EP.7 ละอองฝน...นังลูกชู้
“โหย...น่ากลัวจังค่ะ” สาวใช้ห่อปากห่อไหล่ด้วยความกลัว เพราะเคยเห็นสิทธิชัยเวลาทำร้ายลูกน้อง นับว่าเป็นคนโมโหร้าย มือเท้าหนัก ขนาดผู้ชายโดนกระทืบยังต้องหยอดข้าวต้มไปหลายวัน
“หลังจากนั้นสามปี...คุณเดือนฉายก็ป่วยเป็นโรคหัวใจแล้วก็เสียชีวิต ทิ้งคุณฝนที่มีอายุแค่เพียง 2 ปีไว้เพียงลำพัง ก็ได้พวกฉันกับคนใช้ด้วยกันนี่แหละช่วยกันเลี้ยง เพราะคุณสิทธิชัยแกฝังใจว่าคุณฝนเป็นลูกชู้ไปเสียแล้ว น่าสงสารเหลือเกิน ดูสิส่งเรียนจบแค่มัธยม 6 แล้วไม่ยอมให้เรียนต่อ นี่คุณฝนก็ต้องแอบเรียนมหาวิทยาลัยเปิดเอาเอง” แม่บ้านพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ยิ่งได้ฟังแบบนี้ยิ่งสงสารคุณฝน ตกลงคุณฝนเป็นลูกชู้จริงๆ หรือเปล่าคะป้า”
“ไม่มีใครรู้ ก็คุณฝนหน้าถอดคุณเดือนฉายมาราวกับพิมพ์เดียวกัน ไม่เหมือนคุณสิทธิชัยหรือใครทั้งสิ้น แล้วก็ไม่มีการตรวจดีเอ็นองเอ็นเออะไรนั่นด้วย แล้วคนที่รู้ดีแก่ใจว่าคุณฝนเป็นลูกใครก็ตายไปแล้ว”
“แบบนี้คุณสิทธิชัยน่าจะตรวจดีเอ็นเอคุณฝนนะคะ จะได้สบายใจกันไปเลย” สาวใช้ออกความเห็นที่คิดว่าหากทำแล้วเรื่องราวคงดีขึ้น
“คนมันลองได้เกลียดแล้วต่อให้รู้ว่าเป็นลูกจริงๆ แกว่าคุณสิทธิชัยจะเปลี่ยนมาเป็นรักได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ ในเมื่อคุณฝนหน้าเหมือนคุณเดือนฉายเสียขนาดนั้น แล้วอีกอย่างถ้าตรวจออกมาแล้วพบว่าคุณฝนไม่ใช่ลูกของคุณสิทธิชัย คุณฝนมิโดนไล่ตะเพิดออกจากบ้านหรอกเหรอ ยิ่งไม่มีที่ไปอยู่ด้วย คราวนี้ล่ะซวยกว่าเดิม” แม่บ้านจาระไนออกมาเป็นฉากๆ ถึงความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น
“เกิดเป็นคุณฝนนี่ก็ลำบากเนอะ ฉันล่ะเสียดาย ทั้งสาวทั้งสวยแต่กลับต้องมาทำงานไม่ต่างจากคนใช้ นี่ถ้าไปเป็นดาราต้องดังมากแน่ๆ เลยเนอะป้า”
“มีคนมาขอติดต่อแล้วแต่คุณสิทธิชัยไม่อนุญาต” แม่บ้านดับความฝันสาวใช้ทันที
“เฮ้อ! เซ็งเลย” สาวใช้หน้างอก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ล้างถ้วยจานที่เพิ่งเก็บลงมาจากบนบ้าน พลางคิดไปว่าหากตนเป็นละอองฝนคงหอบเสื้อผ้าหนีไปตายเอาดาบหน้า ไม่ขอยอมอยู่เป็นทาสให้โขกสับใช้งานอยู่แบบนี้แน่ๆ
ละอองฝนหอบผ้าปูที่นอนและผ้าคลุมเตียงที่ใช้แล้วเดินออกมาจากห้องนอนของพี่ชายคนกลางซึ่งอยู่บนชั้นสอง และต้องเดินผ่านห้องโถงเพื่อเดินกลับไปยังเรือนคนใช้ โดยด้านหลังของเรือนคนใช้จะมีลานซักล้างและเครื่องซักผ้าตั้งอยู่
ทว่าเมื่อเดินลงมาถึงห้องโถงหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าบิดานั่งอยู่ ท่านกำลังพูดคุยกับเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับท่านชื่อว่ากำจร
“ใครใช้ให้ขึ้นไปทำอะไรข้างบน”
หญิงสาวสะดุ้งเมื่อบิดาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เธอกำลังจะเดินผ่านไปจึงต้องหันกลับมาแล้วคุกเข่าลงเพื่อคุยกับบิดาซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาราคาแพงเหยียบล้าน
“แม่ใหญ่ให้ขึ้นไปปัดกวาดห้องของพี่วิชญ์กับพี่ภาสค่ะคุณพ่อ”
“งั้นเหรอ เสร็จแล้วก็รีบไปสิ” สิทธิชัยโบกมือไล่อย่างไม่สนใจ บุตรสาวคนเล็กจึงลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“คนเมื่อกี้ใช่หนูละอองฝนลูกสาวแกหรือเปล่าวะไอ้ชัย โตขึ้นแล้วสวยจนฉันแทบจำไม่ได้เลย” เพื่อนสนิทที่เพิ่งตกพุ่มม่าย ภรรยามาด่วนเสียชีวิตไปไม่ถึงปีเอ่ยถามขึ้น สายตาพราวระยับมองตามเด็กสาวไปจนลับตา แสดงชัดว่าถูกตาต้องใจบุตรสาวของเพื่อนสนิทไม่น้อย
“อย่าบอกนะว่าแกชอบฝน” ผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถามขึ้น โดยไม่มีท่าทีหวงแหนบุตรสาวเลยแม้แต่น้อย และไม่เคยเรียกละอองฝนว่าลูกเลยสักครั้ง ซึ่งข้อนี้เพื่อนสนิทอย่างกำจรรู้ดี จึงกล้าเอ่ยถามเชิงชู้สาวกับละอองฝน เพราะรู้ว่าเพื่อนจะไม่โกรธจนตะเพิดออกจากบ้านแน่ๆ
“แหม สวยขนาดนั้น ถ้าฉันจะขอให้หนูละอองฝนไปเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้ฉันสักหน่อย แกจะว่ายังไงวะเพื่อน” เอ่ยถามทีเล่นทีจริง ถ้าได้ก็ส้มหล่น แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว
“ตามใจแกสิ ถ้าจีบติดเด็กมันยอมก็เอาไปเลย ฉันไม่คิดค่าสินสอดสักบาท” สิทธิชัยแทบจะยกให้เลยด้วยซ้ำไป แต่เพราะอยากจะแกล้งเพื่อนรักสักหน่อยจึงต้องสร้างเงื่อนไขว่าต้องจีบติด แต่ถ้าท้ายที่สุดถ้ากำจรจีบไม่ติดเขาก็ตั้งใจจะยกให้เพื่อนอยู่ดี
ส่งละอองฝนออกไปให้พ้นหูพ้นตา เขาอาจจะมีความสุขมากกว่านี้ เพราะที่ต้องทนเห็นหน้าละอองฝนอยู่ทุกวันนี้ เขาก็หงุดหงิดหัวใจจะแย่แล้ว
“แกพูดจริงเหรอวะ ฉันเอาจริงนะโว้ย” ชายวัยห้าสิบห้า พุงพลุ้ยอ้วนพีหัวเราะชอบใจ เมื่อมีท่าทางว่าจะได้เมียเด็กแถมสวยใสน่ารักไปทั้งตัวแบบนั้น
“พูดจริงสิวะ คนอย่างฉันเคยพูดเล่นที่ไหนกัน จีบติดก็เอาไปเลย ฉันยกให้”
กำจรหัวเราะร่าอย่างถูกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะขอตัวไปทำคะแนนกับว่าที่ภรรยาในอนาคตเสียหน่อย สิทธิชัยเปิดทางให้ตามสบาย จะเข้าออกบ้านเขาเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้ เพราะยังไงในอนาคตกำจรก็ต้องขยับจากเพื่อนมาเป็นลูกเขยของเขาอยู่แล้ว
ละอองฝนกำลังแยกชนิดของผ้าเพื่อนำลงปั่นในเครื่องซักผ้า แต่จู่ๆ เสียงไอกระแอมก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นชายสูงอายุรูปร่างอ้วนท้วน เพื่อนของบิดานั่นเอง
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ฝนรับใช้หรือคะ” หญิงสาวเอ่ยถามออกไปในที่สุด เมื่อชายตรงหน้าเอาแต่ยืนมองเธอตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า
“ขอน้ำเย็นๆ ให้ฉันสักแก้วได้มั้ยจ๊ะหนูฝน” กำจรมองหญิงสาวสวมเสื้อยืดตัวโคร่ง กางเกงขาสามส่วนทะมัดทะแมง กระนั้นก็ยังมองเห็นว่าเธอโตเป็นสาวพอตัว เพราะมีส่วนเว้าส่วนโค้งเวลาขยับตัวหรือก้มเงย เสื้อตัวโคร่งก็จะลู่ไปกับทรวดทรงองค์เอวเผยให้ชายสูงวัยลอบมองอย่างกระชุ่มกระชวยหัวใจ ยิ่งเธอถักผมเปียสองข้าง ผมด้านหน้าตัดเป็นหน้าม้าปัดข้าง นวลแก้มใสระเรื่อด้วยเลือดฝาดไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอางทั้งหลายก็ยิ่งทำให้น่ามองอย่างไม่รู้เบื่อ