ตอนที่11 แรกพบ

1139 Words
วันส่งตัวเข้าวังเพื่อคัดนางใน …. ผู้คัดตัวนางในหลายสิบคนลงจากเกี้ยวที่หน้าประตูวัง จินเฉิงอู่เข้ามาในวังแต่เช้าตรู่เช่นกัน ข้างๆกันนั้นเกี้ยวของเจิ้งเหมยหยุดก่อนถึงประตูวังตามธรรมเนียม ร่างเล็กบอบบางก้าวลงจากเกี้ยวด้วยสายตาหวาดหวั่น หันมาร่ำลากับสาวใช้ที่มาส่งหันกลับมาอีกทีชนเข้ากับร่างใหญ่ของจินเฉิงอู่เข้าอย่างจัง รวบร่างบางไว้ในอ้อมแขนสบตากลมที่มีแววเศร้าสร้อยภายใน นิ่งนานบางอย่างบอกเขาว่า นางช่างมีใบหน้างดงามนัก เสียดายคงจะไม่รอดพ้นสายตาของฝ่าบาทถูกคัดไปเป็นสนมของฝ่าบาทอย่าแน่นอน "ขออภัยใต้เท้า" หลบตาคมที่ส่งสายตาพึงพอใจในใบหน้างดงามยามเขินอายยิ่งน่ามอง จินเฉิงอู่เผลออมยิ้ม เจิ้งเหมยเดินหลบเข้าไปในวังปล่อยเขายืนเก้ออยู่ตรงนั้น เจิ้งเหมยหลบตาคมที่มองมาอย่างคาดคั้น "ท่านอ๋องโปรดไตร่ตรอง เราสองคนแต่เดิมไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหตุใดเจิ้งเหมยต้องอยากมาอยู่จวนอ๋องหากไม่ใช่บัญชาของฝ่าบาท" "เราสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จริงอย่างที่เจ้าพูดเช่นนั้นวันนี้ข้าจะถือว่าข้าไม่ใช่อ๋อง เป็นเพียงบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้น"จูบรุนแรงป่าเถื่อน เจิ้งเหมยดิ้นรนแต่กลับถูกกอดรัดมือกำแน่นทุบลงบนอกกว้างมือใหญ่กำมือที่ทุบอกเขาไว้ด้วยมือแข็งแรงเพียงข้างเดียว เพียงครู่เดียวกลับกลายเป็นจูบที่อ่อนหวานปานน้ำผึ้งเจิ้งเหมยคลายมือออก จิ้นเฉิ้งอู๋จ้องตาสวยของเจิ้งเหมย บางอย่างในสายตาทำเอาจิ้งเหมยรีบหลับตาไม่อยากมอง ถอนริมฝีปากออกช้าช้า แต่เหมือนไม่อาจหักห้ามใจกดปิดริมฝีปากอีกครั้งอย่างอ่อนโยนเจิ้งเหมยขยับตัวหนี แต่ถูกตรึงไว้ด้วยอ้อมกอด "สิ่งที่บุรุษทั่วไปไม่อาจปฏิเสธ ข้าก็ไม่อาจปฏิเสธ" ดึงร่างบางมากอดนิ่งเนิ่นนานไม่มีคำพูดใดใดหลุดออกมา เจิ้งเหมยเองก็ไม่อาจต่อกรปล่อยให้เขาทำตามใจ จินเฉิงอู่ตบสีข้างม้าให้พุ่งทะยานไปสู่จุดหมาย แต่มืออุ่นยังไม่ยอมปล่อยเอวบางที่ดึงรั้งให้แนบกับตัวเขา ….จวนอ๋อง…. จินเฉิงอู่กระโดดลงจากหลังม้า เดินเข้าไปในจวนทันทีไม่แม้แต่จะหันมามองเจิ้งเหมย คังซื่อฮั่นส่งมือให้เจิ้งเหมยรับตัวเจิ้งเหมยลงมา "ท่านอ๋องใจร้ายกับเจ้าหรือไม่" แววตาวิตกกังวล เจิ้งเหมยส่ายหน้า รสจูบหวาบหวามยังติดอยู่ที่ริมฝีปากบางยกมือขึ้นลูบริมฝีปากอย่างลืมตัว "ปกติท่านอ๋องเป็นคนที่ค่อนข้างห้าวหาญในแบบนักรบ จึงไม่มีความอ่อนหวานเท่าที่ควร กับพระชายาก็เหมือนจะมีท่าทีเฉยชา แต่ภายในใจของท่านอ๋องไม่มีใครหยั่งรู้ได้ กับเจ้าแม้จะมองว่าไม่ได้สนใจอะไรแต่ลึกๆ ข้าคิดว่าท่านอ๋อง ไม่ได้เกลียดเจ้าอย่างที่แสดงออก" เจิ้งเหมยก้มหน้ามองพื้น คังซื่อฮั่นยิ้มถอนหายใจยาวๆ "จริงสิวันนี้ ข้าไปที่ตลาดซื้อผลซานซาเชื่อมมาฝากเจ้า" เจิ้งเหมยคิดถึงผลซานซาเชื่อมเมื่อเช้าบนเกี้ยว ที่เยอะจนกินไม่หมด แต่ก็รับมาด้วยความเกรงใจคังซื่อฮั่น "ท่านอ๋อง โยวเสวียนรอทานกลางวันพร้อมกัน" จินเฉิงอู่เลิกคิ้วมองโยวเสวียน "ข้าเรียบร้อยมาจากในวังแล้ว ความจริงหวางเฟยไม่ต้องรอเพราะรู้อยู่แล้วว่า ข้าจะกลับก็มืดค่ำ" "เห็นเกี้ยวแต่ไม่เห็นตัว โยวเสวียนก็รู้แล้วว่าฝ่าบาททรงรั้งตัวท่านอ๋องหารือเรื่องราวในราชสำนัก จึงคิดว่าท่านอ๋องกรำงานหนักเช่นนี้เพื่อแว่นแคว้น"ซบศีรษะลงบนแขนใหญ่ จินเฉิงอู่ถอนหายใจ "ขอบใจเจ้าหวางเฟย ข้าพาเจ้าทานกลางวันที่ศาลาริมน้ำเป็นการตอบแทน" ศาลาริมน้ำร่มรื่น ปลาหลากหลายสีสันว่ายวนชวนมอง จินเฉิงอู่นั่งบนพื้นศาลาอาหารมากมายบนโต๊ะ โยวเสวียนใช้ตะเกียบคีบอาหารวางบนถ้วยให้จินเฉิงอู่อย่างเอาใจ เจิ้งเหมย ถือถาดของหวานมาเสิร์ฟ ชะงักฝีเท้าแต่สักพักก็ก้าวเข้ามาในศาลาย่อตัว ยกของหวานวางตรงหน้าจินเฉิงอู่ที่ไม่แม้จะเหลือบตามอง โยวเสวียนยิ้ม "รออยู่ที่นี่ก่อน อาจมีสิ่งใดต้องใช้เจ้า" ยกชามของหวานตักกินสังเกตท่าทีของทั้งจินเฉิงอู่และเจิ้งเหมย "ท่านอ๋อง ท่านพ่อต้องการหารือเรื่องกองทัพของท่านอ๋องที่ฝ่าบาททรงโปรดให้ลดทอนกำลังพล" "ขอบใจเจ้าโยวเสวียน เจ้าส่งข่าวบอกใต้เท้าตู้ว่าข้านัดหารือที่จวนอ๋องในอีกสองวันข้างหน้า” เจิ้งเหมยไม่ได้ใส่ใจอะไร โยวเสวียนยิ้มเหลือบตามองเจิ้งเหมยที่ยังยืนนิ่ง “ข้ามี งานต้องเร่งสะสาง หวางเฟยอยู่ที่นี่กินเสียให้อิ่มข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้เท่านี้” ลุกเดินจากมา โยวเสวียนมองตามแต่ก็ไม่ได้รั้งจินเฉิงอู่ไว้ “ข้าอยากให้อาหารปลาเสียหน่อยพวกมันว่ายวนเวียนขออาหาร” เจิ้งเหมยไม่รอช้ารีบหยิบอาหารปลาให้โยวเสวียน ถอยออกมาห่างๆโยวเสวียนนั่งลงที่บันไดศาลา โยนอาหารให้ปลาและลูบคลำตัวพวกมันสักพักก็ลุกขึ้นยืน แต่เสียหลักหล่นลงไปในน้ำเสียงดังสนั่น เจิ้งเหมยตกใจอย่างมากรีบวิ่งมาที่บันได “พระชายาส่งมือมาเจิ้งเหมยช่วยท่าน” ไม่ยอมยื่นมือให้เจิ้งเหมย “ช่วยด้วย” กลับร้องขอความช่วยเหลือดิ้นรนจนในที่สุดก็ออกห่างบันไดไปเรื่อยๆ “ช่วยด้วยพระชายาตกน้ำ” เจิ้งเหมยตะโกนให้คนช่วย แล้วก็กระโดดลงไปเมื่อเห็นว่า โยวเสวียนจมน้ำหายไป น้ำเย็นเฉียบเจิ้งเหมยลืมไปด้วยซ้ำว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นในที่สุดก็จมลงสู่พื้นน้ำเสียงกระโดดน้ำและเสียงผู้คนพูดคุยกันข้างบน ในน้ำก่อนหมดสติ ดวงตาพร่าเลือนจมดิ่งลงสู่ผิวน้ำ เมื่อนานชั่วกัปชั่วกัลป์จินเฉิงอู่เอื้อมมือมาฉุดมือบาง ริมฝีปากใหญ่ประกบลงบนปากของเจิ้งเหมยส่งต่อลมหายใจร้อนผะผ่าวดวงตา คมจ้องมองอย่างห่วงใย เจิ้งเหมยสบตาคมนิ่งก่อนจะหมดสติไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD