ยังไม่ทันก้าวพ้นประตูหน้าบ้านเพื่อจะไปที่ครัว เจ้าเด็กน้อยที่กำลังกินขนมก็ร้องทักขึ้นมา พร้อมเดินมาหาทั้งถุงขนมอยู่ในมือ
"ท่านแม่จะไปไหนหรือเจ้าคะ"
"แม่จะไปทำซุปใสเกี๊ยวไก่ใส่เนื้อปูให้เซียนเอ๋อร์กินอย่างไรเล่า"
"ดูสิเนี่ย กินขนมมอมแมมไปหมดแล้ว หยุดกินก่อนเถอะเดี๋ยวท้องน้อยๆจะรับอาหารสุดอร่อยของแม่ไม่ได้นะ" หลี่น่าเอื้อมมือไปเช็ดปากน้อยๆที่เลอะไปด้วยเศษขนมเล็กๆ และเอ่ยเตือนให้หยุดกินขนมก่อนเพราะกลัวเด็กน้อยจะรับอาหารที่นางทำไม่ได้ ขนมในถุงก็ดูเหมือนพร่องจนเกือบหมดแล้ว ไม่นึกว่าเด็กตัวแค่นี้จะกินขนมเร็วเช่นนี้
"เจ้าค่ะ เซียนเอ๋อร์เข้าครัวด้วยได้หรือไม่ เซียนเอ๋อร์ไม่ดื้อไม่ซนเลยนะท่านแม่" เด็กน้อยเอ่ยปากหมายมั่นจนหลี่น่าเอ็นดูไม่คิดปฏิเสธ จึงพาเซียนเอ๋อร์ตัวน้อยตามเข้าไปในห้องครัวเล็กๆด้านหลัง
หลี่น่าหยิบส่วนผสมทั้งหมดในการทำเกี๊ยวน้ำออกมาวางบนโต๊ะเพื่อทำการนำมาผสมเป็นไส้เกี๊ยวและจัดการนำไปใส่ไว้ตรงกลางแผ่นเกี๊ยวสุดท้ายก็ห่อให้เป็นรูปทรงไม่ให้ไส้มันทะลักออกมา ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเด็กน้อยที่ชะเง้อตัวมองมารดาทำอาหารด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่กล้าเอ่ยถามกลัวจะรบกวนมารดา
แต่หลี่น่าที่กำลังทำอยู่นั้นก็รู้สึกได้จึงหันก้มไปหาหนิงเซียนที่ตั้งใจดูนางทำอาหาร
"แม่กำลังห่อเกี๊ยวอยู่ เซียนเอ๋อร์อยากช่วยแม่ทำหรือไม่"
"อยากเจ้าค่ะ!" หนิงเซียนขานตอบรับอย่างแข็งขันด้วยรอยยิ้มกว้างสดใสของวัยเด็ก
ด้วยตัวที่เล็กสูงไม่ถึงโต๊ะ หลี่น่าจึงไปหยิบในบ้านออกมาหนึ่งตัวเพื่อให้หนิงเซียนขึ้นมานั่งช่วยห่อเกี๊ยว
"มา เซียนเอ๋อร์ห่อเกี๊ยวตามแม่นะ" หลี่น่าเอ่ยบอกพร้อมแสดงวิธีทำช้าๆให้หนิงเซียนได้ตามทัน
"เซียนเอ๋อร์ทำได้แล้วเจ้าคะท่านแม่ ดูสิเจ้าคะ" เด็กน้อยภูมิใจกับเกี๊ยวที่ตัวเองห่อแม้จะบิดเบี้ยวไปบ้างแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
"เก่งมากเซียนเอ๋อร์ เจ้าตัวแค่ก็ช่วยแม่ทำอาหารได้แล้ว" หลี่น่าเอ่ยชม
"เซียนเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านแม่เหนื่อย เซียนเอ๋อร์อยากช่วยท่านแม่บ้าง" หนิงเซียนเอ่ยบอกมารดาและตั้งใจห่อเกี๊ยวแผ่นต่อไป
เมื่อห่อเกี๊ยวเสร็จแล้ว นางก็ให้หนิงเซียนถอยไปนั่งให้ห่างเพราะจะก่อไฟ หลี่น่าใช้ความทรงจำทั้งหมดที่เรียนรู้มาในการก่อไฟ พยายามก่อไฟให้ติดอย่างทุลักทุเลใช้เวลาเกือบหนึ่งเค่อ (15นาที) ถึงจะจุดไฟติดเสียที
นางต้มน้ำซุปจนเดือด ใส่เหล้าจีนและเกี๊ยวลงไปพร้อมโรยต้นหอมไปด้วย ใช้เวลาต้มไม่นานก็เสร็จสิ้น หลี่น่าจัดการตักขึ้นมาใส่ถ้วยทั้งหมดสองถ้วยและยกไปวางที่โต๊ะที่ใช้สำหรับทานอาหารในบ้านโดยมีหนิงเซียนเดินตามมาติดๆ
"มาเดี๋ยวแม่ป้อนเจ้าเอง น้ำซุปมันร้อนเจ้าค่อยๆกินนะ" หลี่น่าตักน้ำซุปสีใสที่มีเกี๊ยวหนึ่งชิ้นทำการเป่าให้หายร้อนก่อนจะป้อนเข้าปากของเด็กน้อย
"เอาอีกเจ้าค่ะ" เด็กน้อยร้องขอทันทีที่เคี้ยวคำแรกหมด
"ได้สิ" หลี่น่าป้อนเกี๊ยวน้ำจนหมดถ้วยของหนิงเซียน
"กินเก่งมาก แต่ก็ดีแล้วกินเยอะๆจะแข็งแรงโตไวๆ" หลี่น่ามองเด็กน้อยที่เคี้ยวจนแก้มตุ่ยอย่างเอ็นดู เด็กๆก็อย่างนี้ชอบกินเยอะโดยเฉพาะของที่อร่อยๆ
"อร่อยมากเลยเจ้าค่ะท่านแม่ เซียนเอ๋อร์อยากกินทุกวันเลย"
นึกเห็นใจเด็กน้อยคนนี้แต่นางหาทำให้กินทุกวันไม่ได้เพราะวัตถุดิบในการทำมันหมดแล้ว คงเหลือกินอีกแค่ถึงมื้อเย็นของวันนี้เท่านั้น
"ทุกวันคงไม่ได้หรอกนะเซียนเอ๋อร์ แต่เดี๋ยวแม่จะหาโอกาสทำให้เจ้ากินบ่อยๆ" นางเอ่ยปลอบ สีหน้าของเด็กน้อยเศร้าลงที่ไม่ได้มีโอกาสได้กินของอร่อยๆทุกวัน แต่คิดไปคิดมาหากร้องจะกินทุกวันท่านของนางไม่ต้องหายไปเป็นวันเช่นเมื่อวานเลยหรือไร ถ้าอย่างนั้นนางยอมกินอะไรก็ได้แต่ขอให้ท่านแม่ไม่ห่างกับนางนานๆ
ช่วงค่ำหลังจากที่ทานมื้อเย็น หลี่น่าก็ตัวของหนิงเซียนเด็กน้อยมาอาบน้ำ ในบ้านจะมีห้องสำหรับอาบน้ำอยู่หนึ่งห้องมีโอ่งใส่น้ำและขันหนึ่งใบ หลี่น่าได้นำอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำมาไว้ในห้องนี้แล้ว
ทั้งหลี่น่าและหนิงเซียนอาบน้ำด้วยกัน พอชำระล้างร่างกายจนสะอาดจนตัวหอมก็พากันไปนอนบนที่นอนเก่าๆ เด็กน้อยมุดตัวเข้าหาอ้อมกอดของมารดาและเอื้อมไปจับมือของมารดามากุมไว้อย่างที่เคยทำเป็นประจำ
ตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วที่หนิงเซียนรู้สึกว่ามารดาแปลกๆไปแต่ก็ถูกขจัดทิ้งไปเพราะรู้สึกดีใจที่มารดากับมาสักที แต่ความรู้สึกนี้กลับมาอีกครั้งเพราะสัมผัสที่มือของมารดานั้นเปลี่ยนไป ทุกวันที่นางจับมือมารดาของตนมือนั้นจะหยาบและมีรอยแผลถลอกเล็กๆเพราะมารดาต้องไปหาอาหารทำให้ได้รับรอยบาดแผลเล็กน้อยจากการหาอาหาร
แต่วันนี้มือนี้กลับนุ่มไม่รู้สึกหยาบ แม้มีรอยแผลจากฟืนเล็กๆเพราะก่อไฟเช่นที่เคยมีทุกวัน
"มือท่านแม่นุ่มมาก ไม่เหมือนทุกวัน" เพราะความสงสัยไม่กักเก็บไว้จึงเอ่ยถามเสียงใส