ฝันดีนะ

1300 Words
‘เรารักตัวเองได้ไม่ยาก แต่เราจะรักตัวเองขึ้นมาก หากเรากำลังรักใครสักคน’ -แอดมินสายลม- รู้สึกว่าบทความในเพจของฉันมันสั้นลงทุกที ๆ แถมยังดูไม่ใช่คนเหงา แต่เป้นคนมีความรักอีกต่างหาก อ๋อ...แล้วช่วงนี้น่ะ ฉันออกกำลังกายทุกวันเลย  โดยมีคำแนะนำจากโมเดล เรื่องอาหาร ก็ร็สึกว่ามีวินัยกับตัวเองมากขึ้น  บวกกับกำลังใจจากสายลมด้วย ตอนนี้สายลมเองก็กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เข้าไปทำงาน ในสถานีอวกาศ ฉันดีใจมาก ตื่นเต้นมาก ถึงแม้ว่าความหวังครั้งนี้มันแสนจะริบหรี่ แต่คนเราคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีความหวัง ต่อให้เป็นแค่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ฉันก็ไม่สนหรอกนะ “นี่ วันนี้ฉันไปลองชั่งน้ำหนักมาลดไปตั้งห้ากิโลแน่ะ” ใช่ ตั้งแต่ตั้งใจลดน้ำหนักมา ครั้งนี้ถือว่าเห็นผลมากที่สุด แต่ก็นะห้ากิโลไม่ได้ทำให้หุ่นฉันผอมลงเลย ยังอ้วนเหมือนเดิมแค่น้ำหนักมันลดก็เท่านั้นเอง “ดีใจด้วยนะ เห็นเธออยากผอมจัง” เหมือนเขาพูดประชดยังไงก็ไม่รู้แฮะ มันไม่ดีหรือไงกันนี่ฉันน้ำหนักลดนะยะ “บนโลกนี้นะ คนอ้วนมักจะเป็นตัวตลกสำหรับคนรอบข้างเสมอแหละ” เรื่องที่เขาไม่เข้าใจสักทีแต่ก็นะบนโลกที่เขาอยู่เหมือนจะน่าอยู่กว่านี้เยอะเลย ที่นั่นไม่มีคนอ้วน พอไม่มีคนอ้วนก็ไม่มีใครโดนบูลลี่เรื่องรูปร่างพอไม่มีการบูลลี่เขาก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนั้น พอไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเขาก็เลยไม่เข้าใจ ว่าทำไมฉันถึงได้อยากผอมนัก “หมายถึงมีคนชอบน่ะเหรอ” เขาคงแยกไม่ออกสินะว่าตลกกับเรื่องตลกที่ไม่เกี่ยวกับรูปร่าง กับตลกกับรูปร่างคนอื่น มันไม่เหมือนกัน “ไม่ใช่สิ เขาสนุกที่ได้ล้อเรา คนรอบข้างก็หัวเราะไปด้วย ส่วนคนที่ไม่สนุกน่ะ เราต่างหาก” ฉันก็พยายามจะอธิบายให้ถึงที่สุดล่ะนะ ก็ไม่ร็ว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า “ก็อย่าเก็บมาคิดมากสิ” “เฮ้อ...ทำง่ายแบบนั้นก็ดีสิ นายไม่เคยโดนใครล้อนายไม่เข้าใจหรอก” “เข้าใจสิ ฟังเสียงเธอดูแย่ขนาดนี้ มันต้องแย่มากแน่ ๆ เลยใช่ไหม” มันจะไม่หวั่นไหวยังไง การที่มีใครคนหนึ่ง ถึงจะไม่รู้ว่าใครก็เถอะ มาสนใจ เข้าใจเราขนาดนี้ ฉันเดินมานั่งที่ริมหน้าต่าง แหงนมองขึ้นไปบนฟ้าไกล จินตนาการถึงนายสายลมของฉัน เขาจะหน้าตาเป็นไงนะ ตัวสูงๆ ผิวขาว ๆ หรือตัวเตี้ยม่อต้อผิวเขียว ๆ ตากลมโต ๆ แบบในละคร “นี่...” ฉันไม่รู้เป็นอะไร เวลาสงสัยอะไรกับสายลมฉันมักจะกล้าถามไปแบบไม่ลังเลเลย “ว่าไง” “นายเคยเห็นมนุษย์หรือยัง” คำถามน่าขำของฉันถูกถามออกไปอย่างไม่คิด “เคยนะ ก็เคยเห็นในรูปที่พอเอากลับมา” “แล้วคนบนดาวพวกนายหน้าตาเหมือนมนุษย์เรามั้ยล่ะ?” “ ก็เคยบอกไปแล้วนี่ ว่าโลกเธอกับดาวที่ฉันอยู่เป็นเหมือนโลกคู่ขนาน ทุกอย่างเหมือนกันแทบจะ 100% ในที่นี้ก็รวมไปถึงลักษณะของพวกเราด้วย มีทุกอย่างแทบจะไม่ต่างจากมนุษย์เลย สิ่งหนึ่งที่พวกเราสนใจดาวโลก ก็เพราะว่าดาวโลกเป็นเหมือนดาวคู่แฝดของไฮเรยามู” “แล้วนายหน้าตาเป็นยังไงเหรอ” ฉันยังคงถามต่อไปเรื่อย ๆ “ถ้าฉันไม่ได้หล่ออย่างที่เธอหวัง เธอจะคุยกับฉันต่อไปหรือเปล่า” ทำไมถึง...มีความคิดแบบนั้นล่ะ หรือว่าคำถามของฉันมันน่าเกลียดไป หรือว่าน้ำเสียงฉันฟังดูคาดหวังกับรูปร่างหน้าตาของเขามากเกินไป ฉันตกใจกับคำถามอยู่นิดนึงนะ นั่นสิ...เขาไม่เคยถามฉันเรื่องนี้เลย แล้วทำไมฉันถึงได้...ถามไปแบบนั้นนะ “นี่ ที่ฉันคุยกับเธอไม่ใช่เพราะคิดว่าเธอหล่อหรืออะไรสักหน่อย แค่นายคุยกับฉันทุกวันชีวิตฉันก็มีความสุขมากแล้ว” “ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่ถาม เพราะถ้าวันนึงเกิดได้เจอกันจริง ๆ ก็ไม่อยากให้เธอผิดหวัง” ฉันน่ะเหรอจะผิดหวัง เขาต่างหากล่ะ ถ้าเกิดฉันลดความอ้วนไม่ได้ขึ้นมาจะกล้าไปเจอเขาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ “แล้วเธอเคยหวังมั้ยว่าฉัน....” “ฉันก็หวังแค่อยากเจอกับเธอเท่านั้น  ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นยังไง เพราะเธอบอกกับฉันทุกวัน ว่าเธอเป็นยังไง รูปร่าง หน้าตาแบบไหน จนฉันพอจะจินตนาการถึงหน้าเธอได้แล้ว” เชื่อไหมว่าตอนนี้ใจฉันน่ะเต้นแรงมาก เขาจินตนาการถึงฉันด้วยเหรอ...หรือว่าสายลมเองก็...รู้สึกเหมือนกันแบบเดียวกับที่ฉันรู้สึก ไม่ ๆ ๆ ปุยฝ้ายอย่าเพ้อเจ้อ ย่าคิดไปเอง แค่นี้ก็คิดเกินเลยไปมากพอแล้ว “ตอนนี้ฉันแค่หวังว่าเราจะได้เจอกันไหม แค่นั้นแหละ” “ฉันก็กำลังพยายามให้เราได้เจอกันนี่ไง” ฉันรู้สึกดีทุกครั้ง ที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ “งั้น ฉันจะพยายามลดความอ้วนนะ เวลาเจอกันนายจะได้เห็นว่าฉันก็พยายามเหมือนกัน ไม่ได้มีแต่นายที่พยายามอยู่ฝ่ายเดียว” “ เธอทำไปเถอะ ไม่ต้องพยายามอะไรหรอก ฉันแค่อยากเจอเธอ ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าจะอ้วนหรือผอม แต่ถ้าเธออยากเอาชนะคนอื่น อยากผอมเพราะเป็นความตั้งใจของเธอ ก็เอาใจช่วยเธอนะ” “ งั้นเธอก็พยายามอยู่ฝ่ายเดียวสิ” “ ก็ฉันอยากเจอเธอนี่ ที่พยายามก็เพื่อตัวเอง แต่ถ้าเธออยากเจอฉันเหมือนกัน ก็ถือว่าพยายามเพื่อเธอด้วยก็แล้วกัน” ไม่รู้สิคำพูดมันฟังดูธรรมดานะ แต่พอมันมาจากคนที่เรายกให้เป็นคนพิเศษ มันเลยกลายเป็นคำพูดที่มีความพิเศษไปเฉยเลย “ที่โลกคงดึกมากแล้ว เธอนอนเถอะ ต้องตื่นเช้าไปวิ่งนี่” “อื้อ...แล้วนายล่ะ” เฮ้อช่วงเวลาที่ฉันไม่ชอบมาถึงแล้วล่ะ ฉันไม่อยากวางสายจากเขาเลย “ฉันก็คงจะอ่านงานวิจัยต่อสักพัก” “อื้อ นายเองก็อย่านอนดึกล่ะ” “อื้อ ฝันดีนะ” ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง อีตามนุษย์ต่างดาวที่ไม่รู้จักคำว่าฝันดี กลับมาบอกฝันดีฉันเนี่ยนะ “นี่นาย....รู้จักคำว่าฝันดีแล้วเหรอ” “ก็เธอบอกเองนี่ว่ามันเอาไว้บอกคนที่กำลังจะนอนิอีกอย่างมันก็ดูจะมีความหมายกับเธอด้วยล่ะนะ” ความจำดีแฮะ แถมยังใส่ใจอีกด้วย “อะ...อื้ม นายก็ฝันดีนะ” “อื้อ...เอ้อแล้ว...ที่เธอเคยบอกเรื่องรัก ความรักความรู้สึกอะไรนั่นน่ะ จำได้ใช่ไหม” “จะ...จำได้สิ ทำไมเหรอ” “ ตอนนี้ฉันรู้แล้วนะ ว่ามันคืออะไร” ฉันไม่ทันได้พูดอะไรต่อ สายมันก็ตัดไปก่อน ไอ้บ้า!!! คนจะนอนอยู่แล้วแท้ๆ มาทิ้งท้ายแบบนี้จะได้หลับตอนไหนล่ะ คงได้นอนดิ้นไปดิ้นมามโนหามนุษย์ต่างดาวจนฟ้าสางโน่นแหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD