ภายในห้องเช่าตึกเขียว ห้อง 202
ความไร้เดียงสา ทำให้โทนี่ซึ่งยืนอยู่ข้างนอก อดทนไม่ไหว เขาเลยถือวิสาสะก้าวเข้ามา
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ยินดีเป็นธุระทุกอย่าง”
เหมยลี่หันไปด้านหลัง ปากพยายามเปล่งเสียงอยากห้ามอีกฝ่าย ทว่ามันยากลำบากเหลือเกิน นั่นเป็นเพราะเธอกำลังเสียใจอย่างหนัก
ซ่างเป่าพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้พี่ชายคนหล่อสืบเท้ามาอยู่ข้างฟูกที่แม่นอนอยู่ และส่งเสียงถาม
“พี่คนหล่อๆ รู้ไหม คนตายแล้วไปไหน”
โทนี่ไม่มีคำอธิบายเรื่องนั้น เขาเพียงแค่อยากอุ้มเด็กชาย แล้วพาไปที่อื่น เพื่อจะช่วยเหมยลี่ทำสิ่งอื่นให้สะดวกขึ้น ด้วยรู้ว่าในโมงยามนี้ ความสงบย่อมสำคัญ
ทว่าในยามนั้นคุนเป่าก้าวมา พร้อมอ่างน้ำอุ่น
เด็กชายยืนจังก้า ท่าทางเขาไม่ยอมให้ผู้อื่นบุกรุกห้องนอนแม่
“ห้ามยุ่งกับแม่ของอั๊ว!”
น้ำเสียงเขาดุดันเกินวัย สีหน้าแข็งกร้าว โดยเฉพาะดวงตาคมคู่นั้นที่ถอดแบบมาจากคนเป็นบิดา บอกให้รู้ว่าเด็กชายเอ่ยจริงจัง อันธพาลตัวน้อยแยกเขี้ยวขู่ และตัวเขาสั่น มิได้กลัว หากกำลังจะแผลงฤทธิ์
“คุนเกอ... เสียงดังทำไม แม่หลับอยู่!”
ซ่างเป่าเอ่ย และยกนิ้วชี้ทาบริมฝีปากเล็กๆ แต่คุนเป่ากลับถลึงตาใส่น้องชาย แล้วว่างอ่างน้ำร้อนลง จากนั้นก็พันแขนเสื้อยืดย้วยๆ ของตัวเองขึ้น ทำท่าจะผลักโทนี่ไปให้พ้นห้องเช่า
“หม่ามี้ ไม่ให้ผู้ชายตัวโตเข้ามาในนี่ คนตัวโตนิสัยแย่!”
โทนี่ไม่อยากให้สถานการณ์ตึงเครียดไปมากกว่านี้ เขาเลยถอยหลังกลับ ทว่าเหมยลี่เป็นฝ่ายพูดขึ้น
“เสี่ยวคุน พาน้องไปกินเซาปิงกับกล้วยหอมกันก่อนนะ และนี่กุญแจห้องป้า ในห้องมีนมแช่ไว้ในตู้เย็น แล้วก็น้ำแดงเหลืออยู่ครึ่งขวด”
เหมยลี่บอก และด้วยความหิวท้องเด็กชายจึงร้องจ๊อกๆ แต่เขาก็ยังห่วงมารดา
“ผมจะอยู่ที่นี่ ไม่ให้หม่ามี้ไปไหน”
คุนเป่าว่าอย่างนั้น แต่ซ่างเป่าฉวยทั้งถุงอาหาร กับกุญแจจากมือเหมยลี่ แล้วมิวายถามคำถามเดิม
“คนตายแล้วไปไหน... ห้อง208 น่ะ... ยังมีป้ากับลุงอยู่ไหมครับ”
คราวนี้เหมยลี่เอะใจสิ่งที่ซ่างเป่าพูด เธอจึงสูดลมหายใจลึก ตั้งสติให้มาก แล้วมองไปยังร่างของสิงหยุนเจี๋ย
สายตาเรียวเล็กจับจ้องใบหน้าที่ซีดขาวราวกับกระดาษ ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอพิศวง
แพขนตางอนดำชุ่มด้วยน้ำตา!
“เม่ยเมย*... เธอได้ยินเจ่เจ้ไหม!” (น้องสาว)
เหมยลี่ขนลุกไปทั้งร่าง เธอรู้ว่าสิงหยุนเจี๋ยเป็นคนดี และต้องปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เรื่องเล่านี้หญิงวัยกลางคนเชื่อเสมอมา
เหมยลี่เอื้อมมือไปแตะแขนสิงหยุนเจี๋ย เนื้อตัวเย็นอยู่เช่นเดิม กระทั่งตัดสินใจเอามืออังที่ปลายจมูก คราวนี้เธอกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม แต่เป็นการร้องที่เกิดขึ้นจากความยินดี
เพื่อความมั่นใจ เหมยลี่จึงจับชีพจรที่ข้อมือผอมบางของสิงหยุนเจี๋ย
“โอ้ สวรรค์เมตตา สองแฝดของป้า พวกเธอไม่ต้องกำพร้าแม่แล้ว!”
*****************
สิ่งที่เหมยลี่กล่าว ทำให้คุนเป่าหมุนตัวกลับแล้วมาดูแม่ของเขา ยามนั้นเห็นว่ามีน้ำตาไหลออกจากหางตา
“หม่ามี้ เป็นอะไร...” มือเล็กๆ ช่วยซับน้ำตาให้แม่ พอเห็นว่ามันยิ่งไหลเขาจึงรีบหาผ้ามาเช็ด ส่วนน้องชายตกใจ อ้าปากหวอ กระทั่งคลำหาเสียงตัวเองพบ เลยร้องว่า
“แม่ร้องไห้ๆ เร็วๆ หมออยู่ไหน เอาหมอมา!”
“สองแฝดอย่าตกใจไป แม่พวกเธอแค่หลับเดี๋ยวก็ฟื้น เดี๋ยวป้าจะให้คนช่วยตามหมอฮ่าวมาดูการที่นี่ และคืนนี้ ป้าจะเลี้ยงอาหารทุกคนเอง ไก่นึ่ง ปลาทอดราดพริกเปรี้ยวหวาน ข้าวผัดสับปะรด แล้วก็ไอศกรีมไข่แข็ง ของกินเยอะๆ แบบนี้ดีไหม”
ซินอี๋ที่เดินทางมาไกล จากต่างเมืองหล่อนหิวจนท้องร้องไม่แพ้คนอื่น พอได้ยินเหมยลี่เอ่ยเช่นนั้นเลยสืบเท้ามาร่วมวง และถามเสียงเบาๆ ว่า
“ธรรมเนียมของคนเกาะซานเฉียงฝั่งใต้ เขานิยมกินของคาว และหวานในงานศพแบบนี้หรือ ดีเลยฉันช่วยล้างจาน และจัดโต๊ะได้ ขอแค่สั่งเท่านั้น ส่วนเรื่องช่วยเป็นธุระจัดการเกี่ยวกับคนตาย ฉันพอมีความรู้เล็กน้อย”
เหมยลี่ได้ยินอย่างนั้นจึงเต้นผาง ก่อนโยนกระป๋องนมอลูมิเนียมเปล่าๆ ใส่ร่างซินอี๋
“นังงูพิษ แกแช่งใครห๊า!”
“อ้าว แม่ของเด็กไง เมื่อครู่อาเจ้ร้องเสียงดัง จนฉันขวัญเสียไปหมด แล้วจู่ๆ พูดถึงอาหารขึ้นมา เลยนึกว่า จะมีงานเลี้ยงคืนนี้”
เหมยลี่ส่ายหน้า เอ่ยด้วยเสียงเครียดจัด
“อย่างที่บอกฉันจะคิดบัญชีกับแกให้กระอักเลือด รวมถึงค่าอาหารมื้อเย็นด้วย นอกจากของที่บอกเมื่อครู่ ฉันยังจะสั่งกะเพาะปลาที่ภัตตราคารดัง เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองให้อาเจี๋ยที่ฟื้นกลับมาเป็นน้องสาวที่น่ารักของฉันตลอดไป”
เมื่อเหมยลี่พูดจบ ด้านนอกได้มีเสียงสวดมนตร์งึมงำ ผสานด้วยเสียงเคาะไม้ เสียงร้องโหยหวนอย่างน่าขนลุก
“โอ้ ทุกคน อากงมาแล้ว พาเจ้าสำนักมาปราบรังควานผีร้าย!”
เหมยลี่หงุดหงิดเป็นทุน เธอจึงก้าวไปดักทางถานเจี้ยนกับเจ้าสำนักรวมถึงคนที่แต่งตัวแปลกๆ ที่กำลังจะโผเข้ามาในห้องเช่าเล็กๆ แห่งนี้
“ไปไล่ผีห้อง 208 นู้น และอากงเจี้ยนรีบไปตามหมอฮ่าวมาให้ไว ถ้าช้าฉันจะไม่ติดต่อ นังถง* ขายหมากให้ (ซินถง)”
ถานเจี้ยนได้ยินแบบนั้น ชายวัยกลางคนเลยยิ้มกว้าง และกวักมือเรียกหมอผีไปยังห้อง 208
ส่วนคนอื่นทั้งซินอี๋ และโทนี่ ต่างแยกย้ายกลับ โดยเหมยลี่ยังใจดี ชวนพวกเขามากินอาหารมื้อค่ำด้วย