คำตอบที่เป็นดั่งเส้นแส้พาดลงบนหัวใจให้เลือดอาบนอง ทำเอาวรรณศรถึงกับอ้าปากกว้าง น้ำตาไหลริน ขณะละล่ำละลักเอ่ยถามกลับคืน
“มะ...หมายความ...ว่ายังไง...”
“ทำไมถึงเกิดโง่ขึ้นมาละ” ไบรอันตะคอกด่าดังลั่น ย้ำคำพูดให้วรรณศรต้องร้อง
ไห้โฮมากกว่าเดิม “ผมต้องการหย่ากับคุณ และแต่งงานกับอคิรา”
“ไม่! ฉันไม่หย่า...ฉันรักคุณนะคะไบรอัน ฉันไม่หย่า...”
“แต่ผมไม่ได้รักคุณแล้ว และจะหย่าให้ได้” แต่ละคำที่เค้นออกมาไม่มีถนอมน้ำ
ใจของภรรยาแม้แต่นิดเดียว
“ไบรอัน!”
วรรณศรเรียกสามีด้วยความเสียใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากสามีที่เธอรักมากกว่าชีวิตของตัวเอง และก็ต้องร้องไห้เจ็บหนักกว่าเดิม เมื่อไบรอันยื่นคำขาดว่า
“กำหนดวันหย่ามาเลย ไม่เช่นนั้นผมจะฟ้องหย่ากับคุณ!”
“ไบรอัน!”
วรรณศรตะโกนลั่น และเมื่อเห็นสามีเดินออกจากบ้านโดยไม่สนใจเธอ ก็ตะโกนเรียกตามหลัง
“คุณจะไปไหน คุณไบรอัน”
“ไปไหนก็ได้ที่ไม่มีคุณ รู้เอาไว้ด้วยว่าผมเบื่อคุณจวนจะอาเจียนเต็มทนแล้ว”
ไบรอันตะโกนตอบโดยไม่หันมามองหน้าภรรยา ไม่สนใจภรรยาที่ยังคงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นพรม
“ไบรอัน...”
วรรณศรครางเรียกสามีด้วยใบหน้าที่นองด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากยังคงมีเลือดแห้งกรังและบวมเจ่อจากพิษฝ่ามือของสามีที่เธอรักหนักหนา
และเมื่อเหลือบสายตาเห็นรูปภาพของผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุของความแตกแยกระหว่างเธอกับสามี ซึ่งตกอยู่บนพื้น ก็เค้นเสียงห้วนเพราะความเคียดแค้น
“เพราะมึง! เพราะมึงคนเดียวทำให้ครอบครัวของกูต้องเป็นแบบนี้ กูจะไม่เก็บมึงไว้ให้เป็นมารหัวใจแน่ นังอคิรา”
วรรณศรคว้ารูปภาพของอคิรามาขย้ำเป็นก้อนกลม บางภาพที่มีภาพของไบรอันคู่กับอคิรา ก็ฉีกทิ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยความโกรธจัด กระทั่งไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ที่แล่นมาจอดอยู่หน้าบ้าน และไม่รับรู้ถึงการมาถึงของผู้เป็นพี่ชาย
‘ธิติ ไคลน์’ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมห้าดาวและคาสิโนในลาสเวกัส และเป็นพี่ชายของวรรณศร ได้รับข้อความจากน้องสาวว่าไม่ค่อยสบาย จึงรีบมาหาน้องสาวในทันทีที่จัดการเคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว
แต่กว่าจะขับรถฝ่าด่านรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ ก็มาถึงคฤหาสน์ของน้องสาวที่อยู่ชานเมืองเป็นเวลาสามทุ่มกว่า
“สามทุ่มเกือบสี่ทุ่มแล้ว ศรจะรอกินข้าวกับพี่หรือเปล่านะ”
ธิติบ่นอุบด้วยความเป็นกังวลขณะหลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนแพง ตอนที่อ่านข้อความและรับโทรศัพท์จากน้องสาว เขาสัญญาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับเธอด้วย แต่เพราะการจราจรที่ไม่เป็นใจ ทำให้เขามาถึงบ้านของน้องสาวล่าช้า จึงเกรงว่าน้องสาวอาจจะหิวข้าวจนทนรอไม่ไหวและรับประทานมื้อค่ำไปก่อนแล้วก็ได้
“ศรคงโกรธแน่ๆ ที่เราผิดนัดเกือบหนึ่งชั่วโมง” ธิติยังคงบ่นไม่เลิก สีหน้าติดกังวลขณะก้าวเท้าลงจากรถ
หลังจากบุพการีหมดอายุขัยแล้ว ชายหนุ่มก็เหลือน้องสาวเพียงคนเดียว ซึ่งเขาทั้งรักและเป็นห่วงวรรณศรมาก แม้วรรณศรจะออกเรือนแต่งงานไปแล้ว แต่ก็ยังแวะเวียนมาหาน้องสาวไม่มีขาด และไม่ว่าวรรณศรต้องการอะไร แค่เพียงให้บอก เขาก็พร้อมทำตามความต้องการของน้องสาวทุกอย่าง
แน่นอนว่า คฤหาสน์หลังงามมูลค่านับสิบล้านแห่งนี้ เขาก็เป็นคนสร้างให้กับน้องสาว เพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานกับไบรอัน
และด้วยเป็นห่วงน้องสาว พอก้าวลงจากรถยนต์แล้ว ธิติก็เดินเร็วๆ เข้ามาภาย
ในคฤหาสน์หรู กำลังจะตะโกนเรียกน้องสาว แต่แล้วก็ต้องชะงักงัน เมื่อสายตามองปะ
ทะกับร่างบางของวรรณศร ที่นั่งอยู่บนพื้นพรมและมีเสียงสะอื้นร่ำไห้เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินด้วย
“ศร...เกิดอะไรขึ้น ร้องไห้ทำไม”
ธิติรีบเข้าไปประคองร่างบางของน้องสาว และเมื่อวรรณศรเงยหน้าอันนองด้วยน้ำตาขึ้นมอง ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ กัดฟันกรอดกับสภาพขอบตาที่บวมแดงก่ำ ซ้ำร้ายตรงมุมปากยังบวมเจ่อมีเลือดแห้งกรังติดอยู่ด้วย
“พี่ธิ...” วรรณศรเงยหน้ามองพี่ชาย เอ่ยเรียกได้เพียงเท่านั้นก่อนจะร้องไห้โฮเสียงดัง สวมกอดพี่ชายไว้แน่น
“บ้าชะมัด! ทำไมมีเลือดตรงมุมปาก ไอ้ไบรอันมันทำร้ายศรใช่ไหม”
ธิติถามเสียงดัง กัดฟันแน่นด้วยความเจ็บใจ แม้วรรณศรยังไม่ตอบ แต่เขาก็มั่น
ใจว่ารอยฝ่ามือที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของน้องสาวเป็นฝีมือของสามีเธอ
แม้ไม่อยากบอกความจริงกับพี่ชาย แต่วรรณศรก็รู้ว่าไม่มีทางปิดบังได้ จึงพยักหน้ารับทั้งน้ำตานองใบหน้า
“ไบรอัน...ตบ...ตบหน้าศรค่ะ”
“นรก! ไอ้ไบรอัน มันได้เจอกับพี่แน่”
ธิติสบถลั่นสีหน้าถมึงทึงดวงตาลุกวาวน่ากลัว ขณะเค้นเสียงถึงน้องเขยที่ลงไม้ลงมือกับน้องสาวของเขา
“พี่ธิ...พี่ต้องช่วยศรนะคะ”
วรรณศรอ้อนวอนเสียงปนสะอื้น ดวงตาทั้งคู่นอกจากบวมเป่งแดงก่ำแล้วยังมีน้ำตาไม่ขาดสาย
“พี่ช่วยศรแน่ แต่หลังจากพี่ทำแผลให้ศรแล้ว”
เอ่ยรับคำแล้วธิติก็ประคองน้องสาวให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะพาไปนั่งบนโซฟา แล้วเอ่ยบอกแกมออกคำสั่งไปในตัว
“ศรรอพี่ก่อนนะ พี่จะไปเอาชุดปฐมพยาบาลมาทำแผลให้ศร”
“ไม่ค่ะ ไม่ต้องค่ะ” วรรณศรจับยึดต้นแขนของพี่ชายไว้ พลางละล่ำละลักเอ่ยขอร้องต่อ “พี่ธิต้องรับปากกับศรว่าจะช่วยแก้แค้นกับคนที่ทำให้ศรต้องเป็นแบบนี้”
ธิติทรุดกายลงนั่งใกล้กับน้องสาว ขณะเอ่ยตอบด้วยความเจ็บแค้นไม่แพ้กัน
“ศรไม่ต้องห่วง ไอ้ไบรอันมันจะได้รับบทเรียนจากพี่แน่”
แน่นอนว่าธิติไม่ปล่อยให้ไบรอันได้ทำร้ายน้องสาวของเขาแค่ฝ่ายเดียว ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีฐานะเป็นสามี แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาตบตีภรรยาเช่นนี้