“จู่ๆ ผมก็ปวดหัว สงสัยโรคเก่ากำเริบ” อาดิลไม่เคยมีโรคประจำ เขาแข็งแรงเขาสุดยอดดูแลสุขภาพดีด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
“ปวดหัวขณะเราสองคนกำลัง...” หล่อนค้างประโยคไว้ เห็นอยู่ว่าเมื่อกี้ความรู้สึกของแวนนี่ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย หลายวันมาแล้วหล่อนไม่ได้สัมผัสกับเซ็กซ์ที่เร่าร้อน เซ็กที่พึงใจกันและกันหล่อนใฝ่ฝันอยากมีเซ็กซ์ชั้นยอดกับอาดิล วันนี้หล่อนมีโอกาส แต่เขากลับบ่นว่าปวดหัวถึงกลับผลักไสหล่อนจนร่างเกือบกระเด็ดตกจากตักทรงพลังของเขาเนี่ยนะ
หล่อนเนรมิตอาหารเลิศหรูบนโต๊ะตรงนั้นเพื่อรอเขา สั่งแชมเปญขวดที่แพงสุดรสชาติดีที่สุดเพื่อดื่มกับเขา และมากกว่านั้นชุดที่หล่อนเพิ่งสั่งห้องเสื้อชื่อดังจากชาแนลเพราะหล่อนเป็นลูกค้าเหนียวแน่นของแบรนด์นี้ เร่งให้ชุดนี้ส่งถึงบ้านเพื่อสวมใส่มาพบกับเขาในโอกาสพิเศษเช่นนี้ แวนนี่คงไม่ปล่อยให้ความรู้สึกครั้งแรกระหว่างหล่อนกับเขาสิ้นสุดลงอย่างไม่เป็นท่าเด็ดขาด
“จะว่าอะไรไหมหากผมจะขอโทษ เพราะคงไปต่อกับแวนนี่ไม่ได้แล้ว ขืนสมดื้อดึง หมอประจำตัวคงสั่งห้ามมีเซ็กซ์ตลอดชีวิต ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นผมคงตายแน่” เขาครวญอย่างน่าสงสาร
“ห้ามมีเซ็กซ์ตลอดชีวิต” แวนนี่ทวนประโยคด้วยเสียงพร่า ดวงตาเจือไปด้วยความผิดหวัง โอกาสแบบนี้หาได้ง่ายเสียที่ไหน อาดิลเป็นคนเก็บตัวใครๆ ก็รู้ อะไรมันจะเลวร้ายไปกว่าปล่อยปลาแซลมอนรสชาติดีหลุดปากไป
“ผมสัญญาเราจะเจอกันอีก รับรองคราวหน้าผมจะฟิตร่างกายอย่างดีไม่ให้คุณผิดหวัง ครั้งนี้สุดวิสัยจริงๆ”
“ฉัน...ฉันเข้าใจค่ะเรื่องโรคภัยห้ามไม่ได้” หล่อนพยายามเข้าใจแต่ไม่เข้าใจตรงที่ทำไมโรคประจำตัวบ้าบอของเขาต้องมากำเริบเวลานี้ แวนนี่หัวเสียกระโดดลงจากตักอาดิลลงไปนั่งข้างกายชายหนุ่ม ใบหน้ากระเง้ากระงอด
อาดิลลุกจากที่นั่งก้มลงหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นสวมใส่กับร่างกายทีละชิ้น ขณะไม่เข้าใจตัวเองปกติเขาไม่เคยหน่ายเซ็กเร่าร้อนจากผู้หญิง เมื่อเสนอมาเขาก็สนองอย่างไม่รีรอ แต่เลือกสักหน่อยควรแจกจ่ายเซ็กกับใครเท่านั้น ไม่ใช่คว้ามาแล้วฟาดได้หมด สำหรับแวนนี่หล่อนคือสาวสังคมมีระดับ แถมหล่อนยังรูปร่างดีสวย รสนิยมการแต่งกายชั้นเลิศ เขากลับหมดอารมณ์กับหล่อนเพียง เพราะใบหน้าของใครบางคนซ้อนทับ ทำให้สิ่งที่ผงาดอย่างห้าวหาญกลับหดหายไม่เหลือความคึกคะนอง
อาดิลทิ้งให้แวนนี่จมอยู่กับความเสียดาย หลังจากที่เขาจากไป หล่อนคงคงตีอกชกตัว ทำไงได้ในเมื่อจู่ๆ เขาก็หมดอารมณ์ดื้อๆ ว่าแต่เรื่องทั้งหมดในจิตใจแกว่งไกวตอนนี้คืออะไรกันนะ อาดิลประมวลค่าสมการในสมองทั้งหมด ทั้งนี้คงเพราะแม่สาวรสหวานคนนั้นคือสาเหตุ ฉะนั้นอารมณ์ค้างของเธอควรเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด อาดิลโยนความผิดให้กับคนไม่รู้เรื่องรู้ราว นึกถึงตาดวงตากลมบ้องแบ้วใบหน้าหวานๆซ่านตรึงใจ
มะลินั่งทบทวนคำถามบนหน้าจอแทบเล็ตอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม เผื่อมีโอกาสหรือไม่มีโอกาสก็ตามในการเข้าถึงตัวอาดิล ผู้ชายอารมณ์ตีสเข้าถึงตัวยากคนนั้น ว่าแต่ช่วงนี้ทำไมเธอถึงเจอผู้ชายคางบู๋มบ่อยจังล่ะ หรือว่าคอลเลคชั่นนี้ผลิตออกมาหลายโหล สามคนแล้วสิที่เธอพบในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน คนแรกในงานเต้นรำของห้องเสื้อกานต์ดา และอีกคนในภาพถ่ายด้านข้างของอาดิล การ์ริสม็อง แม้ไม่เห็นใบหน้าเต็มใบเธอก็เชื่อสายตาตัวเองหวานใจของคณาทิปคางบุ๋มเล็กๆ แล้วยังนักจารกรรมจูบนั้นด้วย
ขณะมะลิกำลังนั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดร่างสูงของใครบางที่แอบเข้ามาในความคิดกำลังเดินผ่านห้องอาหารไป ช่วงจังหวะเงยหน้าขึ้นสายตาจับภาพนักจารกรรมจูบพอดี เมื่อเห็นเขาผ่านไปพลันดวงตาแก้มเนียนกลับร้อนผ่าวฉับพลัน สมองสั่งให้รีบตามเขาไป เมื่อสมองสั่งดังนั้นมะลิไม่รอช้าขยับเท้าก้าวตามเพื่อคิดบัญชีแค้น
“นี่” มะลิตะโกนไล่หลังนักจารกรรมตัวฉกาจ เรื่องระหว่างเธอกับเขาควรได้รับการสะสาง รู้สึกตัวเองเสียหายอย่างมากอะไรคนไม่รู้จักกันจู่ๆ มาจูบอย่างกับเป็นแฟนที่พลัดพราก “นี่คุณฉันบอกให้หยุดได้ยินไหมหูหนวกหรือไง” ทั้งร้องทั้งเรียกเขายังไม่ยอมหยุด มะลิใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดกระโจนขวางหน้านักจารกรรม กระชากข้อมือเขาไว้ขณะรู้สึกเหนื่อยราวกับวิ่งมาสักสิบกิโลเมตร
ร่างสูงยุติการเดินด้วนท่าทีไม่รู้หนาวรู้ร้อน ต้องรีบทำไมในเมื่อเขาเห็นเธอตั้งแต่นั่งอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม ที่ไม่อยากหันไปมองเพราะต้องการล่อหลอกให้เธอตามเขามาต่างหาก ตอนนี้เธอตามมาจริงตามคาด หนำซ้ำมาจนถึงลานจอดรถซะด้วย ง่ายดายแค่ไหนถ้าคิดจะกระชากคนสวยหวานยัดเข้าไปในรถ แม้ตอนนี้สายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา เปี่ยมไปด้วยคำถามรั้งเขาไว้ไม่ให้จัดการกับเธออย่างใจคิด
“ไง...ตามผมขนาดนี้แสดงว่าติดใจจูบผมมากสิ” เขาส่งคำถามหยามเหยียดเกียรติสาวไทยอย่างสุดทน
“ติดใจอย่างนั้นหรือ ฉัน...คุณไม่เคยรู้จักกัน แต่สิ่งที่คุณทำกับฉันเป็นการอนาจารล่วงละเมิดอย่างร้ายกาจ”
“งั้นหรือถ้าอย่างนั้นคุณจะเอายังไง” ท่าทีชายหนุ่มไม่เดือดร้อนกับคำกล่าวหาของหญิงสาว ขนกายเขาไม่กระดิกสักเส้นด้วยซ้ำ หรือถ้าหากเธอต้องการเรียกร้องค่าเสียหายตามกฎหมาย เขาไม่มั่นใจนักฝรั่งเศสมีกฎหมายรองรับหรือไม่
“เอ่อ...เอ่อ...” มะลิรู้สึกตอนนี้สมองที่เคยชาญฉลาดโง่ไปถนัด เมื่ออยู่ต่างแดนถ้าอยู่เมืองไทยเธอคงได้ลากคอหมอนี่ขึ้นโรงพักจ่ายค่าทำขวัญหรือไม่สั่งสอนให้เขานอนคุกตากยุงสักวันสองวัน
“หืม...” เขาไหวไหล่ ยักคิ้ว ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ที่หญิงสาวตามมาหาเรื่อง แต่ก็พอรู้ความรู้สึกของเธออยู่บ้าง ที่ถูกเขาขโมยจูบทั้งที่ยังแปลกหน้าต่อกัน แต่ถ้าเป็นคนแปลกหน้าเช่นเขา ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาจูบเธออย่างเร่าร้อนขนาดนั้น อาดิลทระนงเข้าข้างตัวเอง ถือว่าตัวเองเยี่ยม นับเป็นโชคของผู้หญิงที่เขาเลือกแตะต้อง ผู้หญิงคนนี้ที่สร้างกระแสปั่นป่วยไว้กับเขามีอย่างที่ไหน เขารู้สึกมากมายกับเธอในที่ไม่ควรแบบนี้
ระหว่างการต่อรองใบหน้าหล่อกระชากหัวใจโน้มลงไปหามะลิกลิ่นกายที่เคยคุ้นเคยสอดแทรกเข้าสู่ประสาทรับกลิ่น เปลี่ยนการทรงตัวที่มั่นกลายเป็นโอนเอน ยิ่งเมื่อใบหน้าคมชิดใกล้เกือบทั้งคู่จุมพิตกันเหมือนตอนในลิฟต์ สติที่ควรอยู่กับตัว เมื่อตั้งมั่นตามมาคิดบัญชีกับพลันค่อยๆจางหายลงทีละน้อย
“ว่ามาสิคุณต้องการอะไร”
เสียงทุ้มเอ่ยแนบชิด เสียงของเขาสามารถปลุกสติเคลิบเคลิ้มของมะลิดีดกลับมาอยู่ที่ตัวฉับพลัน ดวงตากลมโต ที่กำลังปิดลงดีดผึงราวกับเส้นหนังสติ๊ก มะลิบอกตัวเองไม่ควรเผลอไผลกับเสน่ห์หนุ่มอีกเป็นครั้งที่สอง
ฉาด ฉาด แล้วก็ฉาด
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าหล่อสามครั้งติดๆ หน้าอาดิลหันไปตามแรงตบซ้อนๆกัน รู้สึกได้ถึงอาการมึน ก็เพราะมะลิไม่ต้องการเงินค่าทำขวัญหรือค่าเสียหาย ดังนั้นจึงขอตบล้างมือล้างปากล้างความสูญเสียจูบแรกในวัยสาวซะหน่อย
อาดิลตั้งสติจากแรงตบได้รีบสะบัดใบหน้าหันกลับมาเผชิญกับมือตบอันดับหนึ่ง มันน่าส่งไปเป็นมือตบให้ทีมวอลเล่ย์บอล เขายกมือใหญ่ลูบคลำแก้มสองข้างสลับกัน
“กล้าดีเดือดจริงๆ” อาดิลก้าวพรวดเดียวถึงตัวมือตบ คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนทั้งสองข้างรั้งร่างบางเข้าใกล้ตัว ออกแรงเขย่าร่างมะลิจนหัวสั่นหัวคลอน “ถือดียังไงมาทำกับผมแบบนี้”
“ก็แล้วนายถือดียังไงมาจูบฉัน” มะลิท้าทายทำไปแล้วจะกลัวอะไร ถือว่าหายกัน