เมียรักนายหัวสิงห์ ตอนที่ 6

1462 Words
เขาก้าวเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นแรง และอ้าปากค้างอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ “คนบ้า คนฉวยโอกาส” พิณทิรายกมือขึ้นแตะริมฝีปากด้วยความเขินอาย เมื่อปล่อยให้เขาจูบเอาจนพอใจแล้วจากไป แคิดถึงใบหน้าโหดๆ ของเขา แต่ทำไมหัวใจของเธอถึงได้เต้นแรงถึงเพียงนี้ “คุณกานดาคะ คุณวิคะ พิณกลับมาแล้วค่ะ เมื่อครู่นวลเห็นพิณยืนจูบกับผู้ชายอยู่หน้าบ้านด้วยค่ะ” นวลรีบเข้าไปรายงานเจ้านายทั้งสองทันที... “แล้วสภาพมันเป็นยังไงบ้าง” “สภาพเหรอคะ” นวลเกาหัวไปมา “ไม่เห็นเป็นอะไรนี่คะ กลับมาปกติดีทุกอย่าง” นวลตอบตามที่เห็นมา “เป็นไปได้ยังไง หรือพวกมันจะทำงานไม่สำเร็จ ไอ้พวกโง่เอ๊ย” กานดาหันไปสบตาบุตรสาวอย่างแค้นใจ “พวกไหนคะ” นวลเอ่ยถาม “สะเออะ” กานดาถลึงตาใส่ นวลหัวหดไม่กล้าถามเจ้านายอีก “ไก่ย่างส้มตำได้แล้วค่ะ จะให้พิณจัดใส่จานเลยไหมคะ” พิณทิราคลานเข้ามารายงานเจ้าของบ้านทันทีที่กลับมาถึง กานดาสบตากับบุตรสาวอีกรอบด้วยความคับแค้นใจ ยิ่งเห็นพิณทิรากลับมาในสภาพปกติดี รู้สึกเหมือนอกแทบระเบิด เพราะได้จ่ายเงินให้อันธพาลชั้นต่ำพวกนั้นไปแล้ว “ใครจะกินของสกปรก ต่ำๆ แบบนี้ แกเอาไปกินเองแล้วกัน นังโง่เอ๊ย” กานดาใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของเด็กสาวอย่างเกลียดชัง พิณทิราทั้งตกใจทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองถึงได้เปลี่ยนใจไม่กินส้มตำอีก “จะไปไหนก็ไป เกลียดขี้หน้านัก” วิธาดาหันไปตวาดน้องสาว พิณทิรารีบลนลาหนีทั้งสองออกจากห้องโถงของบ้าน รู้ว่าถ้าขืนอยู่ต่อ คงโดนทำร้ายร่างกายอีกเป็นแน่ แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงแหลมแสบแก้วหูของกานดา “เดี๋ยวก่อนนังพิณ เมื่อกี้นังนวลบอกว่าแกยืนจูบกับผู้ชายที่หน้าบ้าน ใครล่ะ แต่ต่ำๆ แบบแกรีบมีผัวไปก็ดีนะ อยู่ไปก็รกหูรกตา ไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนเอาแกไปเชิดหน้าชูตาหรอก จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของแกเอาไว้” พิณทิราก้มหน้างุดใบหน้าซีดเผือด เมื่อเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่พ้นสายตาคนใจร้ายไปได้ “ฉันอยากเห็นน้ำหน้าแกนัก ถ้าคุณไอศูรย์รู้ว่าหลานรัก ไปยืนกอดจูบกับพวกชั้นต่ำด้วยกันอยู่หน้าบ้าน จะเป็นยังไง” กานดาเหยียดยิ้ม มองหน้าซีดเผือดของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ “ไม่นะคะ” พิณทิรารีบห้ามปรามเสียงสั่น “ทำไม แกมีสิทธิ์ห้ามฉันเหรอ ไสหัวเน่าๆ ของแกไปซะ ฉันกับลูกเหม็นขี้หน้าแกจะแย่อยู่แล้ว พ่อแกไม่เคยมาดูดำดูดี แม่แกชิงลงนรกไปซะก่อน ความจริงแกน่าจะตายๆ ไปซะ อยู่ไปเหมือนกาฝาก ไม่มีใครเขาต้องการแก ที่คุณไอศูรย์เลี้ยงแกไว้เพราะสมเพชเวทนาลูกคนใช้ต่ำๆ แบบแก” กานดาตะเพิดพิณทิราอย่างโกรธเกลียดจับจิตจับใจ พิณทิรารีบวิ่งหนีออกมาอย่างขวัญเสีย พาตัวเองมาอยู่ในห้องนอนแคบๆ ของตัวเอง มือบอบบางเอื้อมไปหยิบภาพถ่ายมารดาที่ล่วงลับไปแล้วขึ้นมาแนบอก “แม่ขา... พิณจะอดทนนะคะ” หญิงสาวพูดคุยกับภาพมารดาด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นยิ้มที่เศร้าเต็มที เธอนึกถึงไปเมื่อครั้งยังเด็ก... “แม่ขา คนพวกนั้นใจร้ายจัง เราไปอยู่ที่อื่นได้ไหมคะ ทำไมเราต้องทนด้วย” “พิณลูกรักของแม่ เราต้องอยู่ตอบแทนผู้มีพระคุณนะลูก      คุณไอรดามีบุญคุณชุบเลี้ยงแม่มา แล้วไหนจะคุณไอศูรย์อีก ที่เมตตาปรานีให้ที่อยู่ที่กินกับเรา” “คนที่บ้านนี้ก็ตั้งเยอะแยะนี่คะแม่ ถ้าเราไปอยู่ที่อื่น จะได้ไม่มีใครกดขี่ข่มเหงเราได้อีก” “ใครทำอะไร ก็ย่อมได้รับสิ่งนั้นตอบแทน ถ้าเราทำความดี เราก็จะได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทน อาจจะช้าหน่อย แต่เราต้องภูมิใจที่เกิดมาชาติหนึ่งได้ทำความดีนะลูก หนูต้องรู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ดูแลคุณท่านกับคุณไอศูรย์ให้ดี หนูจำเอาไว้นะจ๊ะลูก ว่าหนูเป็นสายเลือดของไตรสุรเดช คนหนึ่ง หมั่นทำความดีเอาไว้ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ต่อไปความดีจะทำให้หนูได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ” “ค่ะแม่”น “ต่อไปหนูจะพยายามไม่ร้องไห้ หนูจะไม่อ่อนแอเหมือนอย่างที่แม่เคยสอน อีกไม่นานหนูจะเรียนจบแล้วนะคะ พิณคงทิ้งคุณท่านไปไม่ได้เหมือนอย่างที่ป้าอุ่นบอก แม่เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ” พิณทิราถอนใจหนักหน่วง เธอยังตัดใจทิ้งไอศูรย์ไปไม่ได้ เรียนจบแล้วเธออยากช่วยท่านทำงานบ้าง เขาเป็นผู้มีพระคุณคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนที่มารดาจากไป รู้ดีว่ากานดาและวิธาดาไม่ใคร่จะสนใจไยดีไอศูรย์สักเท่าไหร่ ปัจจุบันท่านต้องทำงานเหนื่อยมากเพื่อดูแลหลายชีวิตในครอบครัว ถ้าเธอได้แบ่งเบาภาระนั้นบ้าง คงจะดีไม่น้อย “แกหายหน้าหายตาไปไหนมาเจ้าสิงห์” พยัคฆ์เอ่ยถามบุตรชายคนโตที่กระแทกกายนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกับเขาโดยแรง น้อยหน่าซึ่งเป็นสาวใช้รีบนำน้ำมาเสิร์ฟให้เจ้านายก่อนจะเลี่ยงออกไป สิงหรัตน์ยกน้ำเย็นๆ ขึ้นดื่มด้วยความกระหาย ก่อนตอบบิดา คิดว่าท่านคงไปหาเขาที่เกาะแล้วไม่เจอ “ไปทำธุระมาครับ” “ธุระอะไร หรือไปดูว่าที่เมียมาแล้ว เป็นไงล่ะ ถูกใจหรือเปล่าเจ้าลูกชาย” พยัคฆ์รีบถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “พ่อคิดได้ไง ผมนี่เหรอจะไปดูยัยนั่น” สิงหรัตน์กระแทกลมหายใจหงุดหงิด ถึงกับกุมขมับเมื่อบิดาพูดถึงหญิงสาวใจร้ายคนนั้น ยังอยากถามอยู่เชียวว่าท่านคิดยังไงให้เขาแต่งงานกับเธอ แต่เลือกจะเงียบเพราะเพิ่งบอกท่านไปว่าไม่ได้ไปดูว่าที่เมีย สิงหรัตน์หน้าหงิกเพียงครู่… พอนึกถึงหญิงสาวอีกคนก็เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว พยัคฆ์อมยิ้มตาม นานทีปีหนจะเห็นสิงหรัตน์ยิ้มกับเขาบ้าง ปกติทำสีหน้าเย็นชาเหมือนคนไร้ความรู้สึก “บะ! ไอ้นี่ จะไปรู้เหรอ เห็นไม่เคยโผล่หน้าออกมาจากเกาะ ตกลงแกว่าไงเรื่องแต่งงาน” พยัคฆ์รีบรุกลูกชาย “พ่อบอกว่าบ้านโน้นต้องใช้หนี้ไม่ใช่เหรอ ก็ได้... แค่มีเมีย มันจะไปยากอะไร แต่ผมไม่จัดงานแต่งนะ รับมาอยู่เฉยๆ ถ้าพ่อไม่ตกลงผมไม่รับปาก ถ้าตกลง ย้ายมาอยู่ได้เลย ง่ายๆ จบ” สิงหรัตน์ยักไหล่อย่างไม่แคร์ เขามีแผนการกำจัดว่าที่ “เมีย” ในอนาคตเอาไว้แล้ว ใครจะไปทนอยู่กับผู้หญิงร้ายกาจเอาแต่ใจแบบนั้นได้ กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ แทนที่จะเอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟหรือเอาอกเอาใจนวดให้หายเมื่อย คงทำเสียงแว๊ดๆ แสบแก้วหูแทน … เพียงแค่คิดสิงหรัตน์ก็ทำท่าสยองพองขน จนบิดาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยในท่าทีของบุตรชาย เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหน้าบึ้ง วันนี้มาแปลก แต่สลัดเรื่องนั้นออกไป เพราะเรื่องที่คุยกันอยู่สำคัญกว่าเป็นไหนๆ “แกตกลงก็ดีแล้ว เรื่องนั่นฉันจะจัดการให้ ไว้แกอยากแต่งเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” พยัคฆ์ดีใจมากกว่าอะไรทั้งหมดเมื่อเห็นลูกชายกำลังจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที “ไม่แต่งครับ ชัดไหมพ่อ” สิงหรัตน์ย้ำ “ไม่แต่งก็ไม่แต่ง แต่เอาเค้ามาอยู่แล้ว... ดูแลเค้าด้วยล่ะ ไม่ใช่เอามาทิ้งๆ ขว้างๆ” พยัคฆ์ดักคอลูกชายที่ทำหน้าเซ็งเหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งโลก “เอาเถอะพ่อ ถ้าเค้าทนได้นะครับ แต่ถ้าทนไม่ได้หนีกลับบ้านไป ผมไม่รับรู้นะครับ เรื่องแบบนี้มันบังคับจิตใจกันไม่ได้” สิงหรัตน์ดักคอบิดา “บะ! ไอ้นี่ ยังไงแกก็ปั้มหลานให้พ่อสักคนสองคนสิวะ ฉันแก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว ไม่มีหลานให้อุ้มสักคน” พยัคฆ์พูดอย่างน้อยอกน้อยใจตามประสาคนแก่ “ผมไปแล้วครับ เบื่อ” สิงหรัตน์ตัดบทไม่รับปากคำขอของบิดา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD