ผับแห่งนี้ชื่อว่า ปาปิยอง ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจในเมืองหลวง แค่เฟิร์นพาฉันเดินเข้าไปด้านใน ร่างกายอวบ ๆ ของฉันก็หดเกร็งลงมาก ความหรูหราของมันทำให้ใจฉันเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ฉันเกาะแขนเฟิร์นไว้แน่น เหมือนเธอจะรู้เลยหันมายิ้มให้กำลังใจ
“ ไม่ต้องกลัวนะแก ฉันอยู่ข้าง ๆ ”
ฉันเลยส่งยิ้มกลับไปเพื่อเป็นการขอบคุณ
เฟิร์นพาฉันไปสวัสดีผู้จัดการร้านซึ่งเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ลำบึ้ก ชื่อ พี่ชาตรี แต่การพูดและการเคลื่อนไหวร่างกายอรชรอ้อนแอ้นยิ่งกว่าผู้หญิงหลายเท่าตัว ใช่ เธอเป็นสาวสองที่ใจดีมาก
“ สวัสดีจ้าน้องนิดา เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดนะ ไม่ต้องกลัว มีอะไรมาถามพี่หรือเพื่อน ๆ ทุกคนได้ ”
แล้วเธอก็แนะนำฉันกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นเด็กเสิร์ฟด้วยกันอีกราวห้าหกคน เป็นผู้หญิงนักศึกษากันทั้งหมด
เฟิร์นพาฉันไปเปลี่ยนชุดในห้องพนักงาน ซึ่งเป็นเชิ้ต แขนยาวสีขาวค่อนข้างจะรัดรูปพอสมควรกับกระโปรงทรงเอยาวประมาณหัวเข่า มีเน็คไทเล็ก ๆ สีดำผู้ตรงกลาง ฉันสวมเสร็จก็ไม่กล้าออกมาเพราะไม่มั่นใจในสรีระตัวเองเลย
“ เฮ้ยแก เสร็จหรือยังเนี่ย นานไปหรือเปล่า เดี๋ยวต้องเข้างานแล้ว ” เฟิร์นส่งเสียงเร่ง
“ แก ฉันว่ามันรัดไป ฉันไม่กล้าเดินหรอก น่าเกลียด ”
“ ไหนออกมาให้ฉันดูซิ เร็ว อย่าลีลาแก เดี๋ยวคนอื่นว่าอู้งานอีก ” ฉันเลยจำต้องเปิดประตูออกไป เฟิร์นมองฉันอย่างตะลึงอยู่พักหนึ่งแล้วจับตัวฉันหมุน
“ ว้าว น่าเกลียดที่ไหนวะ แกโคตรเซ็กซี่เลยนิดา สะบึมจริง ๆ ”
“ แต่ฉันว่า.. ”
“ พอ ๆ เลิกเถียง ไปทำงานกัน ฉันจะสอน ”
ฉันเลยจำต้องเดินกระมิดกระเมี้ยนตามเฟิร์นออกไปทำงานทันที
แขกของที่นี่ส่วนมากจะเป็นผู้ดีมีเงินและค่อนข้างสุภาพ เป็นฝรั่งและไฮโซ ไม่ก็ดาราที่ฉันเคยเห็นในโทรทัศน์ ตอนแรกก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ผ่านไปสามสี่ชั่วโมงฉันก็หายเกร็งและสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญตอนนี้ฉันได้ทิปมาสองร้อยบาทแล้วด้วยสิ นั่นเป็นแรงขับเคลื่อนให้ฉันทำงานอย่างมีความสุขที่สุด
ประมาณเกือบตีหนึ่ง แขกเริ่มซา ฉันปวดฉี่จึงขออนุญาตมาเข้าห้องน้ำ ฉันเลือกห้องในสุด ขณะทำธุระเสร็จกดชักโครกเรียบร้อย กำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากด้านนอก
“ อ้า เอริคขา ใจเย็น ๆ ซี่ อู้ว ”
“ ทำไมล่ะ คุณอยากให้ผมหยุดเหรอ ”
“ ซี้ด อ้า ไม่ค่ะ ชาช่าไม่อยากให้หยุด แต่กลัวคนมาเห็น ”
“ กลัวคนมาเห็น กับกลัวไม่ได้มันส์ คุณกลัวอันไหนมากกว่ากัน ”
“ อ๊า ที่รัก ซี้ด กลัวอันหลังมากกว่าค่ะ ถ้าอย่างนั้นแรงกว่านี้อีกนะคะ ” เสียงครางซี้ดซ้าดและออดอ้อนวอนขอกระเส่า
ฉันตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ถึงแม้ฉันจะไม่เคยผ่านเรื่องพรรค์นี้มาก่อนแต่ก็พอจะเคยเห็นในหนังฝรั่งมาบ้าง เสียงแบบนี้ใช่แน่ ๆ มีคนกำลังทำอย่างว่ากันอยู่ แต่จะมาทำอะไรเวลานี้ ในสถานที่แบบนี้วะ นี่มันห้องน้ำ เป็นที่สาธารณะ แล้วฉันจะกล้าออกไปทำงานได้ยังไงเนี่ย
ไหนว่าแขกที่นี่ผู้ลากมากดีมีคุณภาพ ไหงมาทำแบบนี้กันตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำวะ เข้าไปในห้องน้ำสักนิดมันจะเสียเวลามากนักหรือไง
“ อู้ว ใหญ่จังที่รัก เสียว ” เสียงผู้หญิงครวญครางพร้อมกับมีเสียงอื่นตามมาดังป้าบ ๆ ถี่รัว ฉันตาลุก
ตอนนั้นฉันรู้นะว่าในใจหงุดหงิดที่คนทั้งคู่ทำอะไรบัดสีบัดเถลิงในที่สาธารณะ แต่อีกใจทำไมมันถึงอยากรู้ว่าเขาทำอะไรแบบไหนกันบ้าง ฉันขยับเข้าไปแล้วแนบตาลงตรงร่องประตู แล้วฉันก็ต้องเบิกตากว้าง
ฉันเห็นแผ่นหลังของผู้ชายสูงใหญ่ราวเมตรเก้าสิบที่แน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามทุกสัดส่วน ผิวสีน้ำตาลทองสวย สักรูปอินทรีย์สยายปีกจากกลางหลังไปสู่ไหล่กว้าง ศีรษะเขาปกคลุมไปด้วยผมสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำ กางเกงยีนสีเข้มเกาะอยู่ใต้สะโพกสอบแบบผู้ชาย สะโพกที่มีแต่มัดกล้ามที่ทำให้ฉันตาลุกวาว ที่สำคัญเขากำลังขย่มรัวเร็วถี่ยิบอยู่บนร่างขาวจั๊วะที่นั่งอยู่บนเค้าน์เตอร์อ่างล้างมือแล้วรวบขาเรียวเหนี่ยวเอวสอบไว้
เพราะเบื้องหลังของอ่างล้างมือคือกระจกบานใหญ่ยาว ฉันตวัดสายตามองเข้าไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เห็นใบหน้าเจ้าของร่างกายใหญ่โตหุ่นราวกับนายแบบที่กำลังขย่มหญิงสาวอย่างลืมตายนั้น
คุณพระ ! เขาหล่อเหลือเกิน เป็นหนุ่มตะวันตกที่หัวน้ำตาลค่อนไปทางดำคล้ายกับหนุ่มสเปนยังไงยังงั้น หล่อเข้มอย่างกับพระเอกหนังฝรั่งที่เธอเคยเห็นหลาย ๆ เรื่อง แม้ใบหน้านั้นจะบิดเบี้ยวเหยเกเพราะอารมณ์กามที่มันคุโชนอยู่ แต่ก็ ไม่สามารถทำให้ใบหน้านั้นลดความหล่อเหลาร้ายกาจลงแม้แต่น้อย คิ้วเข้มพาดอยู่บนตาคมหวาน จมูกโด่งสวยรับกับปากหยักโค้งที่เผยออ้าระบายลมหายใจรุนแรง ใบหน้ายาวมีหนวดเคราเขียวครึ้ม ทำให้เขายิ่งดูหล่อเข้ม หล่อแบบแบดบอยมากขึ้น หน้าอกแน่นตึงนั้นมีรอยสักเป็นรูปงูพันอยู่บนดอกกุหลาบ
ฉันจ้องมองเขาอย่างตกตะลึงไม่รู้ตัว คล้ายกับว่าโดนมนต์เสน่ห์ของหนุ่มฝรั่งผู้นี้เข้าให้แล้ว เขาขยับขย่มรุนแรงจนเสียงครวญครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อสะท้านสะเทือนไปทั่วจนกระทั่งทั้งสองเสร็จกามกิจในที่สุด และแยกย้ายกันเดินออกจากห้องน้ำไป ปล่อยให้ฉันเข่าอ่อนทรุดนั่งลงบนชักโครกอย่างหมดเรี่ยวแรง
คืนนั้นฉันซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเฟิร์นกลับหอพักด้วยหัวใจลิงโลด รวมแล้วฉันได้ทิปทั้งหมดพันนิด ๆ รวมกับค่าจ้างสามร้อยก็มากโขอยู่ ถ้าหากได้แบบนี้ทุกคืนฉันก็จะมีเงินเก็บส่งไปให้ที่บ้าน
พอถึงหอฉันก็รีบอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อหลับตาลง ภาพนั้นที่ฉันเห็นในห้องน้ำก็โผล่แว่บมาเล่นเอาฉันสะดุ้ง ทั้งน้ำเสียงทั้งลีลาที่ฉันจดจำแม่นเหลือเกิน ฉันพยายามสลัดศีรษะแรง ๆ ให้ภาพนั้นหลุดออกไปแล้วข่มตาลงนอนและหลับไปในที่สุด
แปดโมง นาฬิกาปลุกดัง ฉันงัวเงียเอื้อมคว้าไปกดปิดแล้วนอนหลับตาต่ออยู่สักพัก ก่อนจะหน้าแดงอยู่คนเดียวเพราะฉันเก็บภาพที่เห็นเอาไปฝัน ในฝันฉันเห็นผู้ชายคนนั้นขโยกขย่มรุนแรงอย่างลืมตาย แต่ผู้หญิงคนที่อยู่กลางหว่างขาเขานั้นเป็นฉันเอง !
ฉันกลืนน้ำลายแล้วหลับตาลง ฉันเป็นบ้าไปแล้วหรือถึงเอาเรื่องพรรค์นี้เก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนั้น สงสัยจะบ้าจริง ๆ เพราะตรงใต้ท้องน้อยอันเป็นจุดกึ่งกลางกายสาวมันร้อนวูบวาบ ๆ พิกล ฉันลองสอดมือลงไปใต้กางเกงนอนลายหมีพูห์และชั้นในบางเบาลงไปแตะดูตรงกลางกลีบ มันมีน้ำแฉะเยิ้มออกมาด้วย
ฉันตกใจสุดขีด นี่แค่ฝัน ฉันถึงกับมีปฏิกิริยาทางเพศเลยหรือนี่ ฉันรีบลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่า ให้น้ำเย็น ๆ ไล่ความรู้สึกบ้า ๆ บอ ๆ นี้ออกไปให้พ้น ก่อนที่จะแต่งชุดนักศึกษาออกไปเรียนตามปกติ