จับรักพยัคฆา ๒

1687 Words
ขนมนั่งมองแผลเล็กแผลน้อยก็เริ่มลงมือทำแผลให้อย่างดี บางจังหวะที่เอาแอลกอฮอล์เช็ดบนใบหน้าคมเข้มตรงหน้าก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่ยังคงไม่ได้สติ.. “เรามีแผลตรงใดอีกบ่? นอกจากหน้า” (เขามีแผลตรงไหนอีกไหม นอกจากหน้า) ขนมหันไปถามกล้าที่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆ คอยเป็นลูกมือหยิบของให้ “มีตรงท้องคือสิถืกแทงนี่ล่ะ แต่ว่าเลือดหยุดไปแล้ว เบิ่งผ่านๆ แผลบ่ลึกปานใด” (มีตรงท้องเหมือนจะถูกแทงนี่แหละ แต่ว่าเลือดหยุดไหลแล้ว มองผ่านๆ แผลไม่ลึกเท่าไหร่) “มึงคือบ่บอกไวๆ กว่านี้ อันใดมันสำคัญน่ะ” (มึงทำไมไม่บอกเร็วๆ กว่านี้ อันไหนมันสำคัญน่ะ) ขนมทำหน้าเซ็งก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดกระดุมชุดนอนออก.. เผยให้เห็นหน้าอกแกร่งกล้ามท้องแน่นไปด้วยก้อนซิกแพคเรียงตัวอย่างสวยงาม บนคอมีสร้อยตะกรุดและมีรอยสักยันต์บางอย่างบนอกซึ่งเธอก็ไม่รู้จักแต่กลับแฝงความขลัง แผ่กลิ่นอายสเสน่ห์น่าเกรงขาม ขนมจ้องมองแอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ “เซ็ดน้ำลายแหน่คุณหนู” (เช็ดน้ำลายหน่อยคุณหนู) “บักนี่หนิ ว่าบาปกูหลาย” (ไอ้นี่หนิ ว่าบาปกูเกิน) “จ้องเป็นตาย่านหลายฮ้ายเว้ย กะบ่เอาไปนอนกอดโลดเนาะ” (จ้องน่ากลัวเกิน ก็ไม่เอาไปนอนกอดเลยเนอะ) ว่าแล้วก็ทำท่าสะบัดตัวขนลุกขนพอง “ได้บ่ล่ะ?” (ได้ไหมล่ะ) “บ่ได้ดอก คุณตำรวจเราเฒ่าแล้ว เบิ่งในบัตรประชาชนอายุ 30 แล้วเด้ะ” (ไม่ได้หรอกคุณตำรวจเขาแก่แล้ว ดูในบัตรประชาชนอายุ 30 แล้วนะ) “กูมักหลายดั้วะโคแก่เนี้ย อยากลองเคี้ยวของหยาบเบิ่ง สิเหนียวคือหมากฝรั่งบ่” (กูยิ่งชอบเลยวัวแก่เนี้ย อยากลองเคี้ยวของหยาบดู จะเหนียวเหมือนหมากฝรั่งไหม) ขนมทำท่าเลียปากหิวกระหายแกล้งกล้า กล้าถึงกับส่ายหน้าปวดหัว “งั้นกะแล้วแต่คุณหนูเลยครับ หย่ำให้แข่วหักโลด” (งั้นก็ตามใจคุณหนูเลยครับ เคี้ยวให้ฟันหักไปเลย) ขนมใช้เวลาทำแผลราวๆ หนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่แผลไม่ใหญ่มากแต่ก็มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แผลที่ท้องที่กล้าพูดถึงเป็นเพียงการแผลที่ไม่เล็กมากน่าจะถูกคนมีดแบบเฉียดๆ จากนั้นเธอก็กลับไปนอนที่บ้านหลังของตัวเองให้กล้านอนโซฟาเฝ้าเขาเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช้าวันรุ่งขึ้น “ขนม ขนม ขน๊มมมม!!” เสียงเรียกพร้อมเสียงเท้าลากพื้นเพื่อเบรกจักรยานดังมาแต่ไกล ขนมที่กำลังนั่งกินข้าวต้มฝีมือกล้าถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อฝุ่นตลบอบอวลใส่ชามข้าวของเธอ “กูมางึดมึงหลายแท้ ปะสาซ่อมเบรกจักรยานมึงกะบ่ซ่อมเนาะ เป็นฮอดลูกผู้ใหญ่บ้านคือมางกตายมึงแท้” (กูแปลกใจมึงจริง แค่ซ่อมเบรกจักรยานมึงก็ไม่ซ่อมเนอะ เป็นถึงลูกผู้ใหญ่บ้านทำไมงกขนาดนี้) ขนมลุกยืนเท้าเอวบ่นด้วยความอารมณ์เสีย “กูขอโทษได้บ่ล่ะ” (กูขอโทษได้ไหมละ) โครม!!! พูดจบก็ลงจากรถจักรยานทิ้งรถลงกับพื้นไม่ไยดีแล้วเดินมาหาขนมที่โต๊ะม้าหินอ่อน “อย่าบอกนะว่าขาตั้งมึงกะพัง” (อย่าบอกนะว่าขาตั้งมึงก็พัง) “เออ” ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มพยักหน้า “แม่งเอ้ย! กูสิบอกพ่อมึงประกาศให้ชาวบ้านตั้งกองผ้าป่าซ่อมเบรกกับขาตั้งให้มึงดอก” (แม่งเอ้ย กูจะบอกพ่อมึงประกาศให้ชาวบ้านตั้งกองผ้าป่าซ่อมเบรกกับขาตั้งให้มึงหรอก) “ได้กะดีเด้ล่ะ” (ได้ก็ดีนะ) “กูประชด” ขนมนั่งลงด้วยความเซ็ง แม้แต่กล้าที่อยู่ในครัวยังออกมาดูเสียงโหวกเหวกหน้าบ้านก่อนจะส่ายหน้าระอา นั่นแหละพี่ ‘ปลาส้ม’ สไตล์ เพื่อนสนิทที่สุดในหมู่บ้านของคุณหนู “ว่าแต่มึงมีอีหยัง?” (ว่าแต่มึงมีอะไร) “กูสิมาบอกมึงว่ากูสิบ่ออกบ้านอาทิตย์หนึ่งนะ ให้มึงไปเล่นนำกูอยู่บ้าน” (กูจะมาบอกว่ากูจะไม่ออกบ้านหนึ่งอาทิตย์นะ ให้มึงไปเล่นกับกูที่บ้าน) “เอ้า เป็นหยังล่ะ” (อ้าว ทำไมล่ะ) ขนมพูดพร้อมเทน้ำใส่แก้วให้เธอและเพื่อนคนละแก้ว “กูไปเบิ่งดวงกับบักจอห์นมา มันทำนายว่าห้ามออกบ้านอาทิตย์หนึ่งบ่งั้นสิมีอุบัติเหตุ” (กูไปดูดวงกับไอ้จอห์นมา มันทำนายว่าห้ามออกบ้านหนึ่งอาทิตย์ไม่งั้นจะมีอุบัติเหตุ) “จอห์น? ลูกครึ่งไสเขาเบิ่งดวงเป็น” (จอห์น? ลูกครึ่งที่ไหนเขาดูดวงเป็น) “จอห์นที่มาจากจอนฟอนค่ะหนู” (จอห์นที่มาจากพังพอนค่ะหนู) “จอนฟอนที่แปลว่าพังพอนน่ะเหรอ?” “ใช่ค่ะสาว” ปลาส้มพยักหน้ายิ้มแฉ่ง “เหอะๆ” ขนมได้แต่ยิ้มแห้ง แปร๊น แปร๊นน! แปร๊นนนนนน!! เสียงรถมอเตอร์ไซต์เทน่าควันขาวคลุ้งราวกับรถขายปิ้งไก่ขับผ่านเสียงดังคับถนน ทุกคนอุดหูแทบไม่ทันพร้อมทั้งหันไปมองพร้อมกัน “โอ้ว ครูชาร์ล ซิ่งแต่เซ้าแท้น้อบาดหนิ ตื่นสวยสิไปเฮ็ดงานบ่ทันติ๊เนาะ” (โอ้ว ครูชาร์ล ซิ่งแต่เช้าจริงๆ เลย ตื่นสายไปทำงานไม่ทันสินะ) “ชาร์ลหยังอี้กกกบาดหนิ” (ชาร์ลอะไรอีกทีนี้) ขนมมองหน้าปลาส้มแบบเหลืออด แต่ละคำของมันเธอล่ะเหนื่อยจริงๆ “ชาร์ล ชาละวันนี่ล่ะมึง” (ชาร์ล ชาละวันนี่แหละมึง) “มึงสิอินเตอร์ให้ได้เลยแม่นบ่” (มึงจะอินเตอร์ให้ได้เลยใช่ไหม?) “หมู่บ้านเรามันเลิศเนาะ มีแต่ชื่ออินเตอร์” (หมูบ้านเรามันเลิศเนอะ มีแต่ชื่ออินเตอร์) “จ้า!!” ขนมลากเสียงประชด “แต่ถ้าชาละวันเป็นหน้าตาจั่งซั่นกูกะอยากเป็นตะเภาทองอยู่นะ” (แต่ถ้าชาละวันเป็นหน้าตาแบบนั้น กูก็อยากเป็นตะเภาทองอยู่นะ) ขนมยิ้ม เมื่อครู่ครูชาละวันอะไรนั่นมองไกลๆ หล่อใช้ได้ “บ่แรดค่อยเลยหมู่กู” (ไม่ค่อยแรดเลยเพื่อนกู) “แฮ่ม!!” ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกับก็ได้ยินเสียงกระแอมของร่างสูงอยู่บนบ้าน เขาเพียงส่งสัญญาณให้ทั้งสองรับรู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ ใบหน้าหล่อตื่นมาด้วยผมชี้ฟูแต่ใบหน้าคมเข้มไม่ลดความหล่อลงเลยแม้แต่น้อย เลื่อนลงมาข้างล่างหน้าอกเปลือยเปล่าโชว์กล้ามทองเซ็กซี่ที่มีบาดแผลประปราย ยืนเท้าแขนบนราวระเบียงด้วยท่าทางเท่ยังกับนายแบบคนดัง “...” ขนมยกมือมาปิดตาปลาส้มที่น้ำลายยืดไว้ พร้อมกับโบกมือให้คนตัวสูงเข้าไปสวมเสื้อ “ไม่มี” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบเฉย “บักกล้า! เอาเสื้อให้สารวัตรดุ๊” ขนมตะโกนสั่งกล้าที่อยู่ในครัว เมื่อได้ยินเขาก็รีบวิ่งออกมาแล้วเข้าไปหยิบเสื้อตัวเองในบ้านให้คนตัวสูงกว่าเขาตรงหน้าก่อนจะลงมาทำกับข้าวต่อ “ขอบคุณ” “มึงปิดตากูเฮ็ดหยังหนิ ของดีรู้จักแบ่งปัน” (มึงปิดตากูทำไมเนี้ย ของดีรู้จักแบ่งปัน) ปลาส้มดึงมือเล็กออกจากดวงตา แต่ก็ไม่ทันเห็นของดีที่เธอว่าเสียแล้ว หลังจากใส่เสื้อเรียบร้อยร่างสูงก็เดินลงมาจากบ้านตรงมายังโต๊ะม้าหินอ่อนที่พวกขนมนั่ง เขานั่งลงโดยไม่จำเป็นต้องรอใครเชิญด้วยท่าทางน่าเกรงขาม พร้อมทั้งมองสองสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา คนด้านซ้ายเขาจำเธอได้ดี... คนที่ช่วยเขาเมื่อคืนแต่เป็นห่วงอึ่งมากกว่าคน ใบหน้าหล่อชะงักไปชั่วขณะ เมื่อเห็นใบหน้าเรียวเล็กดวงตากลมโตแพขนตางอนยาว ผิวเนียนละเอียดอมชมพูดูสะอาดสะอ้านไม่เหมือนหญิงสาวชาวบ้านทั่วไปเลยแม้แต่น้อย หน้าตาดี ผิวคุณหนู แต่กิริยาตรงกันข้าม ส่วนคนที่อยู่ด้านขวาหญิงสาวคนนี้เขาเคยเห็นผ่านตาบ้าง ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 สาวน้อยก๋ากั่นหน้าตาดีเช่นกัน ผิวขาวแบบหญิงสาวทั่วไป แต่มีหน้าจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูเพราะแม่มีเชื้อสายจีน เรื่องชื่อเสียงเรียงนามไม่ต้องพูดถึง... “คุณตำรวจอย่ามาใช้วิชาสืบสวนสอบสวนแถวนี้เด้อ เบิ่งสายตาแล้วรู้สึกสิโดนขังคุกจั่งใด๋บ่รู้” (คุณตำรวจอย่ามาใช้วิชาสืบสวนสอบสวนแถวนี้นะ ดูสายตาแล้วรู้สึกจะโดนขังคุกยังไงไม่รู้) ปลาส้มมองอย่างหวาดระแวง เธอจำได้แล้ว.. คนนี้คือสารวัตรเสือฝ่ายปราบปรามยาเสพติดที่พึ่งย้ายมาเมื่อ 5 เดือนก่อน คนที่จับเธอเข้าคุกข้อหาเล่นไพ่ในงานศพ นอนคุกเล่นตั้งคืนหนึ่งเต็มๆ ปลาส้มถึงกับนั่งนิ่งคีพลุคทันที... “คุณเป็นไงบ้าง” ขนมถามก่อนจะมองขึ้นลงพิจารณาสภาพร่างกายคนตรงหน้า “ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณ” “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นซื้ออึ่งซ่อยแหน่นั่น” (เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นซื้ออึ่งช่วยหน่อยนั่น) ขนมเพยิดหน้าไปทางโอ่งที่ขังอึ่งไว้มีเสียงร้องระงม “อืม” เขาพยักหน้า “ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม” ตอนนี้เขาต้องการติดต่อให้จ่าน้อยให้มารับแต่โทรศัพท์มือถือดันหายไปในป่าข้าวโพดหรือไม่ก็ที่ไหนสักที่ “ได้ ถ้าสารวัตรรับปากว่าสิเหมาเบิด” (ได้ ถ้าสารวัตรรับปากว่าจะเหมาหมด) มือเล็กยื่นโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่สุดไปตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มสดใสกับการยักคิ้วกวนๆ “ตกลง” ใบหน้าหล่อพยักเล็กน้อย ด้วยความติดนิสัยตำรวจอะไรเล็กน้อยเขามักจะสังเกตความย้อนแย้งของมันอยู่เสมอ เขาจับจ้องโทรศัพท์มือถือในมือเธออย่างแปลกใจ หญิงสาวตรงหน้าดูร้อนเงินแต่กลับมีเงินซื้อโทรศัพท์แพงขนาดนี้ ดูย้อนแย้งกันจนน่าสงสัยแต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD