ยามที่เสี่ยวโซ่วทอผ้าได้งดงามเป็นผืนแรก นางทอผืนผ้าสีครามมีลวดลายเมฆขาวขึ้นมา แตกต่างจากผืนอื่นๆที่พอเป็นได้เพียงแค่ซับในอยู่ภายใน ยามนางทอผ้าได้งดงามนางยืนบิดกายเขินอายอยู่นาน จนร่างหนาต้องเอี้ยวกายไปบิดข้อมือของนางเอามาดูชม ยามพบว่างดงามดีแล้ว ใบหน้าคมก็หอมแก้มนางและให้กำลังใจนางทันที
“ผืนผ้างดงามแล้วเหตุใดจึงต้องเขินอายอยู่อีก มิใช่ว่าตลอดมานั้น ผืนผ้าที่มิงดงามของเจ้า เปิ่นหวางก็สวมติดกายทั้งหมดหรือ หืม สาวน้อยคนเก่งของเปิ่นหวาง”
เสี่ยวโซ่วหน้าร้อนจนแทบระเบิด นางกำลังจะหันหลังหนี ร่างหนาก็คว้ามือบางไว้ดึงลงในตักของตนเองทันที วงแขนแกร่งรัดนางแน่นและโบกมือให้ผู้คนล่าถอยออกไปสิ้น ยามผู้คนจากไปแล้วปากร้อนๆก็บดขยี้จุมพิตลงมา ดูดกลืนลิ้นน้อยๆเข้าไปจนสิ้น ร่างบางหอบหายใจถี่ ใจของนางเต้นจนจะออกมานอกอกแล้ว นางจึงเร่งผลักไสกายร้อนลวกออก แต่ทว่าวงแขนแกร่งรัดนางจนแน่น และทำดวงตาฉ่ำปรือขึ้นมาพลัน หอมแก้มนางอีกครั้งจนนางหลับตาหนีและกระซิบเบาๆข้างๆใบหูขาวๆนั้น
“เจ้าทอผ้างดงามเช่นนี้แล้ว ก็ถักทอชุดเจ้าสาวของตนเองเถิดเสี่ยวโซ่ว ไต่ถามท่านป้าเหยียนเสียว่าควรทำเช่นใด รอเจ้าทอผ้าจบสิ้นแล้ว ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นหวางเฟยของวังเป่ยหยุนไปเสีย เร่งรีบหน่อยเถิดนะคนเก่งของเปิ่นหวาง”
เสี่ยวโซ่วใบหน้าแดงและก้มหน้าซุกลงในอกแกร่งทันที นางกอดรัดกายอุ่นร้อนจนแน่น และเงยหน้าขึ้นมาจุมพิตคนที่นางรักอีกครั้ง และขยับกายยุกยิกขึ้นมาพลัน กายแกร่งจึงแข็งขึงขึ้นมา มือหนาจึงดันใบหน้านางเงยขึ้นมารองรับปลายลิ้นร้อนๆ นิ้วแกร่งล้วงลงที่กลางร่างสาวชอนไชปลายนิ้วเข้าออกจนร่างบางดิ้นเร่า ดึ้งทึ้งชายเสื้อของบุรุษจนแน่น เนินเนื้อนุ่มๆแอ่นขึ้นสู้นิ้วมือหยาบระคายมิหยุดยั้ง ร่างหนาครางระงมขบกัดซอกคอขาวและทึ้งผืนผ้าของนางออกไป ยกนางขึ้นและจรดดันปลายหัวเบ่งบานจุ่มจมในกลีบเนื้อรัดแน่นช้าๆ และยกต้นขาของนางควบขย่มลงมาถี่ๆ ร่างสาวบีบรัดหัวมังกรของบุรุษจนแน่นหนึบ จนร่างหนาขยับสะโพกเด้งขึ้นมาถี่กระชั้น เก้าอี้ไม้เกิดเสียงดังลั่น ร่างหนาจึงหยัดยืนขึ้น และยกนางควบขย่มแก่นกายตนเองถี่ๆ
“ซี้ด อรื้อ อรื้อ อรื้อ”
ร่างบางพยายามกลั้นเสียงร้องจนใจแทบขาด นางกำลังจะคลั่งตายแล้ว ยิ่งกายนางบีบรัดจนแน่นกายของบุรุษก็ใหญ่โตขึ้นมา แข็งขึงยืดยาวกดแทรกดันลึกจนกลีบเนื้อของนางปริแตก ร่างสาวรั้งจับต้นแขนแกร่งทั้งสองมือ สะโพกของนางกระเด้งกระดอนขึ้นลง ตามแรงกระแทกกระทั้นของท่อนเนื้อร้อนๆ เสี่ยวโซ่วน้ำตาริน จุกแน่นเสียวซ่านจนจะขาดใจตายลงแล้ว
“ซี้ด หวงต้าเกอ มิไหวแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม ข้ารู้ ข้ารู้แล้วแต่กายของเจ้ามิได้บอกข้าเช่นนั้น มันรัดแน่นกัดกลืนแก่นกายของข้าจนแทบขาด อูย เสี่ยวโซ่ว คนเก่ง เจ้าควบคุมตนเองให้ควบขี่เปิ่นหวางได้หรือไม่ เปิ่นหวางถึงสวรรค์ยามใด ยามนั้นก็จะมิรังแกแล้วนะคนดี อูย”
เอ่ยไปก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนุ่มและพลิกร่างนางหันกลับมาโดยมิถอดถอนเรือนกายออก ร่องเนื้อนุ่มหนึบถูกบดคว้านลึกจนแลบลิ้นดิ้นเร่า หลังแอ่นกายกระตุกถี่ๆน้ำแตกพร่าในทันที ร่างหนาหลับตาลงข้างหนึ่งเพราะความเสียวซ่านจากกายของนาง และยกนางออกจากแก่นกายตน ก่อนจะยกวงแขนขาวกอดรัดลำคอแกร่ง และแลบปลายลิ้นของตนเองเลียริมฝีปากที่แห้งผากเบาๆ
“คนดีควบขี่เปิ่นหวางเสียซิ เจ้าดูซิมังกรยักษ์ตัวนี้มันใหญ่โตเพราะกายเจ้ารังแกมัน เจ้าต้องรับผิดชอบเปิ่นหวางแล้วคนเก่ง”
เสี่ยวโซ่วที่พึ่งถึงสวรรค์ดวงตาพร่ามัว นางกอดรัดบุรุษและซบหน้าลงไปน้อยๆ ก่อนจะถูกยกแยกเรียวขาขาวๆกางออก มือหนากุมสะโพกนุ่มๆและดุนดันปลายหัวเบ่งบานขนาดใหญ่ จรดถูไถเร่งเร้านางช้าๆ ร่างบางสั่นน้อยๆและเกร็งกายกัดฟันกดกลีบเนื้อสาว กระแทกดูดกลืนหัวมังกรเบ่งบานลงไปจนสิ้น ร่างสาวสะดุ้งเฮือก กรีดร้องลั่นในทันที
“อิ๊ หัวของมันบานเหลือเกิน อรึ้ย อรึ้ย มิไหวแล้วเพคะ อร้าย กรี้ด แอร๊ย”
ร่างน้อยๆส่ายสะบัดพยายามยกเรือนกายนุ่มๆถอยหนีสูงขึ้นไป แต่ทว่ามือหนารั้งเอวนางจนแน่น เกร็งสะโพกและเด้งสะโพกขึ้นดันท่อนเนื้อลำโต แทรกลึกในร่องนุ่มหนึบถี่ระรัว ร่างสาวเกร็งจนนิ่งค้างในอากาศ นางถ่างขาออกจนสิ้นเกร็งกายบีบรัดจนน้ำหวานแตกพร่าสาดกระเซ็น
“แอร๊ย อรึ้ย อูย ใหญ่ยาวเหลือเกิน แข็งเหมือนหินเลย แอร๊ย อรึ้ย”
ได้ยินเสียงหวานชื่นชมแก่นกายของตนเองเช่นนั้น บุรุษเร่งกระแทกกระทั้นเรือนกาย และเด้งสะโพกส่งท่อนลำร้อนๆสู่กายนุ่มหนึบถี่ๆ เสี่ยวโซ่วดิ้นเร่าแลบลิ้นจนน้ำลายยืดหยด เสียวซ่านจนกายกระตุกแอ่นโค้งไปทั้งกาย วงแขนแกร่งจึงกอดรัดนางแน่นและขบกัดยอดอกคู่งามน้อยๆ ตวัดปลายลิ้นป่ายปัดยอดอกสีหวานถี่ระรัว
“อรื้อ แอร๊ย อย่าดื่มนมข้านะ อร้าย ข้ามิมีนมให้ท่านดื่ม อรึ้ย อรื้อ”
ใบหน้าคมส่งสายตาดุใส่นางดวงตาแดงฉาน ที่นางบังอาจส่งเสียงต่อต้านอย่างไร้เดียงสาจนน่าตี ปากร้อนๆอ้าออกดูดยอดออกนางจนจมลึกลงในปากตน และดึงรัดนางจับขย่มแก่นกายตนเองถี่ระรัว ร่างสาวน้ำแตกพร่าดิ้นเร่ารุนแรงขึ้นหวีดร้องลั่นจนออกไปนอกห้องอักษร ทำเอาทหารนั้นหน้าแดงเร่งหนีหายไปกันจนสิ้น
“อรึ้ย แอร๊ย มิไหวแล้วเพคะ อิ๊ก อย่าดูดนมข้านะ อย่า แอร๊ย”
ร่างหนาครางกระหึ่มในลำคอ ยกนางขึ้นพลิกกายหมุนกลับไปเกาะพนักเก้าอี้ และดึงสะโพกนุ่มแอ่นขึ้นมาและกระแทกแก่นกายดันพรวด ร่างหนายกเท้ายันเก้าอี้ไว้ข้างหนึ่งและจับเอวบางควบขย่มจนดิ้นเร่าหวีดร้องลั่น มินานก็ถึงสวรรค์ปล่อยปล่อยน้ำอุ้นร้อน พุ่งทะลักรุนแรงฉีดพ่นมิหยุดพักจนร่างสาวสะดุ้งเฮือก น้ำแตกพร่าอีกคราในทันใด
“อรื้อ อรึ้ย อร้า มิไหวแล้วเจ้าค่ะ อร้า”
ร่างหนากระแทกกระทั้นรีดเร้นกำหนัดจนหมดสิ้น ยามคายพิษจนพอใจแล้วก็สาวท่อนเนื้อออกช้าๆ สูดปากร้องครางลั่นขึ้นมา
“โอย เจ้าตัวร้าย เปิ่นหวางขาสั่นไปหมดแล้ว อา”
เสี่ยวโซ่วฟังจบเท่านั้นนางก็ทรุดฮวบสลบไปในทันที ร่างหนาเหลือบตามองนางน้อยๆ และยิ้มเยาะนางเบาๆ อุ้มนางห่อไปในเสื้อคลุมตัวโตของตนเอง และสวมเพียงกางเกงผืนบาง พานางข้ามออกไปนอกห้องอักษร พาไปชำระกายในทันที ทหารหนุ่มมองตามมาก็พบกับสายตาดุดันแวววาวดังงูพิษ ก็เร่งหันหลังไปในทันที มิต้องดูก็รู้ว่าทรงหวงนางมากเพียงใด