“งั้นก็ไปรับแขก เปิดซิงได้ราคาดีอยู่นะ”
“ฉันไม่รับแขก !” พรีมตะเบ็งเสียงตอบด้วยความโมโห
“งั้นก็เอางี้แล้วกัน ฉันเห็นใจเธอนะที่ถูกจับมาแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ฉันมีข้อเสนอเด็ด ๆ ที่จะทำให้เธอสามารถจ่ายหนี้สองแสนได้โดยที่ไม่ต้องรับแขก แค่เธอทำงานบางอย่างให้ฉันคนเดียวก็พอ”
“งานอะไร”
ชิณณ์มองสบตาหญิงสาว เขายิ้มมุมปากก่อนจะบอกดีลเด็ดแสนเร้าใจที่เขาคิดได้เมื่อครู่สด ๆ ร้อน ๆ ให้เธอได้พิจารณา
“อมไม่แตกห้าร้อย อมแตกห้าพัน สไลด์นมสองร้อย สไลด์กลีบสองพัน เปิดซิงสามหมื่น ครั้งต่อไปสองหมื่น เธอมีเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์รวบรวมให้ครบสองแสน คิดว่าไหวไหม”
พรีมจ้องหน้าคนที่เสนอค่าบริการที่เขากำหนดให้เธอด้วยสายตากรุ่นโกรธ ถ้าพ่นไฟใส่เขาได้ เธอพ่นใส่ไปแล้ว
“ฉันไม่ทำ”
“ไม่ทำก็ไปรับแขก” ชิณณ์บอกอย่างไม่แยแส ถูกจับขึงพืดอยู่กลางเตียงแบบนี้ ยังจะปากดีกล้าต่อรองกับเขาอีก บุญหัวแค่ไหนแล้วที่เขาไม่กรอกยาปลุกเซ็กซ์แล้วโยนขึ้นเตียงให้แขกตัณหากลับขย้ำ อุตส่าห์สงสารให้ทำงานสบาย ๆ บริการเขาคนเดียว ยังจะมาเรื่องมากไม่อยากทำอีก
“ฉันไม่ได้อยากทำงานแบบนี้”
“แต่ถูกจับมาแล้วไง และฉันก็ไม่ได้เป็นพ่อพระใจบุญที่จะปล่อยเธอไปง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้อะไรจากตัวเธอหรอกนะ”
“ฉันไม่ได้เป็นหนี้แก” พรีมตะคอกเสียงดัง
“แต่เธอถูกส่งมาขัดดอกหนี้ฉัน”
“ฉันจะแจ้งตำรวจ”
“เชิญขี่ม้าสามศอกไปแจ้งเลยครับ โว้ว ! พูดมากจริง ถ้าเลือกไม่ได้ว่าจะทำอะไร งั้นฉันเลือกให้...เปิดซิงเลยแล้วกัน”
“กรี๊ด !” พรีมดิ้นรนอย่างตื่นตระหนก ขณะที่เขาแกะกระดุมเสื้อเธอจนหมดทั้งแถวในเวลารวดเร็ว
“ฉันจะอม !” พรีมรีบลนลานบอกเมื่อเขายื่นมือไปจับชายกระโปรงของเธอ และทำท่าจะถลกมันขึ้น
ชิณณ์จับชายกระโปรงเธอค้างไว้ เขามองสบตาเธอ และเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเธอจะอมจริงหรือเปล่า
“ให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่ไม่เปิดซิง” พรีมยอมจำนนต่อเขา เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ
“ก็แค่นั้น”...
หลังจากอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว บ้วนปากและกลั้วคอด้วยน้ำเปล่าเกือบยี่สิบครั้ง พรีมก็แต่งตัวด้วยชุดเดิมออกมานั่งที่เตียง แม้ว่าเสื้อผ้าจะเปื้อนเป็นด่างดวง และเธอรู้สึกว่ามันสกปรกไม่น่าใส่ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เพราะหลังจากสำรวจดูจนทั่วห้องแล้ว พรีมก็พบว่าในห้องนี้ ไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถนำมาห่อหุ้มร่างกายแล้วรู้สึกปลอดภัยได้เลย
พรีมนั่งมองไปรอบห้องแล้วถอนหายใจ อยู่ดี ๆ เธอก็ต้องจำยอมมาอยู่ในสถานะอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก อยู่ในที่อโคจรที่เธอไม่เคยคิดว่าจะมาเกี่ยวข้องสักนิด เธอเดาว่าที่นี่จะต้องมีทั้งบ่อน ทั้งซ่อง และนายโรคจิตนั่นคงไม่ใช่คนดีเท่าไรหรอก
พรีมถอนหายใจบางเบาแล้วเอนกายลงนอนหนุนหมอนสีขาวสะอาดใบโต
“ก็ไม่มีใครอยู่แล้วนี่ จะสาบสูญหรือล้มหายตายจากไปก็คงไม่มีใครสนใจ”
พรีมดึงหมอนอีกใบมากอดแล้วหลับตาลง แวบหนึ่งเธอน้อยใจกับชะตาชีวิตตัวเอง เธอกำพร้าพ่อแม่เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมต้นด้วยซ้ำ ลุงกับป้าสะใภ้เป็นคนไปรับเธอมาเลี้ยงดู เธอย้ายไปอยู่ที่บ้านของพวกเขา พวกเขาส่งเสียเธอจนเรียนจบปริญญาตรี แต่เป็นการส่งเสียเลี้ยงดูที่ถูกพูดกรอกหูและตอกย้ำใส่หัวตลอดมาว่า เธอเป็นหนี้บุญคุณพวกเขา เพราะพวกเขาต้องเหนื่อยเพิ่มอีกหลายเท่า เมื่อต้องเลี้ยงดูเธอพร้อมกับลูกอีกสองคนที่วัยไล่เลี่ยกับเธอ
พอเรียนจบ พรีมจึงมีหน้าที่ทำงานส่งเงินให้พวกเขาเพื่อทดแทนบุญคุณ และปีที่แล้ว เธอก็มีหน้าที่เพิ่มมาอีกอย่างคือ หน้าที่ชดใช้หนี้สองล้านบาทที่ลุงเอาที่ดินแปลงหนึ่งไปจำนองกับนายทุนรายใหญ่ในจังหวัด
พรีมอยากจะปฏิเสธหนี้สองล้านที่เธอไม่ได้ก่อ แต่เพราะหนี้ก้อนนี้พัวพันกับบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในวัยเด็ก มันเป็นสถานที่ที่มีความทรงจำสวยงามที่สุดในชีวิตเธอ แม้บนที่ดินผืนนั้นจะไม่มีบ้านแล้ว เพราะมันถูกรื้อถอนไปหลายปีแล้ว แต่พรีมก็อยากเก็บมันเอาไว้ เธอฝันไว้ว่า เธอจะทำงานเก็บเงินสักก้อน แล้วจะกลับไปสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้น เธออยากกลับไปนอนในที่ที่เธอจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่สุด เธอจึงไม่มีวันยอมให้มันตกไปเป็นของคนอื่น
“ถ้าพ่อกับแม่ยังอยู่คงดีกว่านี้” อาจจะไม่ดีในเรื่องของฐานะ แต่มันจะดีตรงที่เธอคงมีกำลังใจสู้มากกว่านี้ และเธอจะได้รู้ด้วยว่า เธอจะมีลมหายใจต่อไปเพื่อใคร
เป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ยังตกค้างอยู่ พรีมจึงเผลอหลับไปอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงคนพูดอยู่ข้างเตียง
“นอนหรือตายวะเนี่ย”
เสียงของเขาทำให้พรีมลืมตาขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างเตียง เธอก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วถอยไปชิดขอบเตียงอีกฝั่ง พรีมจ้องคนที่ยืนกอดอกมองเธออยู่อย่างหวาดระแวง
“อ้อ ! ยังไม่ตาย เห็นนอนนิ่ง นึกว่าไม่หายใจซะแล้ว” ชิณณ์ยิ้มกวน เขากวาดสายตามองเธออย่างสำรวจแล้วส่ายหน้า “ชุดเปื้อนขนาดนั้นยังใส่อยู่อีกเหรอ สกปรก ! ”
“เจ้าของน้ำบ้า ๆ ที่เปื้อนชุดของฉันต่างหากที่สกปรก !” พรีมตวาดแว้ดด้วยความโมโห เธอไม่ใช่คนสกปรก เขาต่างหากที่สกปรก
“ฉันพ่นมันออกไปแล้ว มันไม่ใช่ของฉันแล้ว”
“คนทุเรศ !” พรีมกัดฟัน เธอมองหน้าเขาด้วยความคับแค้นใจ เขาเป็นคนทำชุดเธอเปื้อน แล้วยังจะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับอีก เขามันคนทุเรศที่สุดเลย
“เอาน่า...อย่าโมโหไปเลย เดี๋ยวฉันหาชุดใหม่ให้ ไปกันเถอะ”
“ไปไหน”
“กลับ”
“กลับไปไหน”
“กลับคอนโด”
“ฉันกลับคอนโดได้หรือคะ” พรีมถามอย่างมีความหวัง
“กลับได้สิ” ชิณณ์บอกยิ้ม ๆ
หน้าตายัยสาวซิงตอนดีใจนี่ก็น่ารักไปอีกแบบ