ธนภพใช้เวลาว่างทั้งหมดที่เขามีไปกับการคิดถึงกมลเมตร เรื่องของเธอ ใบหน้าของเธอ รอยยิ้มของเธอ ความร้ายกาจของเธอ และสายตาอันเร่าร้อนของเธอ เขาคิดย้อนกลับไปตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรก ที่งานแต่งงานของกฤษนัยและอัญญา เมื่อเขาเข้างานมาตอนค่ำ ๆ สายตาของเขาสะดุดเข้ากับใบหน้าสวยที่แฝงด้วยความร้ายกาจบางอย่าง
แต่เมื่อเธอยิ้ม ดวงตาของเธอก็ยิ้มด้วย เธอดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างในงานแต่งของเพื่อนสนิทได้ยอดเยี่ยม แม้ว่าเธอจะเหนื่อยมาก จนต้องแอบมาดื่มน้ำเย็นเงียบ ๆ คนเดียว เพราะกลัวเพื่อนของเธอจะเป็นห่วง แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเขาที่คอยแอบมองเธอได้ และเมื่อถึงเวลาปาร์ตี้ เธอก็เต็มที่ไม่แพ้กัน เขาตั้งใจว่าจะอยู่ร่วมยินดีกับบ่าวสาวไม่นานนัก แต่เมื่อเห็นกมลเนตรที่เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปเพราะแอลกอฮอล์ เขาจึงตัดสินใจไปนั่งเงียบ ๆ ที่มุมมืด เพื่อดูเธอห่าง ๆ
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปเพื่ออะไร รู้ตัวอีกที เขาก็เห็นปัญหาที่กมลเนตรสร้างให้กับคู่บ่าวสาวซะแล้ว และก็ไม่รู้เหตุผลอะไรอีกเหมือนกัน ที่ทำให้เขาลุกจากเก้าอี้ในตอนนั้น และเมื่อได้อยู่ใกล้เธอจริง ๆ ก็ทำให้เขารู้ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงแค่ไม่นานเพราะไม่ว่าเธอจะเมาหรือไม่เมา ปากของเธอก็ช่างร้ายกาจพอ ๆ กับหน้านางร้ายในละคร เหมือนที่เขาเห็นตอนแรกไม่มีผิดเพี้ยน แต่ก็เพราะหน้านางร้ายแบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้หนึ่งอาทิตย์ของเขา ยาวนานเหมือนหนึ่งปี
"พรุ่งนี้เจอกันนะ... กุ๊บกิ๊บ" ธนภพยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แผนการณ์ที่จะได้เจอกมลเนตรอีกครั้ง ต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่
"สวัสดีครับ มาพบคุณปาณิดาครับ" ธนภพแจ้งกับแผนกต้อนรับ
"นัดไว้หรือเปล่าคะ" พนักงานถามด้วยความเป็นมิตร
"นัดครับ ชื่อธนภพ" เขาส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ให้พนักงาน จนคนที่รับรอยยิ้มนั้นแทบละลาย
"รบกวนติดบัตรนี้ที่เสื้อด้วยนะ ขึ้นลิฟต์ทางด้านขวามือ ชั้น 19 ค่ะ"
"ขอบคุณครับ" ธนภพสิ่งยิ้มแบบที่สาว ๆ ชอบให้เธออีกครั้ง ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 19 และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก สายตาของเขาก็ประสานกับคนที่คุณก็รู้ว่าใครทันที
"ไอ้..." กมลเนตรกำลังจะอ้าปากต่อว่าเขา ที่เขากล้ามาให้เธอเห็นหน้าอีก แถมยังเป็นในที่ทำงานของเธอด้วย แต่เธอก็ต้องกลืนคำด่าลงคอเสียก่อน เมื่อสายตาว่างเปล่าของธนภพที่สบตา มองผ่านไหล่เธอไป
"แทนนนน ขอบคุณที่มานะคะ" เสียงหวานที่ฟังเท่าไหร่ก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทักทายธนภพก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
"วันนี้แป้งไม่ว่าง งานเยอะมากค่ะ ลูกค้าติดต่อโฆษณาเข้ามาเยอะมาก ๆ" เธอเน้นประโยคหลังให้กมลเนตรได้ยิน ปาณิดา หรือ แป้ง คือหัวหน้าทีมฝ่ายโฆษณาของ Today News ซึ่งเป็นคู่อริของกมลเนตร เธอถือตัวว่าสนิทสนมกับเขาซะเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเพิ่งเคยเจอเขาเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น ครั้งแรกก็ตอนที่ธนภพมาติดต่องานกับพี่ชายของเขา ปาณิดาและกมลเนตรเข้าทำงานพร้อม ๆ กัน แต่เมื่อมีผลประโยชน์ทางการเงินเข้าครอบงำ ปาณิดาจึงแย่งลูกค้าจากเธอ ชนิดที่เรียกว่าปาดหน้าเค้ก ตอนแรกกมลเนตรไม่เอะใจอะไร แต่ความจริงก็ปรากฏเมื่อเธอบังเอิญทราบว่าปาณิดา ใช้วิธียั่วยวนบรรดาเจ้าของสินค้าอายุคราวพ่อ แถมยังใส่ร้ายทีมของเธออยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความสามารถของเธอและทีม จึงทำให้กมลเนตรและทีมของเธอ ยังคงเป็นที่หนึ่งของช่องอย่างต่อเนื่อง
"ยินดีครับ" ธนภพยังคงไม่สนใจเธอเช่นเดิม
"ทางนี้ค่ะแทน รอแป้งที่ห้องประชุมก่อนนะคะ เดี๋ยวแป้งไปหยิบรายละเอียดรายการต่าง ๆ และละครใหม่ที่เตรียมออนแอร์มาให้ดูนะคะ" ปาณิดาไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น เธอเดินควงแขนเขาอย่างสนิทสนม จนคนอื่น ๆ มองด้วยความอิจฉา
"สงสัยจะเป็นแฟนใหม่พี่แป้งนะคะ เห็นว่าทำงานที่ห้างอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ กระเป๋าหนักด้วยนะ ลงทุนซื้อโฆษณาเพิ่มยอดขายให้พี่แป้งด้วย" กมลเนตรได้ยินเสียงพนักงานสองคนที่อยู่ใกล้ ๆ เธอแสดงความคิดเห็น เธอรู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งโกรธตัวเองที่เข้าใจว่าธนภพตามมาหาเรื่อง ทั้งหงุดหงิดที่เขามองผ่านเธอไปเหมือนเป็นอากาศ และที่เธอไม่ชอบที่สุดคือคนที่ธนภพมาหาปาณิดา เขาจะมาให้ใครก็ได้ ทำไมต้องเป็นแป้งเน่า ศัตรูของเธอด้วย!
"กิ๊บ!" เสียงเรียกชื่อของกมลเนตรดังขึ้น เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง
"โอม!" กมลเนตรทักตอบด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
"ไหนบอกว่าวันนี้ไปถ่ายละครต่างจังหวัดไง?" เธอถามขณะที่เขาเดินตรงมาหาและสวมกอดเธอแบบหลวม ๆ ธนภพนั่งอยู่ในห้องประชุมที่เป็นกระจกใส มองชายแปลกหน้าที่โผเข้ากอดกมลเนตร ด้วยความรู้สึกว่าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน
"คนที่เจอที่คอนโดนี่เอง" เขาหาคำตอบให้ตัวเองจนเจอ ธนภพมองทั้งสองยืนคุยกันอย่างความสนิทสนมด้วยความรู้สึกอยากเข้าไปจับทั้งคู่ให้แยกออกจากกันเหลือเกิน แต่ความคิดของเขาก็ต้องหยุดลง เมื่อปาณิดาเดินกลับมาให้ห้องประชุม และเป็นเวลาเดียวกับที่กมลเนตรและชายแปลกหน้า เดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยรอยยิ้มที่กมลเนตรไม่เคยยิ้มมีให้เขาแบบนั้นเลย
"ผู้ชายคนนั้นใครเหรอครับ" ธนภพเอ่ยถามปาณิดา พร้อมกับชี้ไปที่ประตูลิฟต์ที่กำลังเลื่อนเข้าหากัน ปาณิดามองไปตามนิ้วของเขา และเบะปากออกมาเบา ๆ เพราะเห็นกมลเนตรอยู่ในนั้นด้วย
"อ๋อ โอมค่ะ โอม อภินันท์... มีอะไรเหรอคะ?" ปาณิดาตอบ
"รู้สึกคุ้น ๆ หน้าครับ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
"แทนต้องคุ้นอยู่แล้วค่ะ โอมเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของช่องเลยนะคะ แฟนคลับเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ละครที่โอมเป็นพระเอก ขนาดยังไม่คอนเฟิร์มวันออนแอร์ สปอนเซอร์ก็แห่จองโฆษณากันเต็ม แต่ถ้าแทนสนใจจะลงโฆษณาละครของโอม แป้งช่วยได้นะคะ" ปาณิดาพูดยาวเยียดแทบไม่ได้หยุดหายใจ และประโยคสุดท้ายก็ส่งสายตาหวานให้เขา
"ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณมากนะคะ คุยธุระเลยดีกว่า ผมต้องกลับไปทำงานตอนบ่ายต่อด้วย" ธนภพเปลี่ยนเรื่อง เมื่อได้คำตอบที่เขาต้องการ วันนี้เขามาทำงานในฐานะตัวแทนของบริษัทรับจัดส่งสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของครอบครัวของเขา แต่เนื่องจากพี่ชายของเขาเก่งด้านบริหารและชอบงานด้านนี้มากกว่า จึงได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการของครอบครัว ส่วนเขามีความต้องการที่จะประสบการณ์ในการทำงาน และประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง จึงเลือกทำงานกับบริษัทของกฤษนัย ผู้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายของเขา ซึ่งครอบครัวของธนภพก็เข้าใจเป็นอย่างดี เพียงแต่ขอให้เขาช่วยกิจการที่บ้านเป็นครั้งคราวเท่านั้น
"ค่ะ แทนอยากลงโฆษณากับรายการประเภทไหน หรือว่าละครช่วงไหนคะ" เธอถามพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ไปใกล้เขายิ่งขึ้น
"ผมสนใจรายการที่ผู้หญิงวัยกลางคนสนใจครับ อาจจะเป็นรายการทำอาหารที่มีในช่วงบ่าย หรือละครที่เอามาฉายซ้ำช่วงบ่ายก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มีแม่บ้านที่หันมาทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น" เขาบอกพร้อมกับถอยเก้าอี้ออกห่างจากปาณิดาเล็กน้อย
"ไม่สนใจช่วงละครหลังข่าว หรือว่ารายการข่าวสดช่วงเย็นเหรอคะ" ปาณิดาเสนอ เพราะทั้งสองช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่จะสร้างรายได้ให้สถานีและผลงานให้เธอมากกว่า
"ไม่ครับ" ธนภพตอบอย่างหนักแน่น
"ช่วงข่าวตอนเช้าก็น่าสนใจนะคะ เป็นเวลาของครอบครัวเหมือนกัน" เธอยังคงเสนอช่วงเวลาที่ได้ผลตอบแทนเยอะ ๆ ให้เขาฟังไม่หยุดหย่อน ไหนจะใช้เนื้อตัวเบียดเสียดธนภพ ไหนจะสายตาหวาน ๆ ที่เธอส่งให้ แต่ธนภพก็ไม่มีท่าทางโอนอ่อนให้เธอเลย
"ไม่ครับ ช่วงนี้คุณแม่ทั้งหลายคงยุ่งกับอาหารเช้าลูก ๆ ซะมากกว่า คงไม่ได้ตั้งใจดูทีวีหรอกครับ ตอนบ่ายนี่แหละครับ เหมาะที่สุดแล้ว เพราะเป็นเวลาพักผ่อน และเป็นเวลาแพ็กสินค้าก่อนออกไปส่งช่วงเย็นด้วย" ธนภพบอกเหตุผลของเขาให้เธอฟังอีกครั้ง ปาณิดาได้ฟังก็รู้ว่าคงจะหว่านล้อมเขาไม่สำเร็จแล้ว
"โอเคค่ะ รายละเอียดตามนี้นะคะแทน" เธอยื่นแฟ้มเอกสารที่แสดงการประเมินราคาในแต่ละรายการที่เขาสนใจ ธนภพตัดสินใจเลือกรายการที่ดีที่สุด ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ก่อนจะตกลงรายละเอียดอื่น ๆ กับปาณิดา และเมื่อเสร็จธุระของเขาเรียบร้อย เขาจึงขอตัวกลับอย่างรวดเร็ว
"ผมกลับก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมติดต่อพี่ชายผมได้เลยนะครับ" เขาบอกพร้อมกับกระชับเสื้อสูทให้เขาที่
"ทำไมล่ะคะ แป้งคิดว่าจะได้เจอแทนบ่อย ๆ ซะอีก" ปาณิดาเดินไปจับมือของเขา
"พี่ชายผมไปดูงานที่ต่างประเทศครับ ผมเลยต้องมาคุยงานแทนเฉย ๆ " ธนภพดึงมือของเธอออกอย่างรักษามารยาท
"สวัสดีครับ" เขาบอกก่อนจะเดินออกจากห้องประชุม ทิ้งให้ปาณิดาหน้ามุ่ยอยู่ในห้อง
"นี่ขนาดอ่อยแล้วยังไม่สนใจอีก แล้วดูรายการที่ซื้อไปลงโฆษณาสิ แบบนี้ฉันจะไปได้ผลงานอะไร" เธอบอกอย่างไม่พอใจ
"สวัสดีครับ คุณกมลเนตร" ธนภพเข้าไปทักกมลเนตร เมื่อเห็นเธอนั่งอยู่ในร้านกาแฟใต้ตึกที่ทำงานของเธอ
"คุณเป็นใครเหรอคะ" เธอเงยหน้ามาถามเขาด้วยตาใสซื่อ
"เป็นผัวคุณไงครับ... นั่งด้วยนะ" เขาโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูของเธอ และเดินมานั่งตรงข้ามเธอ โดยที่ไม่รอคำอนุญาต กมลเนตรหน้าแดงด้วยความโกรธ
"หน้าแดงแบบนี้เขินหรือว่าโกรธ" เขาถามพลางหยิบแก้วกาแฟของเธอขึ้นมาดื่ม
"ไม่มีปัญญาซื้อกินเองหรือไงฮะ เสียมารยาท" กมลเนตรแย่งแก้วกาแฟของเธอกลับคืนมา
"มี แต่ผัวเมียกัน กินแก้วเดียวกันก็ไม่แปลกนิ อย่างอื่นยังทำด้วยกันมาแล้วเลย" เขายักไหล่สบาย ๆ
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!" เธอส่งสายตากินเลือดกินเนื้อให้เขา
"เมื่อกี้คุยกับใครหน้าลิฟต์" เขาจ้องตาเธอรอคำตอบ
"เห็นฉันด้วยเหรอ" เธอถามกลับ
"เห็นสิ แล้วก็ได้ยินด้วยว่าเธอกำลังด่าฉัน แต่หน้าแตกซะก่อน" เขายิ้มกวน ๆ กมลเนตรหน้าแดงอีกครั้ง แต่เป็นเพราะความอาย ที่โดนเขาจับได้
"ตกลงว่าผู้ชายคนเมื่อกี้ใครครับ คุณเมีย" เขาเอียงตัวเข้ามาใกล้กมลเนตร
"ฉันไม่บอก!" เธอโน้มตัวมาใกล้เขา และตอบอย่างท้าทาย
จุ๊บ! ธนภพจุ๊บปากเธอทันที
"ไอ้!"
"ด่าสิ จะได้จุ๊บอีก แต่ถ้าด่าเรื่อย ๆ จะจับมาจูบให้ร้องครางลั่นร้านเลย" เขาบอกและยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ กมลเนตรกลืนคำด่าของตัวเองลงคอ ก่อนจะนั่งตัวตรง เมื่อกี้จะมีคนเห็นมั้ยเนี่ย!
"ไม่ถามฉันเหรอ ว่าฉันมาทำอะไร" ธนภพถามกมลเนตร เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจเขาเลย
"ไม่ต้องถามให้เสียเวลาหรอก นายก็มาซื้อโฆษณากับยัยแป้งเน่า เอ๊ย แป้ง" เธอตอบขณะที่มือยังเลื่อนขึ้นลงบนหน้าจอไอแพด
"รู้ดีจัง" ธนภพใช้คำชมแบบกวนประสาทเธอ
"รู้ดีและรู้เร็วด้วย"
"แล้วไม่เดือดร้อนอะไรเลยเหรอ"
"เดือดร้อนทำไมล่ะ เวลาที่นายซื้อไป ไม่ได้สร้างผลงานให้ทีมนั้นสักเท่าไหร่หรอก กระจอกมาก" กมลเนตรวางท่าอย่างผู้ชนะ
"เค้าก็หว่านล้อมให้ผมซื้อช่วงเวลาแพง ๆ นะ แต่ผมไม่สนใจ"
"ฉันถามจริง ๆ นะ นายโดยยัยนั่นเอานมเบียดแขนหรือเปล่า" กมลเนตรถามอย่างสนใจจนธนภพอึ้งกับคำถามและท่าทางของเธอที่เหมือนมันสลักสำคัญมากมายเหลือเกิน
"ก็... ก็โดนนะ แต่ก็ไม่นุ่มเท่าของเธอหรอก" เขาตอบตามตรง
"ฉันถามแค่คำถามเดียว ไม่เห็นต้องอธิบายชัดขนาดนั้นเลย! แต่ก็แน่แหละ ของฉันมันธรรมชาติ ยัยนั่นน่ะซิลิโคนกี่ซีซีก็ไม่รู้" เธอเบะปากด้วยความเกลียดชัง
"เหรอ ธรรมชาติเหรอ ขอพิสูจน์ได้มั้ย" ธนภพกำมือเข้าออกเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง และส่งสายตาหื่น ๆ ให้เธอ
"รอชาติหน้าเถอะ!" กมลเนตรต่อว่าเขา
"นี่ ฉันถามตรง ๆ นะ นายสืบเรื่องฉันมาหมดแล้วใช่มั้ย หมายถึงหน้าที่การงานของฉันอะ ฉันคงทำให้นายคิดถึงมากสินะ แต่ฉันไม่ถือหรอก ชินละ พวกผู้ชายนี่แปลกนะ อยากทำความรู้จักกับฉัน แทนที่จะมาถามฉันเอง กลับไปนั่งหาข้อมูลเองเหมือนตัวเองเป็นกูเกิ้ล แต่ที่ฉันสงสัยคือ บ้านนายทำธุรกิจด้วยเหรอ แล้วทำไมไม่ช่วยงานที่บ้าน มาทำงานเป็นลูกน้องพี่กฤษทำไมล่ะ" กมลเนตรบอกสิ่งที่เธอคาดการณ์ไว้ และถามเขาเรียบ ๆ ด้วยท่าทีสงบศึก ธนภพสารภาพกับกมลเนตรตามตรงเรื่องที่เขาสืบข้อมูลเรื่องเธอ และบอกเล่าเรื่องงานของเขาให้เธอฟังอย่างไม่ปิดบัง
"อยากจะสร้างอาณาจักรของตัวเองในอนาคตว่างั้น?" กมลเนตรถามเพราะเข้าใจว่าคงอยากสร้างธุรกิจของตนเองมากกว่า
"ก็ประมาณนั้น"
"สู้ ๆ นะ ฉันไปทำงานต่อละ" เธอบอกพร้อมกับลุกจากเก้าอี้
"เดี๋ยวสิ นั่งก่อน มีเรื่องจะคุยด้วย" ธนภพบอกอย่างขอร้อง
"ว่ามา" กมลเนตรหันกลับมาหาเขา แต่ไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้
"ทำไมวันนี้พูดดีกับฉันจัง" เขาถามอย่างสงสัย เพราะสิ่งที่เธอทำกับเขาวันนั้นช่างแตกต่างกับวันนี้เหลือเกิน
"ไม่รู้เหมือนกัน ได้เอาคืนแล้วมั้ง ก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ไม่รู้จะโกรธทำไม" เธอบอกความรู้สึกของเธอไปตามตรง
"เธอนี่แปลกดีนะ แต่ฉันชอบ ขอบใจนะ... แล้วนั่งลงได้หรือเปล่า อยากคุยเรื่องโฆษณาด้วย"
"โฆษณาอะไร?" เธอถามด้วยความสงสัย แต่ในใจตื่นเต้นไปหมดแล้ว
"ก็อยากซื้อโฆษณากับทีมเธอด้วยไง จะนั่งหรือไม่นั่งล่ะ" กมลเนตรดีใจจนออกนอกหน้า และรีบนั่งลงอย่างรวดเร็ว ท่าทีของกมลเนตรที่กระตือรือร้นเหมือนเด็กได้ของเล่นทำให้ธนภพหัวเราะออกมาเบา ๆ
"โอเค ฉันยอมให้นายหัวเราะฉันนะ แต่นายจะซื้อโฆษณาในช่วงเวลาที่ดีกว่าของยัยแป้งเน่าใช่มั้ย ตอบฉันมา!"
"ใช่! ฉันก็ต้องสนับสนุนเมียฉันมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว" เขายิ้มออกมาอย่างอัตโนมัติเมื่อเห็นยิ้มกว้างของกมลเนตร
"ดีมาก! แต่ฉันไม่ใช่เมียนาย!" กมลเนตรเดินมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เขา ก่อนจะเปิดรายละเอียดต่าง ๆ ในไอแพดให้เขาดู พร้อมกับพูดจาอย่างคล่องแคล่วและเป็นมืออาชีพ ธนภพสังเกตว่าเวลาเธอทำงาน สายตาของเธอมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และด้วยเสียงหวาน ๆ กับรอยยิ้มของเธอ ลูกค้าไม่ว่าจะวัยไหน หรือจะเพศใด ก็ต้องยอมเซ็นสัญญากับเธอแน่ ๆ
"ขอคั่นเวลาหน่อยได้มั้ย" ธนภพถามขัดจังหวะ ขณะที่กมลเนตรจ้อไม่หยุด
"ได้สิ" เธอบอกอย่างรอคำตอบ
"ต่อไปนี้ห้ามยิ้มแบบนี้ให้ผู้ชายคนอื่นนอกจากฉันได้หรือเปล่า" เขาสบตาหวานซึ้งให้เธอรู้ว่าเขาหมายความแบบนั้นจริง ๆ กมลเนตรถูกสายตาคมของเขาสะกดก็ตกอยู่ในภวังค์โดยที่ไม่รู้ตัว จนเมื่อลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาแนบอยู่ที่ข้างแก้ม เธอจึงได้สติขึ้นมา
"ฟังต่อนะ" เธอไม่ตอบรับคำขอของเขา และพูดเรื่องงานของเธอต่อจนจบ
"ตกลงตามนี้ครับ" ธนภพพยักหน้าเข้าใจงานที่ตกลงกับกมลเนตรอย่างดี
"อ้าว! แทน... ทำไมมาอยู่กับยัย เอ้ย กุ๊บกิ๊บได้ล่ะคะ รู้จักกันด้วยเหรอคะ ไหนบอกแป้งว่ามีประชุมต่อตอนบ่ายไงคะ" ปาณิดาเดินเข้ามาทักธนภพ โดยใช้หางตามองกมลเนตร
"นี่ก็เพิ่ง 11 โมง ผมมีประชุมตอนบ่ายสอง" เขาบอกเรียบ ๆ และแอบลอบสังเกตปฏิกิริยาของทั้งสองสาวที่ไม่ลงรอยกันว่าจะมีท่าทีอย่างไร กมลเนตรนั่งเฉย ๆ ไม่สนใจปาณิดาเลยแม้แต่น้อย
"แหม แบบนี้ทำไมไม่ให้แป้งเลี้ยงข้าวตอบแทนหน่อยล่ะคะ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะคะ" เธอเชิญชวนเขาทุกวิถีทาง
"ขอบคุณครับ" ธนภพตอบ
"แปลว่าตกลงใช่มั้ยคะ" ปาณิดาถามแทรกขึ้นมาด้วยความดีใจ
"แปลว่าไม่ได้ครับ วันนี้คุณกมลเนตรต้องเลี้ยงมื้อเที่ยงผม ถูกมั้ยครับ" เขาหันไปถามกมลเนตรที่ทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
"เกี่ยวอะไรกับกิ๊บด้วยล่ะคะ แทนไม่ได้ซื้อโฆษณากับเค้าซะหน่อย" ปาณิดาโดนหักหน้าครั้งที่หนึ่ง
"เกี่ยวสิ เค้าซื้อโฆษณากับฉัน... นับก่อนนะว่ากี่รายการ 1. ข่าวสดเช้านี้ 2. ข่าวต้นชั่วโมงช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสี่โมงเย็น 3. ข่าวเด่นเย็นนี้ 4. แม่บ้านเข้าครัว อ๊ะ ๆ ลืมนับอีกอัน รายการที่ 5. เที่ยงวันทันสถานการณ์ แล้วก็ละครที่ยังระบุเรื่องไม่ได้อีกทั้งไตรมาสหน้า รวม ๆ แล้วก็...เกือบสิบล้าน เอ๊... หรือเกิน ปวดหัวหมดละ คิดเลขไม่ทันอะ" กมลเนตรบอกอย่างเยาะเย้ย จนปาณิดาหน้าชา เพราะยอดเงินของกมลเนตรเยอะกว่าเธอเกือบสามเท่าตัว!
"คงจะใช้มารยาหลายเล่มเกวียนสินะ" ปาณิดาเย้ยหยัน
"อย่าพูดแบบนี้กับกิ๊บนะครับ" ธนภพโกรธจัด ที่ปาณิดากล่าวหากมลเนตร
"อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองสิ! ฉันไม่เคยเล่นสกปรกอยู่แล้ว นี่ขนาดเธอเอานมไปเบียดเค้ายังได้แค่นี้ ถ้าไม่ใช้เต้าไต่คงไม่ได้อะไรเลยนะ ว่ามั้ย? นี่ยังไม่รู้อีกเหรอว่าเค้าซื้อโฆษณากับเธอเพราะต้องการรักษาคอนเนคชัน ลูกค้าใหม่ ๆ ของเธอก็แต่พวกเสี่ยแก่ ๆ สินค้ายาดมยาหอม! เมื่อไหร่จะหากินด้วยความบริสุทธิ์สักทีฮะ" กมลเนตรลุกขึ้นฉะใส่ผู้มาเยือนจนปาณิดาโดนหักหน้าครั้งที่สอง
"กิ๊บ!" ปาณิดากัดฟันด้วยความโกรธ
"ทำไม! ฉันพูดตรงเกินไปเหรอ"
"กิ๊บ... ใจเย็น ๆ " ธนภพจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอ เพื่อรั้งไม่ให้เธอประชันหน้ากับปาณิดามากไปกว่านี้
"แทนกับกุ๊บกิ๊บ เป็นอะไรกันคะ ทำไมถึงดูสนิทสนมกันจัง" ปาณิดาถามด้วยความสงสัย เพราะเห็นท่าทีเป็นห่วงของเขา และการถึงเนื้อถึงตัวที่เขาทำกับเธอ
"เป็นแฟนกันครับ เราคบกันอยู่" ธนภพบอกพร้อมกับโอบไหล่กมลเนตรและดึงเธอเข้ามาใกล้ จนกมลเนตรหน้าเหวอ เพราะทำตัวไม่ถูก
"แล้วโอมล่ะ ไม่ได้คบกันแล้วเหรอ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่ในลิฟต์ด้วยกันเลย" ปาณิดาหันไปถามกมลเนตร
"คนชอบสอดรู้สอดเห็นอย่างเธอเนี่ย ไม่รู้เหรอว่าฉันเลิกกับโอมนานแล้ว ไม่ต้องมาเสี้ยมให้ฉันกับแทนทะเลาะกันหรอกนะ!... เธอนั่นแหละ พูดจาสนิทสนมกับแทน แทนอย่างนั้น แทนอย่างนี้ สนิทกันมาแต่ชาติปางไหน เพิ่งเจอแทนแค่ไม่กี่ครั้งไม่ใช่เหรอ" ปาณิดาโดนหักหน้าครั้งที่สาม
"แป้งขอตัวก่อนนะคะแทน" ปาณิดากำสองมือของเธอไว้แน่นด้วยความโกรธแค้นที่ไม่สามารถเอาชนะกมลเนตรได้เลย
"นายไปพูดแบบนั้นได้ยังไงฮะ!" กมลเนตรสะบัดแขนของธนภพออกจากตัวของเธอเมื่อปาณิดาเดินออกจากร้านไป
"อ้าว ทำไมจะไม่ได้ หรือจะให้บอกว่าเป็นผัวเมียกันล่ะ" เขาสับสน
"นายบอกแบบนั้นไม่ได้ เพราะคนความคิดสกปรกแบบยัยนั่นจะเข้าใจว่าฉันเอาตัวเข้าแลก แล้วก็ใช้มารยาจริง ๆ น่ะสิ นายนะนาย พูดอะไรไม่คิดเลย"
"เธอไม่ได้เป็นแบบนั้น จะเดือนร้อนทำไม"
"เดือนร้อนสิ ก็ฉันไม่ได้เป็นแฟนนาย" กมลเนตรหงุดหงิดกับผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
"โอเค ๆ เรื่องนี้เดี๋ยวเคลียร์กันที่หลัง แล้วก็เรื่องงาน จริง ๆ ฉันยังงงบางอย่างอยู่ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันเข้าไปหาที่คอนโด แล้วเธอค่อยอธิบายให้ฉันฟังแล้วกันนะ... ไปละ" ธนภพบอกเธอใกล้ ๆ ก่อนจะขโมยหอมแก้มกมลเนตรและเดินออกไปจากร้านกาแฟ
"นี่! นาย!" เธอตะโกนต่อว่าเขา แต่เมื่อคนในร้านเริ่มมองมาที่เธอ ทำให้เธอต้องยอมสงบลงแต่โดยดี