ตอนที่ 1 สามพันห้า

1109 Words
ตอนที่ 1 สามพันห้า ทันทีที่รถตู้ยุโรปสีดำเลี้ยวผ่านซุ้มประตูอย่างใหญ่ เพลินตาซึ่งนั่งชิดกระจกด้านซ้ายถึงกับต้องเปลี่ยนความคิด หลายวันก่อนเธอด่ายัยเหมียวว่าหัวอ่อน ที่หลวมตัวสมัครงานในเว็บไซต์ ทั้งที่ค่าแรงมันไม่สัมพันธ์กับตำแหน่งงาน ความจริงเธอคิดว่านี่คงเป็นมิจฉาชีพหลอกกรอกข้อมูลส่วนตัวแน่ๆ เพียงแต่เธอคิดผิด เพราะหลังจากเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ตามนัดเมื่อสองวันก่อน มันกลับมีตึกสำนักงานอยู่จริง วันนี้เป็นการสอบสัมภาษณ์รอบสอง นอกจากเพลินตา ในรถตู้ยังนั่งไว้ด้วหญิงสาวที่สอบผ่านอีกแปดคน แต่น่าเสียดาย ยัยเหมียวของเธอกลับไม่ผ่านเข้ารอบมาพร้อมกัน “…” ขณะชมดูทิวทัศน์ยามรถเคลื่อนตัว พลันได้ยินเสียงซุบซิบดังขึ้น “นี่ๆ ฉันจำได้แล้ว! โรงบาลเซนต์บลัด มันอยู่ในเครือของตระกูลวัชโรกุล” ถึงจะไม่ได้สนใจ แต่เพลินตาก็ได้ยินบทสนทนา แม้เธอไม่เคยเหยียบเข้าไปใช้บริการโรงพยาบาลนี้ แต่ด้วยชื่อเสียงและสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ เธอเองก็เลยรู้จักเช่นกัน “ฉันก็ว่าแล้วทำไมค่าจ้างสูงนัก ที่แท้ก็เป็นแม่บ้านของคนในตระกูลนี้” เพราะวันก่อนตอนสอบสัมภาษณ์ ตึกที่คนทั้งหมดไปตั้งอยู่ในเขตของโรงบาลเซนต์บลัด หญิงสาวที่นั่งคุยกันอยู่ด้านหลังรถตู้ก็เลยจับมาเชื่อมโยงกัน เพลินตาไม่รู้จักเครือตระกูลวัชโรกุลคืออะไร แต่ก็พอจะคุ้นๆ กับนามสกุลนี้อยู่บ้าง ขณะนึกดูว่าเคยได้ยินมาจากไหน รถตู้ที่ทั้งหมดนั่งมาก็จอดพอดี นี่เป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ เพลินตากับพวกถูกผู้คนชักจูงให้เดินไปยังห้องโถงรับรองทันที “พวกหนูนั่งรอก่อนนะ คุณหญิงท่านยังไม่มา” คุณหญิง? เพลินตาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังซ้ายสุด พอฟังถึงกับเลิกคิ้ว เพราะปกติคำเรียกหาคุณหญิงนอกจากเคยได้ยินในละครโทรทัศน์กับพูดประชดประชัน เธอยังไม่เคยเห็นคนในชีวิตประจำวันรอบตัวเรียกกัน ชายสูงวัยในชุดสูทสีดำพูดจบก็จากไป แต่ไม่นานก็มีหญิงกลางคนในชุดสูทกระโปรงสีเดียวกันเดินมา ถึงตอนนี้หญิงสาวทั้งหมดค่อยรู้ว่า ที่แท้คุณนายที่ชายแก่เอ่ยถึงเมื่อครู่จะเป็นคนสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ห้องโถงใหญ่แอร์เย็นเฉียบ ครู่หนึ่งเพลินตาค่อยสังเกตว่าหญิงสาวที่มาพร้อมเธอแต่ละคนล้วนมีรูปร่างหน้าตาดี เพลินตาคิดในใจ “นี่จะรับสมัครแม่บ้านหรือคัดเลือกพริตตี้มอเตอร์โชว์” “…” สมัยก่อนเจ้านายในโชว์รูมที่เธอทำงานอยู่ก็เคยแนะนำให้เธอทำอาชีพนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็ไม่เคยตกปากรับคำเขาสักที เนื่องจากตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงเข้ามาในบ้านทรงยุโรป บรรยากาศผู้ดีและบุคลากรต่างๆ ล้วนทำให้หญิงสาวทั้งหมดไม่กล้าเสียมารยาท ดังนั้นขณะที่ทุกคนนั่งรอคอยจึงไม่มีใครกล้าพูดคุยกระซิบกระซาบ เพราะต่างก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรผิดพลาดและเสียงานนี้ไป ชั่วโมงละตั้งสามพันห้า ต่อให้เป็นแค่แม่บ้านปัดกวาดเช็ดถู ใครบ้างล่ะจะไม่อยากทำ กระทั่งผ่านไปสี่สิบนาที “คนที่นั่งอยู่ขวามือสุดยืนขึ้นเลยครับ ตามผมมา” ชายหนุ่มสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเรียกหญิงสาวให้เดินตามเขาออกไป ใช้เวลาราวคนละสิบห้านาที กว่าจะถึงคิวของเพลินตาก็เกือบสองชั่วโมง เมื่อชายหนุ่มคนเดิมเรียกเธอให้ตามเขาไปยังห้องบนชั้นสอง ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดี ภายในห้อง นี่เหมือนห้องทำงานขนาดใหญ่ บนโต๊ะจัดวางเอกสาร เพลินตาพอมาถึงก็พบกับคุณป้าท่าทางดูใจดี ซึ่งอีกฝ่ายกำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารบางอย่างบนโต๊ะทำงาน “…” “คนสุดท้ายแล้วครับคุณหญิง” ชายหนุ่มพูดจบก็โค้งศีรษะหมุนตัวกลับ ขณะออกจากห้องยังไม่ลืมปิดประตูอย่างเบามือ เพลินตามึนงง นี่ไม่เหมือนกับการสัมภาษณ์งาน “นั่งก่อนสิ ตรงนั้นมีข้าวกล่องที่ฉันสั่งมาเผื่ออยู่” มุมหนึ่งของห้องมีโซฟา หญิงสาวราวกับสมองเอ๋อไปชั่วขณะ ยังไม่ทันแนะนำตัวหรือถูกซักถามอะไร ก็ถูกบอกให้หยิบข้าวกล่องขึ้นมากิน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้กินข้าวในห้องสัมภาษณ์งาน แต่ก้นของเพลินตาตอนนี้เหมือนมีเข็มร้อนๆ ทิ่มแทงนับร้อย จะกินก็ไม่กล้า จะไม่กินก็ไม่กล้า เพียงแต่... การมาสัมภาษณ์งานครั้งนี้เธอไม่มีอะไรจะเสีย เพราะไม่ได้คาดหวังแต่ต้น อีกอย่างท้องเธอก็เริ่มรู้สึกแสบนิดๆ นั่นเพราะเธอยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย อย่างรวดเร็ว หญิงสาวเอ่ยขออนุญาตนะคะ จากนั่นนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับหยิบข้าวกล่องสีขาวดูเรียบง่ายที่มีขายในร้านอาหารตามสั่งทั่วไป พอเปิดออก เธอก็เห็นเป็นข้าวผัดธรรมดา แต่ก็ยังมีหางกุ้งโผล่มาให้เห็นสองตัว เนื่องจากคุณป้าซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานก็กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่ เธอจึงไม่รอช้า ใช้ช้อนพลาสติกที่แถมมาตักเข้าปากทันที ภายในห้องเงียบมาก แต่ก็ยังปรากฏเสียงริมฝีปากแผ่วเบา “…” ครึ่งชั่วโมงต่อมา “ถ้าเธอคิดว่าทำได้ ฉันก็พร้อมจะจ่ายชั่วโมงละสามพันห้า” “คะ คะ ค่ะ! คุณว่าอะไรนะคะ!” เพลินตาตกใจแทบฉี่ราด เธอคิดว่าตัวเองฟังผิดเลยเอ่ยถามอีกครั้ง ก็ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวว่า “ได้ยินไม่ชัดหรือ? ฉันบอกว่า ถ้าเธอยั่วลูกชายฉันให้มีเซ็กส์กับเธอได้ ฉันก็พร้อมจะจ่ายค่าจ้างให้เธอชั่วโมงละสามพันห้า” “ทำงานแบบฟูลไทม์ยี่สิบสี่ชั่วโมง คิดแล้วก็ตกวันละแปดหมื่นสี่ เดือนละสองล้านห้า” คุณป้าใจดีเอ่ยสีหน้าเรียบเฉย ผิดกับเพลินตาที่นั่งหนีบเข่า ขาสั่นมือสั่น แม้แต่แก้มสองข้างก็เห่อร้อน สมองราวกับถูกค้อนปอนด์ทุบ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับได้ยินคุณป้าใจดีพูดอีกว่า “แต่ถ้าลูกชายฉันยังไม่ได้มีเซ็กส์กับเธอ ฉันจะจ่ายเดือนละสามหมื่น จนกว่าเธอจะหาทางทำให้เขาขึ้นเตียงกับเธอได้ เมื่อนั้นฉันจะจ่ายค่าจ้างชั่วโมงละสามพันห้าตามตกลง” ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD