ตอนที่ 2 กิจกรรมเข้าจังหวะ

1799 Words
ในคลับประจำและโซนประจำ คุณหมอทั้งสามนั่งดื่มกินพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วเรดาร์ของหมอสาวก็ทำงาน เมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน พวกหล่อนมองมาทางผู้ชายของเธอและเพื่อนชายรักสนุกของเธอตาไม่กะพริบ และเหมือนสองหนุ่มข้างกายเธอจะเล่นด้วยเสียนี่ สองสาวที่สวยที่สุดในกลุ่มเดินเฉียดกรายผ่านโต๊ะของเธอ พวกหล่อนทิ้งสายตามาที่หมอหนุ่มทั้งสอง แล้วเดินนวยนาดผ่านไปทางโซนด้านหลัง ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นโซนเชือดของหนุ่มสาวกลัดมันสองหนุ่มหยิบตาให้กันแล้วขอตัวเธอไปเข้าห้องน้ำสักครู่ เธอรู้ดีทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เธอเจ็บปวดไปทั้งใจเมื่อรู้ว่าคนที่เธอหมายปองกำลังจะไปมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว ทำไมเขาถึงมองข้ามเธอตลอดเวลาทั้งๆ ที่เธอก็สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร มีผู้ชายดีๆเข้ามาจีบเธอตลอดแต่เธอเลือกที่จะรอเขาคนเดียวเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่เธอได้รับกลับมาเสมอ แต่ในฐานะเพื่อนเธอจะแสดงความรู้สึกอะไรมากมายนักไม่ได้เลย หมอสาวยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เธอเติมแล้วดื่มแบบนี้อีกหลายแก้วติดกันจนมึนเมาได้ที่ เธอไม่มีสติพอที่จะควบคุมตนเองได้อีกแล้ว จึงออกเดินไปตามทางที่เพื่อนชายของเธอทั้งสองเดินหายเข้าไปทันที เมื่อเข้ามาภายในทางที่ค่อนข้างมืดและมีช่องทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด อีกทั้งยังมีแผ่นไม้กั้นเป็นฉาก กล่องลังตั้งจนสูง เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ต้องหลบๆซ่อนๆนัก เธอเดินโซเซเข้ามาหลบอยู่ในช่องหลืบหนึ่ง หมอสาวยกมืออันสั่นเทาปิดปากตัวเองแน่น กลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดหลุดออกมา น้ำตาไหลพรากจากดวงตาที่ตกแต่งมาอย่างงดงาม ภาพตรงหน้าทำเอาเธอเข่าแทบทรุด หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังกอดรัดกันนัวเนีย ผู้หญิงเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ส่วนชายหนุ่มที่ยืนหันข้างให้เธอ เธอจำดีว่าเขาเป็นใครแม้ข้างในนี้จะค่อนข้างมืด ชายหนุ่มที่เสื้อผ้ายังอยู่บนตัวครบทุกชิ้น กำลังสาวสะโพกสอบกระแทกกระทั้นร่างงามตรงหน้าที่ถูกเขายกขาข้างหนึ่งขึ้นสูง เขาเด้งสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่นานก็หยุดนิ่งไปทั้งคู่ ชายหนุ่มถอดถอนตัวตนออกมาแล้วรูดปอกป้องกันออกทิ้งที่พื้นแล้วหยิบอีกชิ้นมาสวมครอบไว้ มือแกร่งจับร่างงามให้หันหลังให้ตนแล้วสอดแทรกท่อนเอ็นใหญ่เข้าสู่กายงามอย่างแรง มือแกร่งกำสะโพกผายของผู้หญิงที่ยืนด้านหน้าเขาแน่น แล้วกระแทกกระทั้นตอกตรึงตัวตนของตัวเองเข้าออกกายเธออย่างไม่มีคำว่าปรานี ภาพตรงหน้าทำเอาเธอแทบยืนไม่อยู่อยากจะไปจากตรงนี้ก็ก้าวขาไม่ออกจึงต้องยืนมองคนทั้งคู่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับเสียงดนตรีที่แสนเร้าใจในร้านต่อไป หมอหนุ่มเร่งจังหวะรัวแรงจนคนที่แอบยืนมองยังแทบหยุดหายใจ ไม่นานบทเพลงของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลงเมื่อสาวสวยกรีดร้องโหยหวนอย่างไม่อายใครในจังหวะที่เขากระแทกสะโพกอย่างแรงครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มถอดถอนตัวตนออกมาทันทีแล้วรีบรูดปอกป้องกันทิ้งลงพื้นที่เดิม เธอมองเห็นสิ่งแบบนี้กองอยู่แทบเท้าเขาสองชิ้น และเมื่อมองไปรอบๆ แม้กระทั่งที่เท้าของเธอก็มีสิ่งเหล่านี้กองเรียงรายอยู่ เธอขยะแขยงสถานที่แห่งนี้จนแทบอาเจียน หมอหนุ่มเก็บอาวุธคู่กายเข้าที่ทันทีแล้วรูดซิปรัดเข็มขัดอย่างเรียบร้อยตามเดิม เขาก้มลงกระซิบที่ข้างหูผู้หญิงคนนั้นแล้วเดินออกไปทันทีอย่างไม่หันกลับมาเหลียวแลหล่อนอีก หญิงสาวคนนั้นรีบจัดชุดของหล่อนให้เข้าที่เข้าทางแล้วก็เดินออกจากสถานที่แห่งนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อทั้งสองคนเดินออกไป เธอก็สูดหายใจลงปอดให้ลึกแล้วก้าวเดินตามออกไป เธอแวะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างคราบน้ำตาออกจากใบหน้าให้หมดเพื่อกลับไปเจอเพื่อนสนิททั้งสองให้เหมือนปกติ “ไปไหนมาตั้งนานน่ะพรีม” เสียงทุ้มแสดงความเป็นห่วงใยดังออกมาจากปากของเขา คนที่เธอหลงรัก “ไปห้องน้ำมา คนเยอะมาก” “เราก็เป็นห่วง กลับมาตั้งนานแล้วหาพรีมไม่เจอ” นานเหรอ เขาเพิ่งแยกจากร่างกายของผู้หญิงคนนั้นเมื่อครู่นี่เอง แค่คิดก็สะท้อนในใจ ดวงตางามคลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่ใกล้จะไหลลงมาเต็มที หมอสาวกลั้นใจยกแก้วขึ้นกระดกจนหมด “เบาๆ เดี๋ยวก็เมาหรอก ฉันกับไอ้เหนือขี้เกียจดูแล” เสียงดังมาด้านหลัง เป็นราวินที่บ่นเพื่อนสาวเบาๆ ด้วยแววตาห่วงใย แต่คนปากไม่ดีที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอย่างเขากับเธอ คงพูดกันดีๆ ได้ไม่เกินสองคำ “ใครใช้ให้นายมาดูแล แค่เหนือคนเดียวก็พอแล้ว” “เออ จำไว้ วันไหนไอ้เหนือมันมีเมีย แล้วมันไม่เหลียวแลเธอ อย่ามาง้อหมอวินผู้หล่อเหลาและเป็นที่ต้องการของสาวๆคนนี้ล่ะ” “เหนือมีแฟนแล้วเหรอ” เธอไม่สนใจคำพูดใดๆของราวินอีก หันไปถามพิชญะทันทีในสิ่งที่เธอกลัวมาตลอด กลัวว่าเขาจะแอบไปมีใครโดยที่เธอไม่รู้และไม่ทันได้ขัดขวาง “ยังหรอก คงไม่มีแล้วมั้ง อยู่กับแม่กับน้องสาวดีกว่า ขี้เกียจทำให้ผู้หญิงเสียใจ” แววตาคมวูบไหวลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงแม่กับน้องสาว พิชญะมีอดีตที่ขื่นขมในวัยเด็ก เพราะพ่อแท้ๆทิ้งแม่ น้องสาวและเขาไปอย่างไม่ใยดี พวกเขาต้องหอบหิ้วเสื้อผ้าย้ายไปอยู่บ้านเก่าของแม่ที่ชานเมืองอยู่หลายปี กว่าที่แม่จะตั้งตัวได้ ช่วงแรกๆทั้งแม่และน้องสาวของเขาร้องไห้แทบทุกวัน ทั้งคู่แทบไม่แตะอาหารจนร่างกายซูบผอม แม่และน้องเกือบเป็นโรคซึมเศร้า เขาในวัยเพียงแปดขวบต้องทำตัวให้เข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักที่พึ่งทางใจของแม่และน้องและก็เป็นแบบนั้นเสมอมา ทั้งสองคนเปรียบเสมือนดวงใจของเขา เขาจึงทั้งรักและห่วงแม่ละน้องมาก รวมไปถึงหวงน้องสาวมากด้วย เพราะรู้ดีว่าผู้ชายมันเป็นอย่างไร ขนาดเขาเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย ว่าจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้คนเดียวตลอดชีวิตหรือไม่ เขาไม่อยากเป็นแบบพ่อ เขาไม่อยากทำให้ลูกและเมียเสียใจหากวันหนึ่งเขาไม่ได้เป็นคนดีแบบเดิม ไม่อยากให้ลูกเมียหรือผู้หญิงที่ไหนก็ช่างมาตกอยู่ในสภาพเดียวกับที่แม่และน้องสาวเขาเคยเป็นมา เขาจึงไม่คิดมีใครเป็นตัวเป็นตน และสนุกสุดเหวี่ยงกับผู้หญิงง่ายๆ ที่หาได้ตามสถานที่แบบนี้ พวกที่ไม่คิดอะไรมาก และมีรสนิยมรักสนุกไม่คิดผูกพันเหมือนกัน และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่กล้าก้าวข้าวความสัมพันธ์ที่มากกว่าคำว่าเพื่อนกับเธอ พริมา ผู้หญิงที่สวย เก่ง ฉลาด นิสัยดี เข้าใจและอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพราะเขากลัวว่าหากไม่ได้เป็นดั่งที่ใจคิดฝัน เมื่อเขาทั้งคู่ต้องจบความสัมพันธ์ลง ความเป็นเพื่อนที่ดีเสมอมามันจะหมดไป เขาขอยืนอยู่ในจุดที่เป็นเพื่อนที่รักและห่วงใยเธอแบบนี้ ให้เธอไปเจอกับคนที่ดีที่พร้อมจะดูแลเธอน่าจะดีกว่า พริมาและราวิน ได้เห็นแววตาวูบไหวนี้ของพิชญะเช่นกัน ทั้งคู่รู้ดีว่าเหตุใดพิชญะไม่ยอมมีใครจริงจังเสียที และนี่ก็อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาไม่แสดงท่าทีต่อเธอมากมายไปกว่าเพื่อนก็ได้ ถึงแม้บางทีเธอก็แอบรู้สึกบ่อยครั้งว่าเขาก็มีใจให้เธอไม่น้อย “เห้ย คิดมากน่า วันหนึ่งถ้าแกเจอคนที่ใช่ แกก็จะก้าวผ่านจุดนั้นมาได้เอง แต่วันนี้แกก็สนุกสุดเหวี่ยง ฟันสาวเป็นเพื่อนฉันก่อนโว้ยเพื่อนรัก” “วิน นายจะฟันก็ฟันไปคนเดียวสิ ทำไมต้องมาชวนเพื่อนใจแตกด้วย” หมอสาวแหวใส่เพื่อนตัวร้าย “โห คุณหมอพรีมครับ เพื่อนคุณหมอเนี่ย ตัวดีเลยครับ เห็นนิ่งๆแบบนี้ มันฟันเรียบนะครับ” “โอ๊ย พอๆเลย ฉันไม่อยากฟัง” “แสลงใจหรือครับ ธรรมดาน่า ชายโสดก็ต้องมีบ้าง ถ้าฉันมีแฟน ฉันก็หยุดเหมือนกัน” ราวินพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง สบตาหมอสาวด้วยประกายตาเจือแววเศร้า “อกหักมาหรอนายวิน” เธอเห็นประกายเศร้าในตาเพื่อนเพียงครู่ก็ให้สงสัย เหตุใดชายหนุ่มที่แสนจะร่าเริงและแรดที่สุดในกลุ่มถึงมีประกายตาเศร้านักเมื่อพูดคำว่าแฟน “อือ นานแล้ว แต่ไม่หาย ช่างเถอะ” ราวินตอบปัดแบบส่งๆไม่ให้ใครสงสัย แต่ไหนเลยเรื่องนี้จะรอดพ้นสายตาและความรู้สึกของพิชญะไปได้ เขารู้ดีมาตลอดว่าราวินแอบรักพริมามานาน เผลอๆนานกว่าเขาด้วยซ้ำ เขาค่อนข้างชัดเจนและใจแข็งพอสมควร ความรักที่มีต่อพริมาจึงหลงเหลือเพียงความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน และปรารถนาดีต่อเพื่อนคนนี้เสมอ และยิ่งรู้และแน่ใจว่าราวินคิดอย่างไรกับเธอ เขายิ่งขีดเส้นกั้นความสัมพันธ์นี้ไว้เพียงแค่เพื่อนเท่านั้น เพราะเขาไม่ต้องการจะเสียเพื่อนที่ดีที่สุดทั้งสองคนไปสังเวยให้กับความรักที่ไม่รู้มันจะจอมปลอมและหักหลังเขาเหมือนที่หลายๆคนโดนมันกระทำไหม “มาๆ ดื่มย้อมใจกันดีกว่า คืนนี้ยังอีกยาวไกล ฉันเมาก็ดูแลฉันด้วยละกัน” ราวินกลับมาร่าเริงอีกหน แล้วทั้งสามก็เข้าสู่โหมดสนุกสนานจนถึงเวลาคลับปิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD