การหนีเรียนของสตาร์ไม่ถูกแม่จับได้ เพราะทั้งเฟิร์สและสตาร์ต่างเป็นมืออาชีพด้านการหลบหนี สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งคู่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยความที่แม่ของสตาร์พยายามอัดคอร์สเรียนเพื่อปั้นให้ลูกสาวลงประกวดนางแบบ กว่าจะเลิกเรียนก็ดึกดื่นได้โทรคุยกันแค่สักพัก สตาร์ก็เพลียและหลับไป
“แม่วันนี้ขอพักได้ไหม หนูเวียนหัวมากเลย” ลูกสาวที่นั่งอยู่เบาะหลังบอกกับแม่ที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปสถาบันสอนการแสดง
“ไม่ได้ ยิ่งใกล้วันก็ยิ่งต้องติวเข้ม ไว้อาทิตย์ก่อนคัดตัวแม่จะให้พักโอเคไหม” แม่ว่าลูกสาวจะร้องขออย่างไร แต่คนเป็นแม่ก็ดูจะไม่ยอมง่าย ๆ ครั้งนี้สตาร์ไม่ได้อยากหยุดเพราะขี้เกียจ แต่เธอรู้สึกอ่อนเพลียมากจริง ๆ เหตุก็อาจจะเพราะที่ต้องซ้อมเดินแบบเรียนการแสดงจนดึกดื่น ไม่มีเวลาพักผ่อน ตลอดทั้งวันก็เรียนหนังสือมาก่อนแล้ว แทนที่เลิกเรียนจะได้พักกลับต้องมาเหนื่อยต่อด้วยการเรียนเสริม
“แม่หนูไม่ไหวจริง ๆ นะหนูขอพักไมได้เหรอ หนูไม่เคยเกเรเลยนะแม่ ขอแค่วันนี้วันเดียว”
“เดินแบบก็ยังไม่คล่อง กลับมาบ้านก็ไม่ยอมซ้อมนอนอย่างเดียว แล้วแบบนี้จะเอาอะไรไปแข่งกับคนอื่น แม่บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้”
“โอ๊ยแม่!!! อ้วกกกก” พอเถียงกันจนถึงจุดที่สตาร์ทนไม่ไหว ความเครียด และอาการวิงเวียนก็แสดงออกมาให้แม่ได้เห็นว่าเธอไมได้โกหก สิริน แม่ของสตาร์รีบเลี้ยวรถเพื่อจอดดูลูกสาว
“ไหวไหม” สิรินรีบวิ่งไปประคองลูกสาว แม้ว่ารถจะเลอะไปหมดแต่สิ่งที่สิรินสนใจมากกว่าก็คือสตาร์
“หนูไม่ไหวจริง ๆ แม่”
“โอเค ๆ งั้นไปโรงพยาบาล เดี๋ยวแม่โทรไปยกเลิกกับครูทีหลัง อดทนก่อนนะเดี๋ยวแม่พาไปหาหมอ” สตาร์พยักหน้ารับ เธอพะอืดพะอม และอ่อนเพลียมาตลอดทั้งวันแล้ว แต่เพราะก่อนหน้านี้ดันไปทะเลาะกับแม่จนอารมณ์มันเดือด เลือดมันสูบฉีด หัวใจเต้นแรงจนในที่สุดก็ระเบิดออกมา สิรินรีบขับรถไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อนำตัวลูกสาวส่งให้ถึงมือหมอ
-โรงพยาบาล-
“เบื้องต้นมีอาการเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย แล้วก็อาเจียนใช่ไหมคะ” พยาบาลที่ทำการซักประวัติเอ่ยถาม สตาร์อ่อนแรงจนไม่ได้พูดอะไรตอบ เธอเพียงพยักหน้ารับ ในมือก็ถือยาดมไว้แน่น
“ไม่ทราบว่าช่วงนี้คนไข้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนไหมคะ” คำถามต่อมาทำให้คนอ่อนเพลียถึงกับได้สติ คงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอกนะ
“ไม่มีค่ะน้องไม่เคยมีแฟน” สิรินตอบอย่างมั่นใจ แต่สตาร์นั้นได้แต่นั่งนิ่งหน้าซีดเผือด ทั้งไม่มีแรงตอบและหวาดกลัวคำถามที่เพิ่งได้ยิน
“ถ้างั้นน่าจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอนะคะ แต่เดี๋ยวนั่งรอคุยกับหมออีกทีดีกว่าเนอะ” หลังจากลงข้อมูลเบื้อต้นเรียบร้อยแล้ว สิรินก็พาสตาร์มานั่งรอหมอเรียกอยู่ที่หน้าห้อง แต่เพียงไม่นานหมอก็เรียกตัวสตาร์เข้าไปตรวจ
“แม่รอตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวสตาร์ไปเองคนเดียวก็ได้” เพราะกลัวว่าหมอจะถามเรื่องเพศสัมพันธ์ขึ้นมาอีก สตาร์เลนรู้สึกว่าไม่อยากให้แม่เข้าไปด้วยแล้ว
“เดินไหวเหรอ ไม่เป็นไรแม่เข้าไปด้วยน่ะดีแล้ว” แต่สิรินก็ไม่ยอมง่าย ๆ เห็นลูกสาวอ่อนปวกเปียก แค่ลุกก็ยังต้องพยุง มีหรือคนเป็นแม่จะปล่อยให้เดินไปเองได้ไง
“แม่ยังไม่ได้โทรบอก...”
“แม่ไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว ลูกแม่ป่วยขนาดนี้ มันจะมีอะไรสำคัญกว่าชีวิตลูกอีกหรือไง ไม่ต้องพูดมาก เข้าไปกับแม่” สตาร์ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในที่สุดสิรินก็ประคองลูกสาวเข้าไปในห้องตรวจจนสำเร็จ เข้าไปก็พูดคุยกับหมอเบื้องต้นเหมือนตอนที่คุยกับพยาบาล และทุกอย่างก็จบลงที่ สตาร์พักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายอ่อนแรง นอกจากนี้หมอยังสั่งให้พักผ่อนจนกว่าร่างกายจะฟื้นฟูสภาพให้ดีขึ้นว่านี้
“ถ้ายังไงหมออยากขอให้คุณแม่ลดกิจกรรมน้องลงก่อนนะครับ เพราะเท่าที่ฟัง น้องเรียนหนักตลอดทั้งวันแล้ว เลิกเรียนยังต้องเรียนพิเศษต่ออีกมันจะไม่กระทบแค่ร่างกาย มันจะกระทบไปถึงสุขภาพด้านอื่น ๆ ของน้องด้วย”
“ค่ะ เดี๋ยวคงต้องจัดตารางกันใหม่” สตาร์ได้แต่มองแม่ด้วยสายตาอ้อนวอน เธอไม่ต้องการเรียนอะไรอีกแล้ว ไม่อยากเรียนอะไรทั้งนั้น แต่สิ่งที่แม่พูดกลับเหมือนว่าจะให้เธอพักจนอาการดีขึ้น แล้วส่งเธอกลับไปสู่ตารางเรียนมหาโหดนั้นอีกครั้ง
หลังจากรับยาและเคลียร์ทุกอย่างจบ สิรินและสตาร์ก็ต้องยกเลิกการเรียนทั้งหมดและกลับบ้านพักผ่อน ตลอดเส้นทางไม่มีการพูดคุยอะไรกันเยทั้งสิ้น นั่นก็อาจจะเพราะว่าสิรินเห็นลูกสาวยังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ จึงไม่ได้รบกวน
“แม่จะแวะร้านสะดวก เอาอะไรไหม” คนขับมองลูกสาวที่นอนอยู่เบาะหลังด้วยสภาพอิดโรยก่อนจะเอ่ยถามสตาร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอเพียงแค่ส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ ถึงปั๊มสิรินก็จอดรถโดยทิ้งลูกสาวไว้บนรถเพียงลำพัง ก่อนจะเดินเข้าร้านสะดวกซื้อไปซื้อของตามที่ได้บอกกับสตาร์เมื่อก่อนหน้านี้ เพียงไม่นานสิรินก็ลับมาพร้อมกับถุงผ้าใบใหญ่ ที่ด้านในเต็มไปด้วยข้าวของที่เธอเพิ่งซื้อจากร้านสะดวกซื้อดังกล่าว สตาร์ยังคงนอนหลับไม่ได้สติอยู่ที่เบาะหลังสิรินเองก็มองลูกผ่านกระจกมองหลังเป็นระยะ ๆ ตลอดการเดินทางจนกระทั่งถึงบ้าน
“เดี๋ยวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาหาแม่ที่นี่หน่อยนะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” คำพูดเรียบ ๆ ของแม่ ทำสตาร์เสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก ทำไมเธอถึงรู้สึกว่ามันต้องมีอะไร มันต้องมีอะไรแน่ ๆ จากสายตาเย็นชาของแม่ที่หันมองทางอื่น มือเรียวของสิรินคว้าเอาบุหรี่จากในถุงผ้าออกมาถึงซอง ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน เธอกะเวลาแล้วว่า กว่าบุหรี่จะหมดลูกสาวก็คงอาบน้ำเสร็จพอดี สตาร์อาบน้ำไปพร้อมกับคำถามมากมาย ‘แม่จะพูดอะไร หรือแม่จะรู้เรื่องเฟิร์ส แล้วแม่รู้ได้ยังไง’ คำถามเหล่านี้มีเพียงสิรินแม่ของเธอเท่านั้น ที่จะให้คำตอบได้
สตาร์เดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง คำถามของหมอยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ยิ่งท่าทางแปลก ๆ ของแม่มันยิ่งบีบให้สตาร์รู้สึกหวาดกลัว นานแล้วที่เธอไม่ได้เห็นแม่สูบบุหรี่ต่อหน้าเพราะแม่ต้องสร้างภาพเป็นซิงเกิลมัมผู้แข็งแกร่ง ทำงานเก่งเลี้ยงลูกเก่ง มีลูกเป็นเด็กดี เรียนเก่ง และมีความสามารถรอบด้าน แม่บอกอยู่เสมอว่าอยากให้สตาร์ได้เข้าวงการอย่างเต็มตัว จะได้ลาออกจากงานมาเป็นผู้จัดการดูแลงานให้ลูก จึงพยายามจะปั้นและดันให้สตาร์เข้าวงการอยู่ตลอด แต่ก็ไม่วายผิดหวังทุกที เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ลูกสาวชอบ ถึงเธอจะยอมเข้าแข่งขันตามที่แม่บังคับแต่ถึงคราวขึ้นเวทีจริงสตาร์ก็ฝืนที่จะทำให้มันออกมาแย่ และให้เหตุผลกับแม่ว่าตื่นเวที
-13 ข้อความจากเฟิร์ส-
สตาร์ไม่เสียเวลาอ่านข้อความก่อนหน้า เธอตัดสินใจโทรหาแฟนหนุ่มเพื่อหวังจะระบายความเครียดของตัวเองให้บรรเทาลง
“ฮัลโหล เรียนเสร็จแล้วเหรอ” เฟิร์สกดรับสายทันที เขามองดุนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังแล้วรู้สึกว่า วันนี้สตาร์ดูจะโทรมาเร็วกว่าปกติ
“วันนี้ไม่ได้เรียน ไปโรงพยาบาลมา” ปลายสายพูดด้วยเสียงสั่น
“เป็นอะไร”
“หมอบอกพักผ่อนไม่เพียงพอ”
“ก็คงจริง ช่วงนี้มึงเรียนหนักมากเลย กว่าจะกลับถึงบ้าน กว่าจะทำโน่นทำนี่ กูให้นอนก็ไม่ยอมนอนจะคุยอยู่นั่นแหละ” ฝ่ายเฟิร์สบ่นยกใหญ่แม้ว่าเขาเองจะรอคุยกับสตาร์อยู่เหมือนกัน แต่เพราะรู้ว่าแฟนตัวเองมีกิจกรรมมากมายที่ต้องทำ กว่าจะเสร็จก็จนดึกดื่น
“แต่...หมอถามเรื่องกูมีเพศสัมพันธ์ไหม” สตาร์ตัดสินใจบอกเรื่องที่กังวลกับเฟิร์ส และมันก็ทำให้เฟิร์สชะงักไปเลยเช่นกัน
“แล้วมึงบอกเขาไปว่าไง”
“กูบอกว่าไม่เคย เพราะแม่อยู่ด้วย แต่กูกลัว” สตาร์รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าไม่ได้ป้องกันอะไรนอกจากหลั่งนอกเท่านั้น ซึ่งเปอร์เซ็นของการป้องการต่ำมาก
“ก็เลยไม่ได้ตรวจ”
“อืม...ถ้าตรวจไปแล้วท้อง แม่ก็รู้ดิวะ”
“แล้วจะทำไง จะไปตรวจไหมจะได้พาโดดเรียนไป” เฟิร์สเองก็เริ่มกังวลไปด้วย เพราะก็รู้ไม่ต่างจากที่สตาร์รู้เช่นกัน แม้ว่าทางโรงเรียนจะให้ความรู้เรื่องนี้มากแค่ไหน แต่ด้วยวัยอยากรู้อยากลอง ชอบความตื่นเต้น และไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมาอย่างเฟิร์สและสตาร์ ก็เลือกที่จะเสี่ยง
“ซื้อมาตรวจเองก็ได้เปล่าวะ”
“เออ ๆ แต่ถ้าท้องขึ้นมา แม่มึงจะไม่ว่าอะไรเหรอ”ทั้งคู่ต่างรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าสิรินเป็นยังไง สตาร์แทบไม่รู้จักคำว่าอิสระเลยด้วยซ้ำในชีวิตนี้ และการทำผิดพลาดครั้งนี้ยังเป็นการทำผิดครั้งใหญ่ ถ้าเกิดเธอพลาดท้องขึ้นมาจริง ๆ
“เออเดี๋ยวกูขออาบน้ำแล้วลงไปคุยกับแม่ก่อน ได้เรื่องยังไงจะโทรหาอีกที” สตาร์รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในห้องนานเกินไปแล้ว ทั้งยังไม่ได้อาบน้ำ ถ้านานเกินไปออกไปหาแม่ มีหวังแม่ต้องโมโหแน่ หลังวางสายจากเฟิร์ส สตาร์ก็รีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปหาแม่ที่นั่งรออยู่หน้าทีวีด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“นานจังเลยนะ” สิรินละสายตาจากข่าวในจอที ก่อนจะหันไปเอ่ยทักลูกสาว
“ไม่ค่อยมีแรงค่ะ ก็เลย...”
“ไม่เป็นไร นั่งสิ”เห็นแม่นิ่งแบบนี้สตาร์ใจคอไม่ดีนัก เธอรู้สึกว่าแม่ดูจะนิ่งเกินไป นิ่งจนพาให้เธอคิดไปต่าง ๆ นานา เสียงนักข่าวในทีวีรายงานข่าวอาชญากรรมภายในครอบครัว มีซาวด์ดนตรีชวนระทึก ยิ่งทำให้ขนลุกซู่
“ไม่อ้อมค้อมเลยก็แล้วกันนะ.....” เปิดหัวเรื่องด้วยประโยคนี้ แล้วเว้นวรรคให้ลุ้น หัวใจของคนที่หวาดกลัวอยู่แล้วยิ่งเต้นแรงและหน่วงจนหายใจลำบาก สิรินหยิบเอากล่องกระดาษขนาดครึ่งฝ่ามือลักษณะเป็นรูปที่เหลี่ยมฝืนผ้าที่ม่วงอ่อนกับสีขาวยื่นส่งให้ลูกสาว สตาร์มองดุสิ่งของในมือแม่ด้วยความตกตะลึง
“นี่มัน....”
“อุปกรณ์ตรวจครรภ์” สิรินชิงพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกสาวอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
“แม่ หนูจะตรวจทำไมก็หนู...”
“แกคิดว่าฉันโง่เหรอ เห็นอาการแกที่โรงพยาบาลฉันก็รู้แล้ว ที่ไม่ยอมให้ตรวจก็เพราะอายหมอหรอกนะ!!” สิรินตวาดลั่น
“แม่....”
“เอางี้ เพื่อความสบายใจของเราทั้งคู่ แกไปฉี่ใส่ในนี้มา แล้วฉันจะหยดเอง แล้วมารอดูผลกัน ว่าแกท้องหรือไม่ท้อง”
“แม่ก็รู้ว่าหนูไม่มีแฟน หนูจะท้องได้ยังไง”
“แกกล้าถอดกางเกงให้ฉันดูไหมล่ะว่ามันยังอยู่ดี และไม่เคยใช้งาน” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สิรินโมโหเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้แต่ก็ไม่มีครั้งไหน ที่เธอจะดุสตาร์จนตัวสั่นขวัญแขวนเท่านี้มาก่อน
“อีเด็กไม่รักดีสอนให้ได้ดี แต่ใฝ่จะทำแต่เรื่องต่ำ ๆ ให้แม่ต้องงามหน้า ส่องไปเรียนการแสดงแทบตาย จะตอแหลทีไม่มีอะไรแนบเนียนสักอย่าง อย่าลีลาเอานี่ไปเก็บฉี่มาให้ฉัน” สิรินส่งถ้วยเก็บฉี่ให้ลูกสาว ก่อนจะยกขวดเหล้าขึ้นมารินใส่แก้วระหว่างที่รอ ก่อนหน้านี้เธอพยายามที่จะไม่แสดงพฤติกรรมเหล่านี้ต่อหน้าลูกสาว เพราะอยากปลูกฝังสิ่งดีดีให้ลูก และไม่อยากให้ลูกจำภาพแย่ ๆ ของเธอ แต่พอถึงคราวเครียดทีไร น้ำกับบุหรี่ก็ดุจะเป็นทางเลือกเดียวที่จะบรรเทาความเครียดให้กับเธอได้ สตาร์ที่ถือถ้วยหายเข้าไปในห้องน้ำ ได้แต่จด ๆ จ้อง ๆ ไม่กล้าลงมือ ด้วยใจหนึ่งก็กลัวอยู่แล้ว เพราะเปอร์เซ็นที่สงสัยจะเป็นเรื่องจริงค่อนข้างจะสูง แต่หากไม่ยอมเก็บไปให้แม่ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน