“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณคิน เช้านี้อยากทานอะไรคะ ป้าทำข้าวต้มกุ้งกับไก่ทอด ผัดคะน้าหมูกรอบของโปรดคุณคิน ถ้าคุณคินจะทาน ป้าจะเจียวไข่ร้อนๆ โปะบนข้าวสวยให้ค่ะ” ป้าบัวทักทายเจ้านายจบก็ไม่เว้นวรรคให้ภาคินได้ตอบกลับเลย
“เอาเป็นข้าวต้มกุ้งแล้วกันครับ ที่เหลือเดี๋ยวผมทานเป็นมื้อเที่ยง แล้วเช้านี้มีผลไม้อะไรบ้างไหมครับ”
“มีค่ะ มีแก้วมังกรกับแคนตาลูปค่ะ รับพร้อมกันเลยไหมคะ ป้าจะหั่นไปเสิร์ฟ”
“ผมกินที่นี่แหละ ตักมาเลยครับ” พูดจบเขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม... ตัวที่คุ้นๆ ว่าเมื่อคืนก็นั่ง แต่ไม่ได้นั่งคนเดียวนะ
“ได้ค่ะ รอแป๊บเดียวค่ะ” ป้าบัวตอบรับ แปลกใจหน่อยๆ ที่เขานั่งทานอาหารเช้าในห้องครัว เพราะด้านนอกก็มีโต๊ะทานอาหารตัวใหญ่ที่เขานั่งประจำ แต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรมาก
“แม่กลับบ้านวันนี้หรือเปล่าป้าบัว” ระหว่างรอ เขาก็ถามถึงพิมลวรรณผู้เป็นแม่ ส่วนตานั้นอ่านข่าวในโทรศัพท์มือถือ
“วันนี้ค่ะคุณคิน แต่ไม่ได้บอกว่าตอนไหน ถ้าจะให้ป้าเดานะคะ เย็นๆ ตามสไตล์ค่ะ”
“ถูกของป้า ไปทริปทำบุญกับเพื่อนทีไร ทำบุญสองชั่วโมง ที่เหลือแวะเที่ยวระหว่างทาง” ภาคินหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดถึงนิสัยของแม่ อายุขึ้นต้นด้วยเลขห้า ไม่ได้ทำให้แม่ซ่าน้อยลงเลย มีแต่เที่ยวกับเข้าออกร้านเสริมความงาม
“ข้าวต้มค่ะ เดี๋ยวป้าเอาผลไม้มาเสิร์ฟนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ภาคินวางตาจากโทรศัพท์ หนึ่งในข้อดีของการมีแม่ครัวอยู่ติดบ้าน คือเช้ามาคุณจะมีอาหารน่าทานเสมอ และไม่ต้องคิดด้วยว่าเช้านี้จะกินอะไรดี แต่พอเหลือบตามองนาฬิกา เห็นว่านี่เกือบจะเก้าโมงแล้ว ใครบางคนยังไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นเลย
“หลานป้าบัวไปไหนล่ะครับ”
“ออกไปข้างนอกค่ะ เห็นว่ามีนัดเลี้ยงสายรหัสกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไปตั้งแต่แปดโมงแล้วค่ะ บอกว่าเที่ยงๆ จะกลับ ว่าแต่... สายรหัสมันคืออะไรเหรอคะคุณคิน ป้าฟังแล้วก็งงๆ”
“สายรหัส คือคนที่มีเลขประจำตัวสองหรือสามตัวสุดท้ายของรหัสนักศึกษาในแต่ละปีเหมือนกันครับ”
“แล้วเค้ามีไว้ทำไมคะ”
“ก็... เอาไว้ในห้องปีหนึ่งอุ่นใจว่ารุ่นพี่คอยดูแล เป็นที่ปรึกษาเรื่องเรียน อะไรประมาณนี้ครับ”
“อ๋อ ป้าก็งงตั้งนาน รู้จักแต่หวยสองตัวท้าย สามตัวตรงค่ะ”
“ครับ” เขาตอบเรียบๆ ตักข้าวต้มรสชาติดีเข้าปาก แต่ใจยังคงคิดถึงนวินดา ไม่รู้ว่าขอเพื่อนเลื่อนนัดมาเป็นช่วงเช้าเพราะไม่อยากผิดนัดเขา หรืออีกฝ่ายเป็นคนเลื่อน แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ เขาไม่เสียประโยชน์อะไรอยู่แล้ว
เที่ยงครึ่ง...
ภาคินยกคอมพิวเตอร์มาดูอะไรเรื่อยเปื่อยที่สวนหน้าบ้าน โชคดีที่วันนี้อากาศเป็นใจ ครึ้มฟ้าครึ้มฝน แดดไม่ร้อน เหมาะเจาะกับการนั่งรอใครบางคนกลับบ้าน
“วิว...” เสียงต่ำเรียกนวินดาที่เปิดประตูเล็กเข้ามา แต่ไม่ได้สังเกตว่าเขานั่งมองอยู่
“คุณคิน!” เขานี่นะ... ชอบทำให้เธอตกใจอยู่เรื่อย
“ไปไหนมา”
“ไปกินข้าวกับสายรหัสมาค่ะ”
“ไปยังไง”
“เพื่อนมารับค่ะ”
“แล้วใครมาส่ง” เขาถามเหมือนตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ร้าย ดูสิว่าจะโกหกหรือเปล่า เพราะได้ยินเสียงรถจอดอยู่หน้าบ้าน ก่อนเธอจะเดินเข้ามา
“เพื่อนมาส่งค่ะ”
“เพื่อนชื่ออะไร”
“ชื่อต้นค่ะ”
“ต้น?” เขาจำชื่อนี้ได้แม่น คนที่โทร.มาหาเธอเมื่อคืน
“ค่ะ” นวินดาตอบสั้นๆ แม้จะอยู่ห่างเขาหลายเมตร แต่ก็พอมองเห็นว่าเขามีสายตาไม่พอใจ และนั่นทำให้เธอแอบดีใจ เข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังหึง และเขายังพรวดพราดลุกจากเก้าอี้ในสวนอย่างรวดเร็ว
“ฉันลืมของไว้บนโต๊ะ... บ่ายโมงตรง เอาไปให้ฉันที่ห้องทำงานด้วย”
“ค่ะ...” เธอเก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ แค่เขายืนห่างๆ เอ่ยคำพูดที่เข้าใจกันเพียงสองคน แค่นี้ก็ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา ถ้าเขากระซิบบอกเธอใกล้ๆ อย่างที่เคยทำ จะไม่ดีใจจนเป็นลมไปเลยเหรอ
“อ้าว! ถืออะไรมาล่ะวิว” ป้าบัวเห็นบางอย่างติดมือเธอมาด้วย จำได้ว่าตอนออกจากบ้านนั้นไปตัวเปล่า
“คอมพิวเตอร์ของคุณคินค่ะ น่าจะลืมไว้ที่โต๊ะในสวน วิวเลยหยิบติดมือมาด้วย กลัวว่าถ้าฝนตกแล้วมันจะเปียก”
“งั้นก็เอาไปคืนคุณคินเลย”
“ค่ะป้า”
“เดี๋ยวๆ เอาน้ำเย็นๆ ไปเสิร์ฟด้วย”
“ค่ะ” นวินดาไม่รู้จะดีใจดีไหมที่ป้าบัวสนับสนุนให้เธอไปหาภาคิน เพราะหากออกจากห้องนั้นช้าเกินไป ป้าอาจจะสงสัยได้
ก๊อก ก๊อก...
“เข้ามา”
นวินดาชอบใจ... ทุกครั้งหลังเธอเคาะประตู เขาจะตอบกลับมาเป็นคำเดิมๆ คือ ‘เข้ามา’ แต่หลังจากซีรีส์เกาหลีปลอมๆ เป็นเหตุให้เกิดความใกล้ชิด พอเขาตอบกลับว่า ‘เข้ามา’ หน้าก็แดงทันที
“วิวหยิบคอมพ์มาให้คุณคินค่ะ เห็นลืมไว้ที่สวน”
“เดี๋ยวนี้กล้าล้อเลียนฉันเหรอ”
“เปล่านะคะ วิวเข้าใจค่ะ คุณคินอายุเยอะแล้ว อาจจะมีอาการหลงลืมบ้าง”
ภาคินหัวเราะร่า เอาแล้ว ตอนแรกไม่ได้ล้อเลียน แต่ที่บอกว่าแก่เนี่ยล้อเลียนเขาแน่นอน
“อายุสามสิบหกยังไม่เรียกว่าแก่หรอกนะ เรียกว่าอยู่ในวัยที่พร้อมดูแลนักศึกษาสักคน”
“วิวขอเป็นคนนั้นได้ไหมคะ” นวินดาไม่พูดเปล่า เธอเดินไปยืนด้านหลังเก้าอี้ วางมือลงบนไหล่และบีบนวดให้เขาได้ผ่อนคลาย
“เธอเป็นอยู่แล้ววิว” เขาจับมือบางให้เลื่อนมาอยู่บนหน้าอกเขาแทน และเธอก็รู้งาน ลูบไล้เขาผ่านเสื้อช้าๆ หยุดนิ้วโป้งที่ยอดอกเขาบ้าง กดนิ้วลงไปบ้าง ปลุกอารมณ์เสน่หาของเขาเก่งเหลือเกิน
“ป้าบัวรู้ว่าวิวจะเข้ามาที่นี่ ถ้าวิวออกไปช้า ป้าบัวต้องสงสัย”
“ฉันรู้ วันนี้คนในบ้านเดินเผ่นพล่านไปหมด แล้วแม่ฉันก็จะกลับมาแล้วด้วย”
“เสียดายจัง... วิวอยากอยู่กับคุณคินนานๆ” เธอถือวิสาวะหอมแก้มเขา วัดใจกันไปเลยว่าเขายินดีให้เธอใกล้ชิดจริงๆ หรือไม่
“หอมข้างนี้ด้วย”
ผลลัพธ์ก็ดีเกินคาด เขาอยากให้เธอแก้มอีกข้าง...
“หอมตรงนี้ด้วยได้ไหมคะ” ถ้าเขาตอบตกลง ระยะห่างเพียงหนึ่งเซนติเมตรจะหมดไป และเธอจะจูบเขาในทันที
“ไม่ได้” ภาคินปฏิเสธ แต่ก็ดึงเธอมานั่งคร่อม
เขาชอบท่านี้... นอกจากจะได้เห็นหน้าเธอใกล้ๆ หน้าอกหน้าใจยังแนบชิดติดอกแกร่ง และมือก็ได้ลูบคลำสะโพกกลมกลึง เพลินดีเหลือเกิน
“มาทำข้อตกลงกันก่อน”
“ข้อตกลงอะไรคะ?”
“เมื่อวานฉันยังไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเป็นเด็กในปกครองของฉัน นอกจากห้ามขัดคำสั่ง... เธอต้องทำอะไรบ้าง”
“วิวต้องทำอะไรบ้างคะ”
“ห้ามมีแฟน”
“ได้ค่ะ” นวินดาตอบตกลง ไม่ยากเลย เธอไม่อยากมีแฟน หากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด และตอนนี้เขาก็อยู่ห่างเพียงแค่เอื้อม
“ต้องตั้งใจเรียน”
“วิวตั้งใจเรียนอยู่แล้วค่ะ”
“ต้องบอกฉันว่าเธอจะไปไหน ไปทำอะไร ไปกับใคร กลับเมื่อไหร่”
“อ๊ะ!”
“ให้ตอบ ไม่ใช่ให้เสียว” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อครู่แกล้งบีบอกใหญ่เบาๆ ก็สะดุ้งจนลืมตอบคำถามไปเลย
“ถ้าวิวบอกว่าจะไปไหน ไปกับใคร ไปทำอะไร กลับเมื่อไหร่ ต้องรอคำอนุญาตด้วยไหมคะ หรือว่าวิวบอกเฉยๆ แล้วก็ไปได้เลย”
“ไปได้เลย... แต่จะห้าม หากที่ที่เธอจะไปมันไม่เหมาะสม”
“วิวไม่ไปไหนไกลหรอกค่ะ เมื่อคืนก็นอนคิดถึงคุณคิน กว่าจะหลับก็เกือบเช้า”
“ปากหวาน...”
“มั่วหรือเปล่าคะ ต้องชิมก่อนสิคะว่าหวานจริงไหม”
“หึ... ถ้าให้ฉันชิมตอนนี้ ลิปสติกเลอะออกไปข้างนอก ฉันไม่รับผิดชอบนะ”
นวินดาอาย ถูกเขาจับได้ซะแล้วสิว่าปรารถนาในตัวเขาขนาดไหน
“วิว... ไปได้หรือยังคะ”
“ไปได้แล้ว เดี๋ยวป้าบัวสงสัย”
“ค่ะ” เธอไม่อยากไปเลย แต่ก็ต้องบอกตัวเองให้ห้ามใจ แค่นี้ก็น่าเกลียดจะแย่ อยู่บ้านเขา แล้วยังแอบใกล้ชิดกับเขา แต่สำหรับภาคิน เขาชอบการได้เป็นสมภารกินไก่วัด ตื่นเต้นที่ได้หลบๆ ซ่อนๆ ใจมันกระปรี่กระเป่า เพราะหลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น
“อุ๊ย! ลืมบอกค่ะ ป้าบัวชงโกโก้เย็นมาให้”
“เห็นแล้ว” ภาคินหัวเราะเบาๆ เห็นตั้งแต่ถือเข้ามาในห้อง จนตอนนี้น้ำแข็งละลายไปเยอะก็ยังไม่ได้กิน เพราะมัวแต่นั่งชม ‘วิว’ สวยๆ อยู่น่ะสิ
“กฎข้อหนึ่ง... ห้ามมีแฟน”
“กฎข้อสอง... ตั้งใจเรียน”
“กฎข้อสาม... จะไปไหนต้องรายงานคุณคินก่อน”
“กรี๊ด...ด”
นวินดาหยิบหมอนมาปิดหน้า ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียง ไม่รู้จะอธิบายอาการนี้ว่าอะไร มันเขิน มันดีใจ มีความสุขสุดๆ แต่เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ขัดจังหวะความฟินซะงั้น
“วิว มีอะไรให้ดู”
“อะไรอะต้น?”
“รูปที่ถ่ายกับสายรหัส”
“อ๋อ”
รอไม่นานรูปภาพที่ถ่ายวันนี้เมื่อช่วงสายก็ถูกส่งมาให้ โดยที่คนถือกล้องและยอมพลีชีพหน้าใหญ่ในรูปคือ ต้น หรือตะวัน เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีรหัสนักศึกษาสองตัวท้ายเป็นเลขเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสนิทกับเขามากกว่าเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ
“น่าเกลียดมาก! 5555555”
เธอขำ เมื่อภาพสุดท้ายคือรูปเธอกำลังตักเส้นสปาเกตตีเข้าปาก แถมตายังปรือ น่าเกลียดสุดๆ
“มีอีกรูป”
“พอแล้ว ไม่อยากดู ลบทิ้งเลยนะ รูปที่เราไม่สวยอะ”
“งั้นคงต้องลบทุกรูปเลยนะ วิวไม่สวยสักรูป”
“แรงมาก พูดขนาดนี้ด่าเราว่าขี้เหร่เลยดีกว่า”
“พูดเล่น อย่าเพิ่งโมโห วิวอะน่า...”
“น่าเกลียด?”
“น่ารัก”
นวินดาไม่ตอบกลับ ไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือพูดจริง แต่รูปที่เขาส่งมาล่าสุดคือรูปที่เธอเผลอ ไม่ได้เผลอแล้วตาปรือแบบเมื่อกี้ เผลอแบบดูดีจนน่าเอาไปเปลี่ยนเป็นรูปภาพประจำตัวในโซเชียลมีเดียเลย
“ด่าแล้วชม แบบนี้เรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังนะ ไม่ต้องหลอก ไม่เชื่อหรอก”
“วิวน่ารักจริงๆ”
“ขอบใจ ไปละนะ”
นวินดาเลิกคุย เพราะกฎข้อแรกที่ภาคินบอกคือห้ามมีแฟน เพราะฉะนั้นใครทำท่าจะจีบเธอ ไม่ว่าจะจีบจริงๆ หรือจีบเล่นๆ เธอต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
“เย็นนี้มีอะไรกิน”
“คุณคิน...” นวินดายิ้มกว้างอย่างดีใจ เมื่อเห็นข้อความจากภาคิน
“วันนี้ป้าบัวบอกว่าจะทำแกงส้มค่ะ คุณวรรณโทรมาสั่งไว้ว่าอยากทาน”
“อย่างเดียวเหรอ”
“อย่างอื่นไม่รู้ค่ะ บอกตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องรอป้าบัวกลับจากตลาดก่อน”
“แปลว่า... ตอนนี้ที่ห้องครัวไม่มีคนอยู่?”
“ไม่ทราบค่ะ วิวอยู่ในห้องนอน”
“งั้นมาหาที่ครัวหน่อยสิ”
“อีกแล้วเหรอคะ?” นวินดากำลังจะส่งคำถามนี้กลับไป แต่ก็นึกได้ว่า ถ้าอยากเป็นเด็กดีของคุณภาคิน ต้องไม่ขัดใจเขา ตัวจึงลุกจากที่นอน ห่างกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น แต่เธอก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้น... แอบยั่วเขาด้วยการรวบผมมัดไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นต้นคอที่เขาชอบซุกไซร้สักหน่อยก็แล้วกัน
“มาพอดีเลยวิว”
ป้าบัวบอกพร้อมกับวางวัตถุดิบมากมายที่ซื้อมาจากตลาด และวินาทีต่อมา... เจ้าของบ้านอย่างคุณภาคินก็ตามเข้ามาพร้อมกับถุงผักต่างๆ
“ไปช่วยคุณคินถือหน่อยเร็ว”
“ค่ะป้า” นวินดาเดินตรงไปหาเขา ยื่นมือไปรับถุงผัก รักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต แต่เขาก็แกล้งจับมือเธอไว้ไม่ปล่อย
เธอส่งสายดุ แต่โชคดีเข้าข้างภาคิน เพราะป้าบัวซื้อผักมาเยอะเหมือนเหมาตลาดเลยถ่วงเวลาแกล้งเธอให้นานได้อีกหน่อย
“อุ๊ย!”
และเขาก็ยังร้ายกาจ บีบก้นเธอเบาๆ เมื่อหันหลัง
“เป็นอะไรวิว”
“อ๋อ วิวสะดุดเท้าตัวเองค่ะป้า”
“โอ๊ย...ย เดินดีๆ ลูก คุณคินก็ระวังๆ นะคะ แค่ช่วยป้ายกของมาในครัว ป้าก็เกรงใจแล้ว ไปรอข้างนอกดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าทำอาหาร กลิ่นควันจะติดตัว”
“ครับ” ก่อนจากห้องครัว เขาส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้เด็กในปกครอง ได้จับนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี เพราะแผนล่มไม่เป็นท่า เมื่อออกจากห้องทำงานมาเจอป้าบัวกลับจากตลาดพอดี
“เออวิว”
“จ๋าป้า” นวินดาหันไปช่วยป้าบัวเก็บของเข้าตู้เย็น หลังจากภาคินเดินออกจากห้องครัวไปแล้ว
“ช่วงนี้คุณคินเค้างานเยอะเหรอ เห็นเรียกให้ไปช่วยงานบ่อยๆ”
“อ๋อ...” จะตอบยังไงดีล่ะ “คงจะเยอะขึ้นนิดหน่อยมั้งป้า วิวก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ถ้าคุณคินเรียกใช้ก็ไปช่วยงาน เสร็จแล้วก็รีบออกมา เดี๋ยวจะเป็นขี้ปากคนอื่น” ป้าบัวเดินมากระซิบบอกหลานสาวใกล้ๆ กลัวใครมาได้ยินแล้วจะเป็นเรื่อง
“ค่ะป้า”
“เราเป็นแค่คนอาศัย อย่ากินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา เห็นมานักต่อนักแล้วเรื่องเด็กในบ้านได้กับเจ้าของบ้านบ้าง อย่าทำให้คุณวรรณเค้าเสียใจที่ส่งเสียเราเรียนมาหลายปีนะวิว”
นวินดาส่งยิ้มให้ป้าบัวคลายกังวล เข้าใจดีว่าป้าพูดทุกอย่างด้วยความหวังดี แต่ในใจเหมือนถูกมีดคมกรีดช้าๆ ลงลึกจนทรมาน คล้ายจะขาดอากาศหายใจ