พันธนาการรักใต้แสงจันทร์ EP.07

1390 Words
เมืองไทย ณ...คฤหาสน์เซเวอร์ลัส เจ้าของใบหน้าคมสวยต้องบูดบึ้งเมื่อได้ฟังสิ่งที่มารดาเอ่ยออกมา หลายครั้งแล้วที่เธอต้องนั่งฟังเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับตระกูลของบิดา ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมต้องให้เธอไปโรมาเนีย ประเทศซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดา นับตั้งแต่จำความได้เธอไม่เคยเหยียบย่างไปยังปราสาทเซเวอร์ลัสในโรมาเนียเลยสักครั้ง แล้วจู่ๆ จะให้เธอไปที่นั่นมันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ “ทางโน้นเขาต้องการให้ลูกไปจริงๆ นะแอนนี่” “แต่แอนนี่ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับแอนนี่ตรงไหนเลย ตั้งแต่เกิดมาแอนนี่ยังไม่เคยไปโรมาเนียสักครั้ง แม้แต่ญาติของคุณพ่อ แอนนี่ก็ยังไม่เคยเห็น” ‘แอนนี่’ หรือ ‘อเล็กซานเดรีย เซเวอร์ลัส’ ตอบคุณวีรดาผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดนิดๆ เนื่องจากเธอไม่เห็นถึงความจำเป็นที่เธอต้องเดินทางไปโรมาเนียตามคำสั่งของบรรดาญาติๆ ทางฝ่ายบิดา ดวงตาคู่งามสีดำสนิทสบตามองสีหน้ายิ้มแย้มของมารดาแล้วหัวใจก็ยิ่งสั่นไหวอย่างประหลาด “แต่นี่เป็นคำสั่งของคุณปู่นะลูก” “แต่คุณปู่เป็นคนอังกฤษนะคะคุณแม่ แล้วทำไมแอนนี่จะต้องบินไปโรมาเนียด้วย” “แม่เคยบอกแอนนี่หรือยังว่าคุณปู่เป็นลูกครึ่งอังกฤษ – โรมาเนีย” คุณวีรดาถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู จะว่าไปเธอก็ลืมไปเสียสนิทเลย เรื่องที่ท่านอเล็กซิสผู้เป็นปู่ของอเล็กซานเดรียมีสายเลือดของโรมาเนียอยู่ครึ่งหนึ่ง และนี่ก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมเธอต้องส่งบุตรสาวคนโตไปโรมาเนีย ท่านอเล็กซิสไปสร้างเอาไว้ในโรมาเนียเป็นของอเล็กซานเดรียทั้งหมด แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าสมบัติบางส่วนได้ถูกแบ่งให้บรรดาลูกหลานทางฝ่ายภรรยาของพ่อสามี และถ้าบุตรสาวคนโตของเธอไม่เดินทางไปโรมาเนีย พินัยกรรมก็จะไม่สามารถเปิดได้ “ยังเลยค่ะ แอนนี่รู้แค่ว่าคุณปู่เป็นคนอังกฤษเท่านั้น แต่มันเกี่ยวอะไรกับการที่แอนนี่ต้องไปที่นั่นด้วยค่ะ แอนนี่ไม่เข้าใจ” “คุณปู่ยกสมบัติทั้งหมดที่อยู่ในโรมาเนียให้หนูไงจ๊ะแอนนี่” “แล้วลูกหลานคนอื่นๆ ยอมหรือคะคุณแม่” “สมบัติถูกแบ่งออกไปสี่หรือห้าส่วน ถ้าแม่จำไม่ผิด และนี่คือเหตุผลที่ลูกต้องบินไปโรมาเนียให้เร็วที่สุด ตอนนี้หลานคนอื่นๆ ของคุณปู่คงอยู่ที่ปราสาทเซเวอร์ลัสกันหมดแล้ว” คุณวีรดาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งที่ใจจริงก็ไม่อยากให้บุตรสาวคนโตต้องเดินทางไปโรมาเนียแม้แต่น้อย แต่ก็ขัดคำสั่งในพินัยกรรมฉบับนั่นของพ่อสามีไม่ได้ แม้จะรู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของบุตรสาว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากทำตามคำสั่งในพินัยกรรมเท่านั้น “ปราสาทผีสิงนั่นหรือคะคุณแม่ แอนนี่ไม่อยากไปเลยให้ตายสิ” “พูดไม่เพราะเลยแอนนี่ ปราสาทเซเวอร์ลัสจ้ะไม่ใช่ปราสาทผีสิง” “แต่แอนนี่ว่ามันต้องเป็นปราสาทผีสิงค่ะคุณแม่ ปราสาทเก่าแก่ที่สุดในโรมาเนีย ไม่รู้จะอยู่มากี่ร้อยปีแล้ว ที่สำคัญประเทศโรมาเนียยังเป็นประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของผีดูดเลือดอีก ยี้! น่ากลัวเป็นที่สุด แค่คิดว่าต้องพักในปราสาทนั่นขนก็ลุกซู่แล้ว” ‘แค่คิดก็สยอง...แม้ไม่ได้กลัวผีก็เถอะ แต่ให้ไปปราสาทผีสิงซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของคุณปู่ช่างเป็นเรื่องที่โหดร้ายสำหรับเราอย่างแรง’ อเล็กซานเดรียนึกไปถึงปราสาทที่อยู่บนเขาซึ่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และภูเขา ช่างให้ความรู้สึกที่ขนลุกชวนสยองจนบอกไม่ถูก หากให้ไปคฤหาสน์เซเวอร์ลัสในอังกฤษ เธอยินดีไปอย่างยิ่ง แต่ให้ไปดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องผีดูดเลือด ไม่เคยคิดและไม่อยากไปสักนิด คุณปู่ก็เหลือเกิน คิดอะไรอยู่ถึงยกมรดกที่โรมาเนียให้เธอ “มันไม่ได้เป็นอย่างที่ลูกเข้าใจเสียหน่อย ปราสาทเซเวอร์ลัสที่โรมาเนียเป็นสมบัติตกทอดที่คุณทวดยกให้คุณปู่นะลูก ตอนนี้ปราสาทแห่งนั้นก็ตกเป็นสมบัติของลูกแล้ว รวมทั้งธุรกิจอีกหลายแห่งในเมืองบูคาร์เรสด้วย แม่ว่าลูกควรไปจัดการให้เรียบร้อย ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้ทางโน้นต้องส่งทนายความมาหาลูกอีกแน่” “เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณแม่ ไปจัดการให้เสร็จๆ ก็ดีเหมือนกัน แอนนี่ก็เบื่อเต็มทนแล้วที่ต้องมานั่งฟังทนายความนิโคลัสบ่น” อเล็กซานเดรียนึกไปถึงทนายความร่างสูงใหญ่ วัยห้าสิบที่ถูกส่งมาจากโรมาเนีย ซึ่งเป็นทนายความของตระกูลลาวิเนีย ตระกูลของญาติๆ ฝ่ายคุณปู่ คนไม่อยากไปถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เกือบสองปีที่เธอต้องทนฟังทนายความคนนี้ ต้องทนเสียงบ่นแกมขอร้องของมารดาให้เธอเดินทางไปจัดการเรื่องมรดกของคุณปู่ที่โรมาเนีย หวังว่าบรรดาญาติพี่น้องทางฝ่ายคุณปู่คงไม่ร้ายกาจและน่ากลัวอย่างที่เธอคิด ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบง่ายๆ เป็นแน่ “หนูเอานี่ไปศึกษาด้วยนะแอนนี่” คุณวีรดาหันไปหยิบกระเป๋าเอกสารใบหนึ่งมายื่นให้บุตรสาว ก่อนสามีเสียชีวิต ได้มอบกระเป๋าใส่เอกสารและประวัติทั้งหมดของปราสาทเซเวอร์ลัสเอาไวให้เธอเมื่อหลายปีก่อน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดให้บุตรสาวดูเพราะคิดว่าครอบครัวของเธอคงไม่ได้เข้าไปวุ่นวายกับครอบครัวทางฝ่ายสามีอีก “อะไรหรือคะคุณแม่” “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณพ่อมอบเอาไว้ให้แม่ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย คุณพ่อบอกว่าหากวันใดที่ลูกต้องไปโรมาเนีย ก็ให้แม่มอบกระเป๋าเอกสารใบนี้ให้ลูก” แม้ไม่เข้าใจในความคิดของสามี แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะถาม เพราะสำหรับเธอแล้วสิ่งที่สามีสั่งเอาไว้ก่อนเสียชีวิต มันต้องสำคัญและมีความหมายแต่บุตรสาวคนโตอย่างแน่นอน คุณวีรดามองกระเป๋าเอกสารอย่างสงสัยเหมือนกันว่าข้างในกระเป๋าใบนี้มีอะไรซ่อนอยู่ “ขอบคุณค่ะคุณแม่” “แต่งตัวเสียสวยเชียวลูก วันนี้จะออกไปไหนหรือจ๊ะ วันอาทิตย์แท้ๆ น่าจะอยู่บ้านกับแม่สิ หรือว่ามีนัดกับหนุ่มๆ” คุณวีรดาเอ่ยเย้าบุตรสาว “ไม่ใช่หนุ่มๆ หรอกค่ะคุณแม่ แต่แอนนี่นัดกับไอ้จันทร์กับไอ้ดาวเอาไว้ วันนี้จะไปดูหนังกันนะคะ ไม่ได้ดูหนังกันนานแล้ว” “ถ้างั้นก็ไปเถอะจ้ะ” “งั้นแอนนี่ไปนะคะคุณแม่” “แล้วเรื่องไปโรมาเนียล่ะลูก” “อีกสองอาทิตย์ค่ะคุณแม่ ตอนนี้แอนนี่ยังไม่ว่าง แอนนี่คิดว่าญาติฝ่ายโน้นของคุณปู่คงรอแอนนี่ได้อีกสักสองอาทิตย์ ในเมื่อรอมาได้เกือบสองปี รออีกสองอาทิตย์คงไม่มีปัญหา” อเล็กซานเดรียตอบมารดาเสียงหวาน ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วบิดกายไปมาเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้า จากนั้นก็ก้มลงมาหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นถือ “แอนนี่ไปก่อนนะคะคุณแม่ แล้วเย็นๆ แอนนี่จะรีบกลับมาทานข้าวเย็นกับคุณแม่” “จ้ะ” คุณวีรดารับคำ รอยยิ้มอบอุ่นระบายอยู่บนหน้า อเล็กซานเดรียยกมือไหว้มารดาแล้วก็เดินออกมาจากห้องโถงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม วันนี้เธอต้องทำตัวให้มีความสุขสิ นานๆ ได้ออกไปเที่ยว ดูหนังกับเพื่อนๆ เพราะตั้งแต่เธอเรียนจบก็สมัครเข้าไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย เธอก็ไม่มีเวลาว่างอีกเลย ถึงเธอเป็นบุตรสาวของนักธุรกิจชื่อดังของโลก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจรับช่วงต่อจากบิดามารดา ดังนั้นธุรกิจทั้งหมดของครอบครัวจึงตกเป็นภาระหน้าที่ของน้องชายและน้องสาว ส่วนเธอก็ขอเลือกทำตามความฝันของตนเอง นั่นก็คือการเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ให้มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ /////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD