หลังเปลี่ยนชุดเรียบร้อย หนิงเซียนก็เข้ามาหาในห้องนอนที่ใช้นอนด้วยกันเพราะนานแล้วไม่เห็นมารดาออกมาจึงเดินมาหา
"ท่านแม่เจ้าคะ"
"หืม?" หลี่น่าหันไปหาหนิงเซียนที่หน้าประตู เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองคงอยู่ในนี้นานเกินไป ก็เพราะมัวแต่มองดูของในรถเข็นที่นางซื้อมาว่ามันจะสามารถทำให้นางและเด็กน้อยดำรงชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน
"ทำอะไรหรือเจ้าคะ โอ๊ะ! นั่นคืออะไรเจ้าคะ" เด็กน้อยร้องพลางชี้มาทีรถเข็น
"อ้อ ของที่แม่หามา มาดูสิ มีของเยอะแยะเลยนะ" หลี่น่าเอ่ยชวน และหยิบถุงข้าวของต่างๆลงมาวางที่พื้นเพื่อจะจัดการดูของต่างๆที่นางซื้อมายกเว้นน้ำเปล่าขวดพอดีมือประมาณสี่สิบหกขวดที่วางอยู่บนรถเข็นตามเดิม
หลี่น่านั่งนับตรวจรายการของต่างๆโดยมีหนิงเซียนนั่งอยู่ข้างๆอย่างตื่นตาตื่นใจที่มีของมากมายในบ้าน
"มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองทั้งหมดสิบซอง ชาบูหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยอีกสิบถ้วย ข้าวหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปอีกเก้าถ้วย คงอยู่ได้ไม่ถึงสิบวัน รู้อย่างนี้คงซื้อมาเยอะกว่านี้"
หลี่น่าย้ายอาหารกึ่งสำเร็จรูปไปวางอีกที่ และหยิบถุงใหม่ออกมาก็เป็นขนมขบเขี้ยวมากมายประมาณสิบห่อ นมกล่องรสช็อกโกแลตแปดกล่อง และน้ำอัดลมกระป๋องสิบสองกระป๋อง
อีกสองถุงถัดมาก็เป็นของใช้จำเป็นที่ต้องใช้ทุกเดือนอย่างผ้าอนามัย กระดาษชำระอเนกประสงค์ สเปรย์ระงับกลิ่นกาย ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวดผม ยาสีฟัน โฟมล้างหน้าและครีมทาบำรุงผิวกายที่ล้วนเป็นขนาดใหญ่ที่ใช้ได้เป็นเดือนถึงสองเดือนทีเดียว และแปรงสีฟันที่มีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งกล่องแถมหนึ่งกล่องซึ่งรวมทั้งหมดได้แปรงสีสันหกชิ้น
"นี่นับว่ายังดีนะเนี่ยที่ซื้อของใช้จำเป็นมาอยู่ ถ้าไม่มีของพวกนี้คงแย่แน่"
"สิ่งนี้คืออะไรหรือเจ้าคะท่านแม่ กินได้หรือไม่" หนิงเซียนยกหยิบสิ่งของที่สงสัยมาเอ่ยถาม หลี่น่ารีบหยิบออกมาจากมือเด็กน้อยทันที
"กินไม่ได้นะ นี่คือผ้าอนามัยมันกินไม่ได้เด็ดขาด จำไว้นะ"
"ผ้า.. มัยๆคืออะไรหรือเจ้าคะ" หนิงเซียนเอียงคอถามอย่างสงสัย ทำไมมันถึงกินไม่ได้ มันสีสันสดใสมากเลยนะ
"เอาไว้เจ้าโตขึ้นอีกนิดแม่จะสอนเจ้าเอง" เท่านี้หนิงเซียนก็ไม่ได้ถามต่อแต่หันไปสนใจอย่างอื่นแทน มองหลายสิ่งหลายอย่างที่หลี่น่าหยิบออกมาอย่างสนใจ
ถุงสุดท้ายที่นางซื้อมาก็นับว่าช่วยชีวิตนางไว้อีกครั้ง มีเครื่องปรุงอาหารทั้งซีอิ๊วหนึ่งขวด น้ำตาลหนึ่งขวดเล็ก เกลือหนึ่งขวดเล็ก พริกไทยป่นหนึ่งขวดเล็ก ผงซุปไก่หนึ่งถุง และน้ำมันงา เนื้อสัตว์อย่างเนื้อไก่บดและเนื้อปู มีต้นหอม กระเทียม ไข่ไก่และแผ่นเกี๊ยวกับเหล้าจีนล้วนเป็นเครื่องปรุงส่วนผสมวัตถุดิบสำหรับรายการอาหารที่คิดจะทำทานเมื่อกลับถึงห้องนั่นคือซุปใสเกี๊ยวไก่ใส่เนื้อปู แต่นางไม่มีโอกาสกลับถึงห้องก็มาโผล่ที่นี่เสียก่อน
"มีไข่ไก่ด้วย!" หนิงเซียนร้องอย่างดีใจ นางอยากกินไข่มาหลายวันแล้วแต่ท่านแม่หาให้ไม่ได้ วันๆได้กินแต่เห็ดกับผักป่าเท่านั้น
"ใช่แล้ว เดี๋ยววันนี้แม่จะทำซุปใสเกี๊ยวไก่ใส่เนื้อปูให้กินนะ เซียนเอ๋อร์จะได้กินของอร่อยๆเลยนะ"
"เซียนเอ๋อร์อยากกินเจ้าคะ!" แม้ไม่รู้ว่าอาหารที่ว่ามานั้นเป็นเช่นไรแต่หนิงเซียนก็อยากกิน มาดหมายไว้แล้วว่ามันต้องอร่อยมากเป็นแน่
"ได้เลย เดี๋ยวไว้ตอนกลางวันแม่จะทำให้กินนะ แต่ถ้าเซียนเอ๋อร์หิวก็กินผลไม้ได้นะแม่มีผลไม้มาด้วยทั้งแอปเปิ้ลและส้ม"
"เซียนเอ๋อร์ยังไม่หิวเจ้าค่ะ เซียนเอ๋อร์จะอยู่กับท่านแม่"
"แม่ก็ไม่ได้จะไปไหนเสียหน่อย วันนี้แม่จะจัดของที่ได้มาเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย"
"เซียนเอ๋อร์ก็จะช่วยท่านแม่เจ้าค่ะ"
"น่ารักจริงเชียว" หลี่น่ายกมือไปบีบแก้มหนิงเซียนเบาๆอย่างมันเขี้ยว ตัวแค่นี้แต่ทำตัวน่ารักน่าเอ็นดู
หลี่น่าหยิบผ้าอนามัยไปวางในหีบใส่โล่งๆข้างๆหีบใส่ผ้า และหยิบถุงที่ใส่ขนมและน้ำอัดลมและนมไปวางด้านนอกห้องนอนที่มีโต๊ะโล่งๆไม่ได้มีสิ่งใดวางอยู่
"ท่านแม่สิ่งนี้คืออะไร" เด็กน้อยหยิบถุงถุงหนึ่งชูขึ้นมาถาม หลี่น่าหันมาก็ตกใจเล็กน้อย นางลืมถุงนี้ไปได้อย่างไร นี่เป็นถุงเครื่องสำอางค์ที่นางแวะซื้อก่อนกลับ ทั้งยังโดนพนักงานขายป้ายยามาเยอะพอควร หมดเงินไปไม่น้อย
"นี่คือเครื่องประทินโฉมสำหรับสตรีที่จะทำให้มีใบหน้าที่สวยงดงาม" นางอธิบายคำง่ายๆให้เด็กน้อยฟังและยื่นไปถือถุงนั้นมาไว้ในมือก่อนจะนำไปเก็บในห้อง
"งดงามเหมือนท่านแม่ใช่หรือไม่เจ้าคะ" เด็กน้อยเอ่ย ลอบมองใบหน้าของมารดาที่ดูสดใสสวยกว่าเมื่อวาน หรือเพราะเครื่องประทินโฉมพวกนี่ที่ทำให้ใบหน้าของท่านแม่สวยงามยิ่งขึ้น
"ใช่จ้ะ ไว้เซียนเอ๋อร์กว่านี้แม่จะสอนใช้นะ" ถ้าหากตอนนั้นนางยังอยู่ ยังหาทางกลับไปไม่ได้น่ะนะ
"โตขึ้นเซียนเอ๋อร์จะงดงามเหมือนท่านแม่"
"แน่นอนอยู่แล้ว มานี่มา ช่วยแม่ถือของไปไว้ที่ห้องครัว"
หลี่น่าที่รับบทท่านแม่จำเป็นและลูกสาวตัวน้อยต่างช่วยกันจัดของในบ้านให้เรียบร้อย ก่อนจะมานั่งพักเหนื่อยที่เก้าอี้คนละตัว หลี่น่าจึงปอกเปลือกส้มและยื่นส้มที่ปอกแล้วไปที่หนิงเซียน เด็กน้อยเห็นก็อ้าปากรับเข้าปากก่อนจะหลับตาปี๋เพราะรสชาติของส้ม
"เป็นอย่างไร" หลี่น่ายิ้มกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าของหนิงเซียนตัวน้อย นางรู้อยู่แล้วว่ารสชาติมันเป็นเช่นไรจึงได้ซื้อมา
"เปรี้ยวเหลือเกินท่านแม่"
"ฮ่าๆ"
"ท่านแม่แกล้งเซียนเอ๋อร์!" เด็กน้อยที่รู้ตัวว่าโดนแกล้งก็พองแก้มมองค้อนนิดๆใส่มารดาอย่างเง้างอน ส้มที่กินไปนั้นมันเปรี้ยวมากก็จริงแต่เด็กน้อยกลับไม่คายเพราะมารดาเป็นคนป้อน น้อยครั้งที่มารดาจะป้อนเช่นนี้ ปกติจะให้นางหัดกินเอง
"โอ๋ๆ เซียนเอ๋อร์แม่ไม่แกล้งเจ้าแล้ว เดี๋ยวแม่ไปหยิบขนมมาให้เจ้ากินดีกว่า" ว่าแล้วก็ลุกไปหยิบขนมที่ว่ามันคือมันฝรั่งทอดกรอบที่คนนิยมกินมากมาให้เด็กน้อยในยุคนี้ลองชิมดูคงติดกินงอมแงมเป็นแน่
และเป็นอย่างคาดไว้เจ้าตัวน้อยชอบมาก หลี่น่าจึงปล่อยให้ทานไปคนเดึยวและปลีกตัวมาที่ครัวเพื่อเตรียมทำอาหารกลางวัน