บทนำ
หลังเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ ถนนหนทางในเมืองที่เคยโล่งโปร่งก็กลับมาเคลื่อนตัวลำบาก เพลินตาในชุดกระโปรงทรงเอสวมส้นสูงพร้อมกับเสื้อคอปกติดกระดุมมิดชิดเดินออกจากตึกบริษัทแห่งหนึ่ง
ปีใหม่ปีนี้เธอไม่ได้กลับบ้านเกิดต่างจังหวัด นั่นเพราะเธอตกงานมาสามเดือนกว่าแล้ว อย่างเช่นวันนี้ หลังจากสัมภาษณ์งาน เพลินตาก็ใช้ขาเรียวยาวของตนเดินไปตามฟุตบาท เธอไม่คิดแม้กระทั่งจะเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถโดยสารประจำทาง เนื่องจากเธอกำลังถังแตก แตกถึงขั้นเหลือเงินติดตัวอยู่แค่ร้อยเดียว “…”
จู่ๆ มีเสียงเตือนข้อความแอปพลิเคชันแชตมือถือที่ยัดไว้ในกระเป๋าดังขึ้น เพลินตาขณะจะก้าวเท้าข้ามทางม้าลายรีบหยิบออกมาดู
หน้าโปรไฟล์ของเธอเป็นรูปถ่ายสมัยเรียนจบใหม่ ตอนที่ทำงานเป็นเซลล์ขายรถประจำโชว์รูมยี่ห้อดัง พร้อมกับเขียนแคปชั่น “ขายรถไม่ขายตัว” หญิงสาวจิ้มหน้าจอ ที่แท้เป็นเพื่อนสนิททักมา
เหมียว : แกรรร ฉันไปเจองานมา เขาจ้างชั่วโมงละตั้งสามพันห้า!!! (สติกเกอร์ตกใจ)
เพลินตาอ่านข้อความพลันส้นสูงสะดุดขอบฟุตบาทหน้าทิ่ม รถหรูที่จะขับผ่านทางม้าลายต้องเบรกจนคนขับตัวโก่งบีบแตรดังลั่น
“ข้ามถนนยังจะเล่นโทรศัพท์ อยากไปหาพ่อมึงที่โลกหน้าเหรอ!”
ชายกลางคนซึ่งนั่งในตำแหน่งคนขับเลื่อนกระจกพร้อมกับด่าสุดเสียง ก่อนเพลินตาจะลุกขึ้นจากถนนเอ่ยขอโทษขอโพย
ไม่นานรถคันดังกล่าวก็จากไป โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าที่เบาะด้านหลังมีดวงตาปริศนาคู่หนึ่งจ้องมองเธอขณะสนทนากับลูกน้องเขา มองผ่านกระจกหลังชายหนุ่มพอเห็นเธอยังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือพลางเดินไปด้วยก็ยกยิ้ม ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับมีเสียงจากคนขับเอ่ยขึ้นว่า
“ดีนะเป็นสาวสวย ถ้าเป็นมนุษย์ป้าผมจะด่าให้เสียหมาเลยลูกพี่”
“อืม สวยอยู่” ชายหนุ่มรับคำ ก่อนจะก้มหน้าลงเขี่ยโทรศัพท์ของตัวเองราวกับไม่มีเรื่องราวใด
ทางด้านเพลินตา
“โอ๊ยแก ในเว็บไซต์ก็บอกอยู่ว่าเป็นตำแหน่งแม่บ้าน” ปลายสายเอ่ย
“แม่บ้านชั่วโมงละสามพันห้า ยัยเหมียวนี่มันเยอะกว่าค่าแรงขั้นต่ำสิบเท่า แกไปกรอกข้อมูลส่วนตัวมั่วซั่ว เดี๋ยวก็โดนแก๊งคอลเซนเตอร์โทรมาหลอกดูดเงิน”
ระหว่างเดินกลับหอพัก เพลินตาก็โทรคุยกับสหายสาวไปด้วย เหมียวหรือชื่อเล่นเต็มเหมียวเหมียวเป็นรูมเมตกับเธอมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา เรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุงกันดี เพียงแต่ช่วงนี้ทั้งคู่ตกงาน เพลินตาต้องส่งน้องเรียนสามคน ส่วนเหมียวไม่ต้องส่งอะไร แต่ก็ไม่เคยเหลือเงินเก็บ เพราะเอาไปเสียให้กับผู้ชายที่นางไปตามติดพัน “…”
จนกระทั่งกลับถึงหอพัก นี่เป็นอพาร์ตเมนต์สี่ชั้น ห้องของทั้งคู่อยู่ชั้นสอง เพลินตาแตะคีย์การ์ดเดินขึ้นบันได เลี้ยวขวาตรงไปนิดหน่อย คิดไม่ถึงคนยังไม่ทันเสียบกุญแจ ประตูห้องก็ถูกคนด้านในเปิดออกมา
“เพลิน ยังไงแกก็ต้องไปสัมภาษณ์งานนี้กับฉัน!”
“ฉันสมัครให้แกแล้ว!”
เหมียวเอ่ยพร้อมกับดึงแขนเพลินตาเข้าห้อง ก่อนจะชี้ให้อีกฝ่ายดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งปรากฏอีเมลตอบกลับของผู้ว่าจ้าง
สมัครยังไม่ถึงชั่วโมงก็นัดสัมภาษณ์! เพลินตาแทบเป็นลมล้มฟุบ นี่มันมิจฉาชีพชัดๆ จะโทษก็ได้แต่โทษว่าตัวเองดันคบเพื่อนโง่คนนี้มาหลายปี ภายในห้อง ยามนี้เกิดสงคราม เพลินตาสวมวิญญาณแม่เสือสาวทั้งจิกเอวและบิดหู ดุด่าเพื่อนสาวว่าไม่แหกตาดูเหรอ ว่าค่าแรงกับตำแหน่งมันสวนทางกัน แว่วๆ ได้ยินเสียงเหมียวเหมียวร้องโอ๊ยพร้อมกับเถียงว่า
“อาจจะเป็นแม่บ้านของสุลต่านก็ได้”
***