06
ลูกค้าใหม่
บรื้น~ บรื้น~
ไม่นานรถลีมูซีนสีดำราคาหลายสิบหลักก็แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนที่หญิงสาวจะเปิดประตูรถเพื่อเตรียมลงจากรถ
"ขอบคุณนะคะที่..."
"ออกรถ" ไม่ทันที่เฌอร์วาจะได้พูดจบเสียงเรียบของเหนือเวหาที่นั่งนิ่งอยู่ก็เอ่ยขึ้นทำให้ประตูรถถูกปิดลงก่อนที่รถคันหรูจะเคลื่อนตัวออกไปทันทีโดยที่เธอยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
"ใจร้ายตลอดเลย" เธอพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านในช่วงดึกทว่าในระหว่างที่กำลังจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองเสียงของมะลิก็ดังขึ้นทำให้เธอต้องหมุนเท้ากลับไปมอง
"วา!"
"ยังไม่นอนเหรอคะ"
"หายไปไหนมาพี่เป็นห่วงแทบแย่ ติดต่อก็ไม่ได้นี่พี่ก็ว่าจะมาบอกนายแต่เห็นเราเดินเข้ามาซะก่อน" เธอพยายามติดต่อเฌอร์วาหลายครั้งเพราะหญิงสาวไม่กลับมาตามเวลาปกติอย่างทุกวันแต่ไม่ว่าจะพยายามติดต่อยังไงแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนอดเป็นห่วงไม่ได้ และเมื่อได้ยินเสียงรถของเหนือเวหาดังเข้ามาก็จะมาบอกข่าวคราวแต่ว่าเห็นหญิงสาวเดินกลับเข้ามาเสียก่อน
"พอดีวาไปที่บ้านคุณท่านมาค่ะ แล้วโทรศัพท์ก็แบตหมดด้วยขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง"
"เฮ้อ เอาเถอะ ๆ แค่เราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะเดี๋ยวพี่ปิดบ้านเอง"
"ค่ะ ถ้างั้นวาขอตัวไปพักก่อนนะคะ" หลังจากแยกย้ายกับมะลิเธอก็ตรงไปยังห้องนอนชั้นบนทันทีเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมพักผ่อน แต่ในหัวก็ไม่วายคิดถึงแต่ความใจร้ายของเขาแต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เคยคิดจะโกรธเคืองเขาเลยสักครั้งต่อให้เขาจะร้ายใส่เธอยังไงก็ตาม
เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์ แล้วมันก็สมควรแล้วที่เขาจะใจร้ายใส่เธอแบบนี้ มันสมควรแล้วจริง ๆ กับสิ่งที่พ่อของเธอทำไว้กับครอบครัวของเขา
@โกดังเก็บสินค้า
"เมื่อไรลูกค้ามึงจะมาสักทีวะ กูไม่ได้มีเวลามานั่งรอมันทั้งวันทั้งคืนนะ" เหนือเวหาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิดหลังจากที่นั่งรอลูกค้าที่นัดจะมาเซ็นสัญญาซื้อขายอาวุธร่วมกันนานหลายนาทีแต่ทว่าทางฝั่งนั้นก็ยังไม่โผล่มา
"มึงก็ใจเย็น ๆ ก่อนสิวะ เดี๋ยวเขาก็มา" พายุที่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยขึ้นแต่นั่นไม่ได้ทำให้เหนือเวหาใจเย็นขึ้นเลยสักนิด
"ถ้ามันรีบนักก็ให้มันกลับไป" เฟยเทียนที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟาอีกตัวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้เหนือเวหาตวัดสายตามองอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากรับรู้ความจริงเรื่องทั้งหมดทั้งคู่ก็หันมาทำธุรกิจร่วมกันอีกครั้งในฐานะเพื่อนและหุ้นส่วน
"เหอะ!"
"ไม่ได้เว่ย ลูกค้าคนนี้กระเป๋าหนักอยู่ช่วยกันเผื่อจะได้เขามาเป็นหุ้นส่วน" พายุที่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยขึ้นในขณะที่เหนือเวหานั่งหน้าไม่สบอารมณ์อยู่
"กูให้เวลาอีกสิบนาทีถ้ามันยังไม่มากูจะกลับ"
แกร๊ก~
จบคำพูดของเหนือเวหาเสียงประตูก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของการ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าห้องก่อนที่ร่างสูงท่าทางน่าเกรงขามจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมลูกน้องสองคน
"ขอโทษที่มาช้านะครับพอดีผมติดธุระนิดหน่อย" ตงหยางเอ่ยขึ้นพร้อมมองใบหน้าของมาเฟียหนุ่มทั้งสามคนที่นั่งอยู่นิ่ง
"ไม่เป็นไรครับพวกผมเองก็มาได้ไม่นาน เชิญคุณนั่งก่อน" เป็นพายุที่เอ่ยเชื้อเชิญก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปหย่อนสะโพกลงยังโซฟาที่ว่างอยู่โดยที่ด้านหลังของแต่ละคนมีชายฉกรรจ์ชุดดำซึ่งเป็นลูกน้องยืนคุมเชิงอยู่
"ขอบคุณครับ"
"นี่เหนือเวหาและเฟยเทียนหุ้นส่วนและเพื่อนของผม ส่วนนี่คุณตงหยางลูกค้าใหม่ที่สั่งอาวุธล็อตนี้ของเรา"
"ยินดีที่ได้รู้จักและร่วมงานกันนะครับ" ตงหยางเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือออกไปทักทายด้วยท่าทางที่เป็นกันเอง
"ครับ" เฟยเทียนรับคำพร้อมกับส่งมือเข้าไปจับมือหนาที่ยื่นเข้ามาเพื่อเป็นการทักทายตรงหน้า
"..." เช่นเดียวกับเหนือเวหาที่ยื่นมือเข้าไปจับนิ่ง ๆ แต่ไม่ได้ปริปากพูดอะไร
"ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ให้คุณมาพบที่นี่" พายุเอ่ยขึ้นเพราะความจริงแล้วที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะนัดซื้อขายอาวุธกัน
"ไม่เป็นไรครับ ดีเสียอีกยิ่งห่างไกลผู้คนยิ่งปลอดภัยจากพวกสอดรู้สอดเห็น" เพราะเบื้องหน้าพวกเขาคือนักธุรกิจแต่เบื้องหลังคือนักธุรกิจสีเทาที่ค้าอาวุธให้แก่มาเฟียบางกลุ่มที่ต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เวลาทำอะไรจะต้องระมัดระวังจากพวกสอดรู้สอดเห็นและโกดังเก็บสินค้าแห่งนี้อยู่ในป่านอกเมืองทำให้ห่างไกลจากสายตาผู้คน
"คุณจะดื่มอะไรก่อนไหมครับเดี๋ยวผมให้ลูกน้องจัดการให้"
"ไม่เป็นไรดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา"
"ถ้างั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยแล้วกัน" จบคำพูดของพายุกล่องไม้หลายกล่องก็ถูกขนเข้ามาด้วยฝีมือของชายฉกรรจ์หลายคนก่อนที่เขาจะยื่นมือไปเปิดฝาออกทำให้เห็นอาวุธปืนหลายขนาดที่บรรจุอยู่ทางด้านใน
"อาวุธล็อตนี้ทางเราใช้อุปกรณ์ที่หาได้ยากราคามันค่อนข้างสูง เชิญคุณเช็กสินค้าดูได้" ตงหยางเอื้อมมือไปหยิบกระบอกปืนพกสั้นสีดำเงาวับขึ้นมาก่อนจะแกะส่วนประกอบออกแล้วประกอบมันใหม่เพื่อตรวจเช็กคุณภาพสินค้า
"คงไม่ว่าอะไรนะครับถ้าผมจะลองใช้ดูก่อนเพราะผมเองก็อยากมั่นใจว่าคุณภาพมันจะสมคำร่ำลือจริง ๆ"
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าใช้แล้วพึงพอใจในคุณภาพก็สามารถเซ็นสัญญาซื้อขายกันในระยะยาวได้" เฟยเทียนเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็นต่างจากเหนือเวหาที่ตวัดสายตามองตงหยางนิ่งเพราะเขารู้สึกไม่ชอบขี้หน้าลูกค้าใหม่ของเพื่อนคนนี้เลยสักนิด
"แน่นอนครับ"
หลายชั่วโมงต่อมา...
"งานที่ให้สืบคืบหน้ายังไงบ้าง?" เสียงเรียบเอ่ยถามกับลูกน้องคนสนิทในขณะที่นั่งอยู่ในรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านในเวลากลางดึกหลังจากที่พูดคุยเรื่องธุรกิจเสร็จ
"ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยครับนาย ลูกน้องของเราที่เฝ้าอยู่แถวบ้านก็รายงานมาว่าไม่มีความผิดปกติอะไรเลย"
"..."
"นายจะเอายังไงต่อครับหรือจะ..."
"สืบต่อไป ตราบใดที่ยังไม่เจอศพมันกูจะไม่มีวันเชื่อว่ามันตายไปแล้วจริง ๆ" น้ำเสียงของเหนือเวหาบ่งบอกถึงความโกรธแค้นที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจอย่างไม่มีวันลบเลือนกับความสูญเสียในครั้งนั้นแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม คนที่มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องชดใช้กรรมทุกคนไม่เว้นแม้แต่เฌอร์วาที่เป็นลูกสาว เพราะเธอจะต้องรับกรรมแทนคนที่มันจากโลกนี้ไปแล้ว
...เพราะเขาจะทรมานเธอทั้งความรู้สึกและหัวใจให้มันสาสมกับความแค้นที่มี
อลันเงียบในขณะที่สายตามองผู้เป็นเจ้านายผ่านกระจกหน้ารถ เขาทำงานกับเหนือเวหามานานเขารู้ดีว่าเจ้านายของตัวเองเป็นคนยังไง
ไม่นานรถคันหรูสีดำเงาวับก็เลื่อนเข้าไปจอดหน้าคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ชุดดำนับร้อยคนที่ยืนเฝ้ายามตามจุดต่าง ๆ ของคฤหาสน์เพื่อรักษาความปลอดภัยก่อนที่ชายชุดดำที่ยืนเฝ้าหน้าประตูจะเดินเข้ามาเปิดประตูรถ
"นายต้องการอะไรไหมครับ" อลันที่เดินตามหลังมาเอ่ยขึ้น
"ไม่ มึงไปพักเถอะ"
"ครับนาย" อลันก้มหัวลงเล็กน้อยในขณะที่เหนือเวหาเดินขึ้นไปยังชั้นสองโดยมีสายตาของเขามองตามไปเมื่อเห็นว่าเจ้านายเดินตรงไปยังห้องนอนอีกฝั่งซึ่งก็คือห้องนอนของเฌอร์วาก็ทำให้เขาเดินแยกออกไปเพื่อกลับไปพักผ่อน
เวลาที่เหนือเวหานั้นหงุดหงิดหรือไม่สบอารมณ์คนเดียวที่จะต้องรองรับอารมณ์ของเขาก็คือเธอ...เฌอร์วา