คมเพชรเดินเข้ามา มือหนาเสยหัวยุ่งๆ ให้เข้าทรง รัศมีดาราคิดว่าคมเพชรเป็นคนที่ใจดีกว่าน้ำเงินและท่าทางอ่อนโยนกว่าเป็นล้านเท่าแม้จะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อารมณ์ดีนักกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แค่สายตาที่เขากวาดมามองรัศมีดารากับพี่สาวก็ดูออกได้ว่าเขาดูใจเย็นและไม่ได้มีแววคุกคามใดๆ พวกหล่อน... สมแล้วที่มีคนให้ฉายาเพื่อนสนิทสองคนนี้ต่างกัน คมเพชรคือเทพบุตรขาวที่หล่ออย่างกับเทวดาแถมยังใจดีแต่น้ำเงินร้ายกาจจนได้ฉายาเทพบุตรดำ ถึงจะหล่อเหลาแต่ความร้ายของเขาก็ทำให้เขาเหมือนปีศาจที่มีดีแค่หน้าตานอกนั้นร้ายหมด
“ว่าไงน้ำเงิน มีเรื่องอะไร แล้วยัยพลอยล่ะ”
“พลอยหายไป... ฉันยังไม่ได้เช็กละเอียดแต่มาตามหาที่นี่ก่อน เจอสองคนนี้ที่นี่ คิดว่าต้องมีส่วนช่วยให้พลอยหนีไปแน่ๆ”
“พลอยหนีงั้นเหรอ” คมเพชรอึ้ง... เขาโทรหาลูกน้องของเขาที่ประสานงานกับคนของน้ำเงินเฝ้าบ้านหลังนี้เพื่อเช็กว่าคนที่เขาให้คุมตัวอยู่ในบริเวณรั้วบ้านของน้ำเงินเพื่อให้มันรอได้เห็นพิธีแต่งงานของน้ำเงินและวาวพลอย... พบว่าไอ้หมอนั่นหลุดพ้นมือลูกน้องเขาไปและวาวพลอยก็หนีหายไปด้วย...
“ไอ้รพีหายไป ยัยพลอยก็หายไปด้วย... น่าจะหนีไปด้วยกัน” คมเพชรบอกเพื่อน หันไปมองน้องสาวทั้งสองของอาทิตยะที่ทำตัวลีบอยู่คนหนึ่งอีกคนหนึ่งเมินหน้าไม่มองเขา...
“มันจะเป็นมารขวางฉันไปถึงไหนกัน... ฉันอุตส่าห์ไว้ชีวิตมันแล้ว รอบนี้มันอยากตายอีกใช่ไหม...” น้ำเงินพูดเข่นเขี้ยว จนคนที่เดือดร้อนแทนพี่ชายถึงกับเบิกตาโพลง
“คุณจะบ้าหรือไง สองคนนั้นไปด้วยกันหรือเปล่าก็ไม่รู้” จันทร์เจ้าขาแว้ดใส่น้ำเงิน...
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าตามหาเจอว่าหนีไปด้วยกัน ผมจะเอาพลอยกลับมาเข้าพิธีแล้วยิงไอ้รพีให้ตาย” น้ำเงินบอก...
รัศมีดาราตระหนกสุดหัวใจ... ขนาดว่าจันทร์เจ้าขาเป็นคนสุขุมเยือกเย็นและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่าหล่อนยังเป็นกังวลให้น้ำเงินกับคมเพชรจับสังเกตได้... หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองว่าหล่อนทำถูกต้องแล้วใช่ไหมแล้วจะรับมือกับความร้ายกาจของน้ำเงินอย่างไรดี
ระหว่างที่ทั้งสี่กำลังอยู่ในสถานการณ์อึดอัดกันอยู่... ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองชื่อดังพร้อมผู้ช่วยเป็นทีมก็เปิดประตูเข้ามาอย่างร่าเริงทุกคนจึงเบนความสนใจไปที่ประตูหมด
“มาแล้วค่ะ... ฝั่งเจ้าสาวพร้อมแต่งชุดงานเช้ากันหรือยังคะ” ช่างแต่งหน้าที่มาเป็นทีมทักทายอย่างไม่รู้สถานการณ์ข้างใน ทำให้คนที่มึนตึงตั้งท่าจะเอาเรื่องกันอยู่นั้นต้องปรับสีหน้ากันแทบไม่ทัน...
“แต่งให้สองคนนี้ก่อนเลยครับ” คนเป็นเจ้าบ่าวบอกเสียงเรียบ...
เขาพยักหน้าให้คมเพชรออกไปด้านนอกเพื่อหารือกัน...
จันทร์เจ้าขาและรัศมีดาราเปลี่ยนเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้าก่อนแต่งหน้าทำผมเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนชุดเมื่อแต่งเสร็จแล้ว... สองพี่น้องนั่งแต่งหน้าคนละที่กันแต่ก็แชตคุยกัน รัศมีดาราบอกพี่สาวว่าอาทิตยะหนีจากการกักกุมของคมเพชรได้ เขากับวาวพลอยถูกพาตัวมาที่นี่อาทิตยะถูกขู่ฆ่าและวาวพลอยต้องแต่งงานเพื่อปกป้องเขา คมเพชรและน้ำเงินอยากให้อาทิตยะเห็นว่าวาวพลอยได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสม... จึงพามากักขังที่นี่เพื่อให้ได้ดูวาวพลอยเข้าพิธีแต่งงาน...
แต่บังเอิญว่าอาทิตยะหนีออกมาได้... เขาโทรหาวาวพลอยด้วยเครื่องมือสื่อสารที่ทราบเบอร์กันและกันเพียงสองคนเท่านั้น... เพราะคิดว่าควบคุมทั้งคู่ได้การดูแลจากคนของคมเพชรจึงค่อนข้างหละหลวมรัศมีดาราช่วยให้วาวพลอยหนีไปได้โดยอาศัยรถตู้ของผู้จัดการส่วนตัวที่จอดรออยู่
ก่อนสองคนนั้นไปรัศมีดาราขอให้ทั้งคู่หนีไปไม่ต้องเหลียวหลังกลับ ไม่มีวาวพลอยยังไงเสียงานแต่งงานก็ล่มแน่ แล้วหล่อนก็นั่งรออยู่จนน้ำเงินเข้ามาจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น... จันทร์เจ้าขาบอกน้องสาวว่าหล่อนทำถูกแล้วและทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ ก่อนจะลบข้อความที่คุยกันแล้วนั่งให้ช่างแต่งหน้าให้อย่างใจเย็น อิ่มเอมไปกับคำเยินยอของช่างแต่งหน้าที่ชื่นชมในความสวยงามของใบหน้าและผิวพรรณของสองพี่น้อง เพราะว่าอารมณ์ดี ใครพูดอะไรมาก็ดีหมด...
คู่สองพี่น้องคิดว่าอย่างไรงานแต่งก็ล่มแน่นอน ใกล้ถึงฤกษ์แล้วแต่เจ้าสาวยิ่งเดินทางไปไกลจากที่จัดงานมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ เจ้าบ่าวคงต้องผิดหวังแล้ว
แต่ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด น้ำเงินติดกล้องวงจรปิดไปทั่วบ้าน เขาจึงได้เห็นว่าวาวพลอยหายไปขึ้นรถพร้อมๆ กับอาทิตยะที่ซุ่มอยู่ โดยมีรัศมีดาราเป็นคนช่วย... เขากำมือแน่น ดวงตาวาวโรจน์จะย้อนกลับไปหาเรื่องรัศมีดารา...
“มันกล้าดีพาเจ้าสาวฉันหนี นอกจากมันจะตายแล้วฉันจะเอาน้องสาวมันมาเข้าหอแทน ดูซิว่ามันจะเลือกผู้หญิงหรือว่าน้องสาวมันกันแน่” น้ำเงินกล่าวอาฆาต
“นายจะเลือกคนไหน” คมเพชรถามทันที
“คนกลาง... คนเล็กเป็นดารา เข้าพิธีกับฉันต้องยุ่งยากแน่ๆ”
“คนเล็กดีกว่า... ยิ่งเป็นดารานายยิ่งเอามาเป็นข้อต่อรองกับไอ้รพีได้ดี มันคงเลือกที่จะกลับมาเพราะน้องมันเป็นดาราดัง จู่ๆ เข้าพิธีแต่งงานมันต้องมีแต่เรื่องเสีย ส่วนคนกลางไม่มีผลอะไรกับมันมากหรอก... หรือไม่ก็หลอกให้มันกลับมา จะเลื่อนงานแต่งงานออกไปหรือว่าเปลี่ยนฤกษ์ให้มันพาพลอยมาคืนก่อน”
น้ำเงินฉุกคิดตามเพื่อนไม่ทันได้สังเกตว่าทำไมคมเพชรถึงไม่ยอมให้เขาเอาตัวจันทร์เจ้าขามาเป็นตัวประกันแต่ให้เลือกรัศมีดาราแทน แต่เขาก็เห็นด้วยกับคมเพชรว่าการเลือกน้องคนสุดท้องของอาทิตยะจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า มันรู้เข้ามันต้องยอมแลกแน่เพราะถ้ามันไม่เอาเจ้าสาวเขามาคืนชีวิตน้องสาวมันก็พังกันไปข้าง ไม่มีดาราดาวรุ่งที่ไหนจะยอมแต่งงานฟ้าแลบตัดอนาคตตัวเองแน่นอน...
นึกถึงดวงหน้าถือดีของตัวการสำคัญที่ช่วยวาวพลอยหนีแล้วน้ำเงินก็ตัดสินใจว่าเขาจะเลือกรัศมีดารามาแต่งงานกับเขาแก้ขัดไปก่อน...
“เปลี่ยนฤกษ์ไม่ได้ อาม่าฉันเชื่อเรื่องดวงอย่างงมงายสุดๆ ถึงไม่ได้แต่งกับพลอยก็ต้องหาคนมาแต่งด้วย อาม่าบอกว่าฉันดวงไม่ดีต้องแต่งงานหาคนมาค้ำจุนดวง ท่านถึงได้ให้ฉันแต่งงานกับพลอยเร็วๆ ... ฉันเลือกคนน้องแล้ว แต่ถึงยังไงนายก็สบายใจได้... ฉันแค่เอามาเข้าพิธีขู่ไอ้รพีเท่านั้น ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับน้องไอ้รพี เพราะคนที่ฉันต้องการมีเพียงพลอยคนเดียวเท่านั้น”
“...” คมเพชรมองหน้าเขาโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานทำให้น้ำเงินรู้ว่าเพื่อนเขาเข้าใจและเห็นใจเขามากที่สุด...
“น้ำเงิน... ถึงนายจะไม่เลือกพลอยแล้ว... นายก็ไม่ผิดอะไรเพราะว่าพลอยเป็นคนทำผิดต่อนาย... ฉันขอโทษแทนน้องสาวของฉันด้วยนะ ทั้งที่นายรักและตั้งใจจะดูแลน้องสาวฉันเป็นอย่างดี แต่พลอยก็มองไม่เห็นความดีของนาย... ถ้านายจะเปลี่ยนใจ ฉันจะไม่ว่านายสักคำเลย...” คมเพชรบอกอย่างรู้สึกผิด
“ฉันไม่เปลี่ยนได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ยังไง พลอยก็ยังเป็นคนที่ฉันต้องการมากที่สุด” คำตอบที่แฝงแววแห่งความมุ่งมั่นอยู่เต็มเปี่ยมถูกเอ่ยจากปากของน้ำเงิน เขาเลือกที่จะเดินเข้าไปที่ห้องแต่งหน้าเจ้าสาวอีกครั้งเพื่อแจ้งว่าหากพวกหล่อนไม่ตามคู่หมั้นของเขากลับมาเข้าพิธี รัศมีดาราก็ต้องเข้าพิธีแทนโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะยังทำเป็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจกันอยู่อีกไหม