซื้ออาหารคลีน ๆ มากินกะว่ารอบนี้จะลดจริง ๆ แล้ว
“นึกยังไงอยากจะกินอาหารคลีน มันจะไม่อิ่มเอานะลูก” พอฉันยกอาหารที่แม่จัดใส่จานไว้ให้ออกมานั่งกินหน้าทีวี ก้มลงดูฉันว่ามันก็จริง จะอิ่มเหรอวะแบบนี้ น้อยก็น้อย แถมไม่อร่อยอีกต่างหาก แกนี่น้า ดันมีคู่แข่งเป้นข้าวขาหมูของแม่อีก ฉันจะทนเลือกแกไปได้กี่ชั่วโมงกันล่ะเนี่ย ขาหมูนั่นก็ของโปรดฉันซะด้วยสิ
“แต่ไม่เป็นไรนะ แม่ซื้อข้าวขาหมูมาเผื่อไว้ให้แล้วหิวก็อุ่นกินเอาแล้วกัน แม่ดูละครจบก็จะขึ้นไปเตรียมของให้นักเรียนแล้ว พรุ่งนี้มีกิจกรรม” เฮ้อ...มันก็ความหวังดีล่ะน้า แม่นี่เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ทำให้ฉันอ้วนเลยจริง ๆ ไม่ได้อยากจะโทษแม่หรอกนะแต่มันก็จริงไม่ใช่หรือไง
หลังจากกินอาหารคลีนอะไรนั่นหมดแล้ว ฉันก็มาเฝ้ารอโทรศัพท์จากสายลม ฉันไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงโทรช้านัก ไม่ใช่ว่าโทรมาไม่ได้แล้วหรอกนะ บ้าจริงมาทำให้ฉันติดมาทำให้ฉันลุกไปวิ่งจนเหนื่อย มาทำให้ฉันกินอาหารคลีนที่ไม่อร่อยนั่น แล้วจะมาทิ้งกันไปดื้อ ๆ ไม่ได้นะ ทำไมแันถึงได้คิดมากมายขนาดนี้ล่ะ แค่นายนั่นโทรมาผิดเวลาเอง หรือต่อให้ไม่โทรมาก็แล้วยังไงล่ะก่อนหน้านี้ไม่มีเขาทำไมอยู่มาได้ตั้งนาน โอ๊ยไม่เอาสิถ้ามีเขาแล้วมันดีก็อยากจะมีไปนาน ๆ ไม่ใช่หรือไงกัน สายลมนายโทรมาทักทีเถอะ ฉันจะเป้นบ้าอยู่แล้วนะ ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาลุกนั่ง ลุกยืน เดินไปแล้วก้เดินมา ตาก็จ้องอยู่ที่โทรศัพท์ ทำไมนะทำไม ทำไมเขายังไม่โทรมาอีก ไปเอาข้าวขาหมูมากินดีกว่า
ครืดดด ครืดดด
และในที่สุดโทรศัพท์ก็ดังขึ้นหน้าจอแสดงรหัสประหลาดแบบที่เคยมีทุกวัน ฉันแทบจะโยนจานขาหมูทิ้งแล้วรีบกดรับทันที
“ไง ออกกำลังกายดีไหม? “ นั่นคือประโยคแรกที่เขาพูดขึ้นมา ดีกับผีอะไรล่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย โดนนินทาอีกต่างหาก ยิงคำถามแรกมาก็ไปไม่เป็นเลย แต่จริงๆ จะว่าดีมันก็ดีฉันก็ทำตามที่อ่านมานะ วิ่งให้เหนื่อย
“อื้ม...กะ...ก็วิ่งจนเหนื่อยนะ”
“วอร์มร่างกายก่อนวิ่งหรือเปล่า?” ‘ตายละ!!! วะ...วอร์มร่างกายงั้นเหรอ นี่แหละที่ฉันพยายามคิดว่าฉันลืมอะไร ฉันลืมวอร์มร่างกายนี่เองบ้าจริงโว้ย
“ เอ่อ...คือว่า...”
“ ถ้าเธอไม่วอร์มมันจะทำให้เธอปวดเมื่อยนะ เพราะเส้นมันยังไม่ยืด”
“ ฉันละ....ลืมจริง ๆ นั่นแหละ”
“ฉันบอกเพราะหวังดีนะ” ‘คุณคิดยังไงกับคำพูดพวกนี้เหรอ? คนไม่เคยมีใคร ไม่เคยได้รับความสำคัญ ไม่เคยมีคนใส่ใจ พอได้ยินแบบนี้แล้วมัน...บอกไม่ถูกเหมือนกัน ความรู้สึกเหมือนตอนอ่านนิยายแล้วเจอประโยคที่มันฟิน ฉันได้แต่นอนตัวเกร็งอยู่บนเตียง ฟังนายสายลมบ่นเรื่องที่ฉันไม่วอร์มร่างกายก่อนไปวิ่ง
“แล้วอย่าอดข้าวเด็ดขาดเลยนะ ให้ค่อยๆ คุมอาหาร เพราะถ้าเราอดข้าวเราจะยิ่งหิวแล้วก็ยิ่งกินเยอะกว่าเดิม สุดท้ายที่ทำไปก็ไร้ประโยชน์”
“รู้แล้วน่า บ่นเก่งจังเลย” ถึงจะพูดแบบนั้นก็นะ แต่ฉันรู้สึกชอบจังเวลาที่โดนเขาบ่น มันเหมือนเขากำลังใส่ใจยังไงก็ไม่รู้
“ ฉันอยากช่วยเธอไง เธอชอบมาบอกฉันว่ามีแต่คนว่าเธอเรื่องอ้วน แต่อีกอย่างที่เธอจำเป็นต้องทำ คือฝึกเข้าสังคมนะ ฉันว่า....ส่วนหนึ่งที่เธอไม่มีเพื่อน เพราะเธอไม่เข้าหาใคร” เหอะพูดง่าย ๆ ทำยากจะตาย ใครจะอยากมาคบค้าสมาคมกับฉันล่ะ
“มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ ใครจะอยากยุ่งกับฉันล่ะ ฉันมันไม่มีอะไรดีเลย” ฉันพยายามอธิบายเรื่องนี้ให้สายลมฟัง พอ ๆ กับที่เขาพยายามจะเชียร์ให้ฉันเข้าหาคนอื่นก่อนนั่นแหละ
“ฟังนะ ถ้าเธอยืนอยู่ให้ถูกที่เธอก็จะมีคุณค่า มีตัวตน เลือกเขาหาคนที่ดูจะเข้ากับเธอได้ คนที่ความคิดไปในทางเดียวกัน....”
‘มนุษย์ต่างดาวหรือแอดมินเพจคำคมเนี่ย!!! แล้วก็นั่นแหละสายลมก็สาธยายยืดยาวจนฉันหลับ เหนื่อยด้วยวันนี้ ไว้คุยพรุ่งนี้เถอะนะ สายลมที่หวังดีของฉัน....