บอสผู้แสนเร่าร้อน

1175 Words
        คืนที่สองของการทำงาน           ฉันสลัดความรู้สึกเคอะเขินและไม่กล้าออกไปได้จนหมด รับออเดอร์และเสิร์ฟได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะเข้ามาส่งออเดอร์ที่หน้าครัว ผู้จัดการหรือที่พวกเราเรียกว่าเจ๊ชาตรีก็เดินเข้ามาบอกฉัน           “ นิดา เดี๋ยวเข้าไปสวัสดีคุณเอริคกับฉัน เป็นบอสเป็นเจ้าของที่นี่ วันนี้ท่านมา จริง ๆ เมื่อคืนก็มาแหละแต่ดึกแล้ว ก็เลยยังไม่ได้รายงานท่านว่ารับพนักงานเพิ่ม ๆ ”           “ ได้ค่ะ เจ๊ชาตรี ” ฉันเอาถาดไปวาง พยายามจัดเสื้อผ้าเผ้าผมให้ดูเรียบร้อยที่สุดก่อนจะเดินตามเจ๊ชาตรีเข้าไปในห้องที่ซ่อนอยู่ด้านหลังแคชเชียร์           เมื่อเปิดประตูเข้าไป เจ๊ชาตรีก็ส่งเสียงเอ่ยทักทายชายคนหนึ่งซึ่งนั่งพิงเบาะเก้าอี้ทำงานหรูหราที่หันหลังอยู่           “ บอสคะ ชาตรีพาพนักงานใหม่มารายงานตัวค่ะ ”           เขาหมุนเก้าอี้กลับมา ทำให้ฉันเห็นใบหน้าเขาอย่างเต็มตา ผู้ชายคนนั้น ที่ฉันเห็นเขาแสดงหนังสดในห้องน้ำหญิงเมื่อคืนนี่นา !           ฉันอ้าปากหวอ ตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น จนเจ๊ชาตรีต้องเอื้อมมือมาเขย่า           “ นิดา สวัสดีคุณเอริคสิ นี่แหละบอสของเรา เจ้าของผับ   ปาปิยองแห่งนี้ ”           ฉันได้สติ กระพริบตาถี่แล้วยกมือทำความเคารพแล้วรีบหลบสายตาคล้ายว่า หากสบสายตาคม ๆ คู่นั้นจะทำให้เขารู้ว่าเมื่อคืนฉันบังเอิญไปเห็นหนังสดอันร้อนแรงของเขา           เขาลุกขึ้นยืนแล้วค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ เมื่อคืนที่ฉันเห็นเขานั้นก็พอกะเกณฑ์ได้บ้างว่าเขารูปร่างสูงใหญ่เหลือเกิน แต่นี่ได้มาสัมผัสตัวจริงใกล้ ๆ ฉันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กแล้วเขาเหมือนยักษ์วัดแจ้งก็ไม่ปาน           “ สวัสดีครับ ” เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยทักทายด้วยภาษาไทยแปร่งปร่าอย่างคนต่างชาติ ฉันยืนตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก           “ เอ้า นิดา บอสทัก ไม่ได้ยินหรือไง ” เจ๊ชาตรีบอกพร้อมเอื้อมมือมาเขย่าแขนฉันอีกครั้ง ฉันสะดุ้งนิด ๆ แล้วเอ่ยตอบไป           “ เอ่อ สะ.. สวัสดีค่ะ ”           ฉันเอ่ยตอบแต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ฉันก้มลงจ้องเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ฉันได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มน่าฟัง           “ กลัวผมเหรอ ไหนเงยหน้ามาคุยกันหน่อยซิ ” เขาสั่ง เจ๊ชาตรีเอามือมาดันคางฉันขึ้น           “ นิดา นี่เธอเป็นอะไร เงยหน้ามาคุยกับบอสสิ ”           ฉันกลืนน้ำลายลงคอแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขาตามคำสั่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดเข้าให้แล้ว           ใบหน้าหล่อเหลานั้นอยู่ห่างจากฉันราวสองฟุต แต่ช่างมีอิทธิพลแรงกล้า ดวงตาสีน้ำตาลมีประกายเร่าร้อนบางอย่าง เต้นระริกอยู่ในนั้น ฉันสบตาเขาแล้วเสียวท้องน้อยวูบวาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกราวกับถูกดูดวิญญาณออกไปยังไงยังงั้น           เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉันอีกหนึ่งก้าว ฉันถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่ก็ยังคงไม่สามารถหลบสายตาอันร้อนแรงของเขาได้ นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย           “ ชื่อนิดาเหรอครับ ”           “ ค่ะ ” ฉันหลุดตอบไปเบาหวิวคล้ายคนไร้สติ           “ อายุเท่าไรแล้ว ยังเรียนอยู่หรือเปล่า ”           “ อายุยี่สิบ เรียนปีสองค่ะ ”           “ ผมเอริคนะ อายุสามสิบปี เรียนจบมานานแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักครับ ” เขาเอ่ยติดตลก พร้อมยื่นมือใหญ่ส่งมาเบื้องหน้า ฉันยกมือสั่นเทาขึ้นมา เขาเป็นฝ่ายคว้ามือฉันไปบีบเบา ๆ แล้วปล่อย         “ ชาตรี พานิดาออกไปเถอะ ก่อนที่เธอจะกลัวผมจนขาดใจตาย ” เขาพูดกลั้วหัวเราะ เจ๊ชาตรีรีบลากแขนฉันออกมา เมื่อมาถึงห้องพนักงาน ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรีบไปรินน้ำดื่มหนึ่งแก้วเต็ม ๆ เจ๊แกหัวเราะขำอาการของฉันมาก         “ แกเป็นอะไรนิดา กลัวอะไรบอสนักหนา ”         ฉันไม่ตอบแต่เทน้ำดื่มอีกแก้วรวดเดียว เจ๊ชาตรีหัวเราะ เฟิร์นที่เข้ามาพอดีก็เลยถามขึ้นด้วยความสงสัย         “ อะไรกันคะซิส หัวเราะดังออกไปถึงหน้าร้าน ”         “ ก็เพื่อนแกน่ะซี้เฟิร์น ฉันพาไปไหว้บอสมา กลัวจนขี้ขึ้นหัว ตัวสั่น พูดไม่ออกเลย ”         “ ว้าย จริงดิ นี่แกเจอบอสแล้วเหรอ เป็นไง เป็นอย่างที่ฉันเคยพูดให้ฟังใช่ไหมล่ะ หล่อลากไส้ หล่อแบบแบดบอย หล่อแบบดิบ ๆ หล่อชนิดที่ผู้หญิงทุกคนที่ได้เจออยากถวายตัวให้แบบฟรี ๆ ไม่มียั้ง ”         “ ไม่ใช่แต่ผู้หญิงนะยะ เจ๊ยังอยากเลย ”         แล้วสองคนก็หันไปกรี๊ดกร๊าดกิ๊วก๊าวกันเพลิน วันนั้นที่เฟิร์นเล่าเรื่องเจ้าของผับให้ฟังฉันไม่ได้สนใจนัก แต่วันนี้ฉันยอมรับเลยว่าเขามีอิทธิพลกับหัวใจฉันมาก เพราะมันเต้นตึ้กตั้กจนถึงตอนนี้ อาจเป็นเพราะว่าฉันบังเอิญไปเห็นภาพกีฬามันส์ ๆ ของเขาในห้องน้ำแล้วกลัวเขาจะรู้ก็เป็นได้         เจ๊ชาตรีเม้าท์อยู่สักครู่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น นางหยิบขึ้นมาดูก็หันหน้ามาบอกพวกเรา         “ ผัวโทรมา ขอตัวก่อนนะ ” แล้วก็เดินระริกระรี้จากไป เหลือแต่เฟิร์นกับฉันสองคน  เฟิร์นเขยิบเข้ามาหาแล้วกระซิบ  ข้างหูฉัน         “ เป็นไงแก บอสน่ากินไหม ”         “ ไอ้บ้า ” ฉันยกมือขึ้นตีแขนเพื่อน มันหัวเราะ         “ หล่อใช่ไหมล่ะ ทั้งหล่อทั้งใหญ่ทั้งหุ่นดี ฉันบอกแล้ว ”         “ เขาเป็นฝรั่งใช่ไหมแก ”         “ อือ เห็นเจ๊ชาตรีบอกว่าแม่แกเป็นลูกครึ่งไทยสเปนหรืออะไรเนี่ยแหละ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนฝรั่งเศส บอสก็เลยมีสามเสี้ยวเลย ไทย สเปน ฝรั่งเศส ” นั่นไง เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก ๆ ของสามเชื้อชาติ รวมข้อดีไว้ที่ตัวเขาหมดเลย         “ แล้วเขาอยู่ที่นี่ประจำเลยเหรอ ”         “ ก็บินไป ๆ มา ๆ ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เห็นว่าที่โน่นก็มีผับแบบนี้ด้วย ร้านนี่ก็มาสัปดาห์ละสองสามหนนะ ฉันล่ะฝันอยากโดนบอสกินสักครั้ง คงจะแซ่บจนลืมไม่ลงเลยล่ะ ”         เฟิร์นบอกความต้องการออกมาตรง ๆ ฉันตีแขนเพื่อนดังเพี้ยะ         “ ไอ้บ้า พูดอะไรออกมา น่าเกลียด เป็นผู้หญิงนะ ”  มันหัวเราะ         “ โอ๊ย นางชี พูดอะไรก็ไม่ได้ ก็มันเรื่องจริงนี่ ฉันจะบอกแกให้เลยนะ แค่ฉันมองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่าบอสน่ะ ทั้งใหญ่ ทั้งยาว ทั้งแซ่บ ผู้หญิงที่ไหนเขาก็อยากให้บอสกินทั้งนั้นล่ะ ยกเว้นผู้หญิงผิดปกติอย่างแก ”         ฉันยืนนิ่งเงียบ ไม่ตอบมัน เพราะฉันยังไม่แน่ใจในตัวเองว่าไม่อยากให้เขากินจริงหรือเปล่า ไอ้ที่ใจเต้นตึ้กตั้กอยู่อย่างนี้มันเพราะอะไรกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD