ดิ้นรนแต่ไม่หลุดออกจากอ้อมแขนที่กอดรัดเหมือนกับอสรพิษรัดเหยื่อ
สันจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ข้างแก้ม
ร่างเปลือยเปล่าหยดน้ำเกาะพราว อกแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้าม
"ที่แห่งนี้ ห้ามให้สาวใช้ในจวนเข้ามา ไม่มีใครบอกเจ้า หรือว่าเจ้าจงใจเข้ามา"
"ท่านอ๋องโปรดอภัย"
มือเล็กพยายามแกะมืออุ่นที่รัดรอบเอวอยู่แต่ยิ่งแกะยิ่งเหมือนกับถูกกอดรัดจนแน่น ยื้อยุดกับอยู่อย่างนั้น คางใหญ่กดลงบนไหล่บางปล่อยให้จมูกคมเป็นสันดอมดมกลิ่นหอมจากซอกคอขาว
"ได้โปรดปล่อยข้าน้อย... ไปด้วยเถิด"
ร้อนๆหนาวๆเมื่อสัมผัสถึงร่างเปลือยไร้อาภรณ์ที่แช่อยู่ในน้ำอุ่นแล้วยังจะถูกกอดรัดแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
"ปล่อยเจ้า จะไม่ขี้ขลาดไปหน่อยหรือ เพียงแค่เจ้าพูดเพียงแค่นี้ข้าต้องปล่อยเชียวหรือ"
"ได้โปรด"
มือยังแกะมือใหญ่ออกอย่างนั้นด้วยความตื่นตระหนก จินเฉิงอู่พลิกร่างบางเปียกปอนให้หันหน้ามาสบตา ดวงตาใสซื่ออ่อนหวานยามนี้กลับตื่นตระหนกหวาดกลัว ริมฝีปากสีชมพูหยักได้รูป ก้มหน้ามองอกเปลือยไม่กล้าสบตา จิงเฉิงอู่เผลอขบเม้มริมฝีปากตัวเองโน้มตัวต่ำลงเรื่อยๆ หยุดนิ่งมองริมฝีปากบางน่าลิ้มรสอย่างแสนเสียดาย หันหลังปล่อยร่างบางก้าวขึ้นจากน้ำตวัดเสื้อคลุมคลุมร่างเปลือย ที่งดงามราวรูปปั้นของนักรบหนุ่ม แล้วฉุดดึงร่างบางขึ้นมาข้างบน โยนผ้าแห้งจงใจให้โดนใบหน้า
"เจ้าไปเสีย"
หันหลังให้ดึงสายรัดรัดเสื้อคลุม เจิ้งเหมยวิ่งออกจากตรงนั้นไปทันที
จินเฉิงอู่ก้มลงเก็บขวดยาสมานแผลขวดเล็ก จำได้ดีว่าเขาเคยให้คังซื่อฮั่นนำไปให้เจิ้งเหมย
หย่อนขวดยาเก็บไว้ในอกเสื้อ
ไม่นานต่อจากนั้น
"เจิ้งเหมย ข้าประเมินเจ้าสูงเกินไปคิดว่าพูดกับเจ้าแล้ว จะเชื่อฟังคำพูดข้า"
โยวเสวียน เรียกเจิ้งเหมยมาด้วยเรื่องที่เจิ้งเหมยเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน
"พระชายาโปรดอภัย เจิ้งเหมยจงใจเดินหลบไม่อยากผ่านห้องของท่านอ๋อง"
โยวเสวียนยิ้ม เจิ้งเหมยตั้งใจพูดความจริงซึ่งเป็นความจริงที่โยวเสวียนพอใจยิ่ง
"ดี เช่นนั้นจงจำไว้ตั้งแต่วันนี้ในจวนอ๋องห้ามีหลายที่ที่ห้ามสาวใช้เข้าไปเพ่นพ่าน ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้ตั้งใจทำผิด ย่าหนานต่อไปเป็นเจ้าที่ต้องคอยดูแลนาง นางมาจากตระกูลใหญ่อาจไม่คุ้นเคยกับกฏระเบียบในแบบสาวใช้ หากคราวหน้านางทำผิดเจ้าต้องรับโทษแทนนางสองในสามส่วน"
ย่าหนานดึงมือเจิ้งเหมยให้ย่อกายน้อมรับคำสั่ง
"คุกเข่าห้าชั่วยาม เย็นนี้ห้ามใครนำอาหารมาให้นาง หากท่านอ๋องรู้ว่าข้าสั่งลงโทษเพียงแค่นี้อาจจะเพิ่มโทษแก่นาง ฉะนั้นห้ามใครแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป"
เจิ้งเหมยคุกเข่าลงบนพื้นก้มหน้านิ่ง โยวเสวียนจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยัน
ย่าหนานคุกเข่าลงข้างๆ
"เจ้าทำอะไรย่าหนาน"
ยิ้มจริงใจ
"ข้าผิดแต่แรก รู้ทั้งรู้ว่าบ่อน้ำพุร้อนห้ามสาวใช้เข้าออกแต่ข้ากลับลืมเตือนเจ้าเสียสนิท เช่นนั้นให้ข้าคุกเข่าเป็นเพื่อนเจ้า"
จินเฉิงอู่นั่งมองขวดยาที่วางไว้บนโต๊ะ มีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ นางไม่ได้ใช้ยาสมานแผลที่เขาให้และยังพกมันติดตัว โยวเสวียนเข้ามาในห้อง เหลือบตามองขวดยาบนโต๊ะจินเฉิงอู่เปิดหีบเล็กเก็บมันไว้ในนั้น
"ท่านอ๋อง อีกไม่กี่วันไทฮองไทเฮา จะกลับจากถือศีลบำเพ็ญเพียรครั้งนี้คงมาอยู่ที่จวนอ๋องของท่านอ๋องเหมือนเคย ท่านอ๋องต้องการให้โยวเสวียนเตรียมการต้อนรับหรือไม่"
"ลำบากเจ้าแล้วหวางเฟย สองสามวันมานี้สุขภาพของเจ้าไม่สู้ดี อย่าได้ลำบากอีกเลย เสด็จย่าใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอด แม้ฝ่าบาทต้องการให้อยู่ในวังหลวงเสด็จย่ายังขอมาใช้ชีวิตในจวนอ๋อง ครั้งนี้ข้าซาบซึ้งที่เจ้าตั้งใจจะเตรียมการต้อนรับแต่เกรงว่า เจ้าจะเหนื่อยเกินไป"
"ท่านอ๋อง ดีกับโยวเสวียนถึงเพียงนี้มีหลายอย่างที่ทำเพื่อท่านอ๋องได้ แม้จะเหนื่อยเพียงใดก็ตาม"
จินเฉิงอู่จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ โยวเสวียนซบหน้าลงบนอกกว้าง
เจิ้งเหมยกับย่าหนาน คุกเข่าอยู่ถึงสามชั่วยามแล้ว
"หิวหรือยังย่าหนาน"
ย่าหนานพยักหน้าท่าทีอิดโรยแม้แต่เสียงจะพูดยังไม่มี
"หิวก็ไปกิน พระชายาห้ามข้าไม่ให้กินแต่เจ้าไม่จำเป็นต้องอด"
"เจ้าไม่หิวหรือไรเจิ้งเหมย"
"ไม่ ข้าอยู่ที่บ้านมักจะถูกฮูหยินใหญ่ลงโทษให้อดข้าวเย็นบ่อยๆ ข้าทนได้ดีกว่าเจ้า"
"อย่างนั้นข้าไปกินก่อนเจ้าอย่าโกรธข้านะ”
เจิ้งเหมยยิ้ม ย่าหนานรีบลุกออกไปทันที
เจิ้งเหมยแหงนหน้ามองดวงจันทร์ส่องสว่างบนท้องฟ้า เผลอยิ้มอย่างขมขื่น
จินเฉิงอู่ยืนมือไพล่หลังมองอยู่ข้างหน้า ยื่นขวดยาขวดเดิมให้เจิ้งเหมย
"เจ้าทำตกไว้"
เจิ้งเหมยหลบตาก้มหน้ามองพื้น ไม่อยากคิดถึงเรื่องน่าอายที่บ่อน้ำพุร้อน ในความเงียบความคิดของคนสองคนตรงกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
จินเฉิงอู่เดินจากไป เงียบๆ
ห้าชั่วยามผ่านไป คังซื่อฮั่นทะยานลงจากพุ่มไม้หนาพร้อมกับน่องไก่ชิ้นโต
"ข้านำมาให้เจ้าเสี่ยวเหมยหิวหรือยัง"
เจิ้งเหมยแปลกใจไม่น้อย แต่ก็รับน่องไก่มากัดกินด้วยความหิว
"ขอบคุณใต้เท้าคัง"
"ใต้เท้าคัง ท่านองครักษ์ เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกเรียกข้าแบบนี้เสียที"
จะให้ข้าเรียกใต้เท้าคังว่าอย่างไร"
"ซื่อฮั่นก็พอ"
"ไม่บังอาจ"
เจิ้งเหมยพูดทีเล่นที่จริงรู้สึกผ่อนคลาย คังซื่อฮั่นยิ้ม
"เช่นนั้น เรียกข้าว่าเสี่ยวฮั่นก็ได้นายหญิง"
เจิ้งเหมยอดขำไม่ได้เสียงหัวร่อต่อกระซิกดังในความเงียบงัน จินเฉิงอู่ยืนมองอยู่ในเงามืด