‘ค่ำคืนวสันต์พร่ำรัก’NC

1791 Words
สองเค่อต่อมา เถาม่านหลิวเดินออกมาจากฉากกั้นด้วยชุดใส่นอนสีขาวที่สวมทับกันถึงสองชั้น โจวซีหยางแอบขำที่เห็นเจ้าสาวดูจะระวังตัวจนเกินเหตุ ถ้าเขาคิดจะทำอะไรนางละก็ ต่อให้สวมผ้าทับกันมาเป็นสิบชั้น มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาหรอก “ถ้าเจ้าหิวก็กินไปก่อนได้เลยนะ ข้าขออาบน้ำก่อน” เขาบอกนางก่อนจะเดินเข้าไปด้านหลังของฉากกั้น เถาม่านหลิวได้แต่มองตามหลัง นางอยากจะบอกว่าน้ำในถังนั้นนางใช้งานมันไปแล้ว เขาไม่ควรใช้ต่อ แต่นางก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะน้ำชา ซึ่งตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นโต๊ะอาหารไปเรียบร้อยแล้ว มองดูอย่างไรนางก็รู้ว่าเป็นอาหารมงคลสำหรับคู่บ่าวสาว และยังมีเหล้ามงคลอีกหนึ่งไหเตรียมเอาไว้ให้อีกด้วย ความจริงนางก็ไม่อยากจะกินสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นว่าของพวกนี้ถูกจัดเตรียมมาเป็นพิเศษเพื่อคู่บ่าวสาว แต่ความหิวไม่ได้ปราณีใคร แค่กลิ่นของอาหารลอยเข้าแตะจมูก ก็ทำให้นางตบะแตกได้แล้ว หญิงสาวเริ่มจัดการกับอาหารที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ อันที่จริงนางอยากกินอาหารให้อิ่มแล้วนอนให้หลับเท่านั้น แต่จะหลับได้อย่างไรหากชายผู้นั้นร่วมหลับนอนอยู่บนเตียงด้วย พลันก็นึกขึ้นได้ นางยังมีตัวช่วยอยู่นี่นา ดื่มเหล้าสักจอกสองจอกคงทำให้นางหลับสบายโดยไม่ต้องคิดและกังวลอะไร เมื่อคิดได้ดังนั้นนางก็รินเหล้ามงคลใส่จอกแล้วดื่มรวดเดียวหมด ก่อนที่จะเริ่มดื่มจอกที่สอง โจวซีหยางก็อาบน้ำเสร็จพอดี เขาสวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียว แล้วเดินมานั่งร่วมโต๊ะกับนาง “รอดื่มกับสามีสักจอกสิ” เขาพูดหยอกแกมออกคำสั่ง ในใจของโจวซีหยางคิดว่าต้องถูกปฏิเสธแน่นอน แต่นางก็รินเหล้าให้เขา และรอยกดื่มพร้อมกัน จากนั้นนางก็ลุกออกจากโต๊ะไปที่เตียงนอนเงียบ ๆ ปล่อยให้เจ้าบ่าวหมาด ๆ นั่งกินดื่มเพียงลำพัง ดูเหมือนสุราสองจอกไม่ตอบโจทน์สักเท่าใดเลย เพราะมันไม่ได้ทำให้นางรู้สึกเมาและอยากจะหลับสักนิด ทั้งที่เพลียจากการเดินทางไกลแท้ ๆ ผ่านไปอีกหนึ่งเค่อ ในความมืดมิดของห้องหอ บ่าวสาวได้นอนเคียงคู่ดั่งเช่นคู่แต่งงานทั่ว ๆ ไป แต่ต่างคนต่างก็นอนหันหลังให้กัน เหมือนว่าทั้งสองจะหลับไปแล้วเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของสุราก็ได้ ทว่า...หนึ่งเค่อต่อมา เสียงหายใจหืดหาดปนเสียงครางก็ดังขึ้นไล่ ๆ กัน ความรู้สึกบางอย่างภายในกายของพวกเขากำลังเริ่มก่อตัวอย่างไม่รู้ที่ไปที่มา ทั้งความรู้สึกประหลาดที่ดึงดูดให้ทั้งสองพลิกตัวเข้าหากัน “คุณชาย...ข้ารู้สึกร้อนตามตัวแปลก ๆ” นางกล่าวเสียงหวานผิดวิสัยและผิดปกติเอามาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น มือของนางเกี่ยวอาภรณ์ทั้งสองชั้นออกจากลาดไหล่ แล้วแหวกสาบเสื้อออกเผยให้เห็นบัวตูมคู่งามลามลงไปถึงเนินสวรรค์ นางคงหวังว่าทำเช่นนี้แล้วมันจะคลายร้อนได้กระมัง “ม่านหลิวที่เจ้าเป็นเช่นนี้ เพราะสุรามงคลแน่ ๆ อดทนไว้ก่อนเถิด เจ้าจะได้ไม่เสียใจภายหลัง” เขาบอกนางเหมือนคนที่ยังมีสติครบถ้วน มือก็ยื่นไปหาหวังจะจัดอาภรณ์ของนางให้คืนดังเดิม แต่ทว่า...ปากกับใจบอกอย่าง แต่ความรู้สึกทางกายดันไม่ฟัง เมื่อกลิ่นกายสาวช่างหอมยั่วยวนเกินห้ามใจ มันได้กระตุ้นความหื่นกระหายของเขาให้ตื่นขึ้นมาในทันที ‘บัดซบ เผิงจิ้ง!’ ในใจของเขาคิดได้แค่นั้น ในส่วนของสาวเจ้าก็ไม่ต่าง เหมือนกลิ่นกายของชายหนุ่มทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นกัน นางเกิดความต้องการในตัวเขาเป็นอย่างมากแค่ได้สูดดม ดังนั้นนางถึงได้กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำกับชายใดมาก่อน ม่านหลิวซุกไซ้ใบหน้าลงที่แผ่นอกกว้างอย่างอาจหาญ นางสูดดมกลิ่นกายของบุรุษเข้าเต็มปอดอย่างลืมอาย มือก็ปัดป่ายลูบคลำไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งส่วนที่อยู่ในร่มผ้า เหมือนกำลังคลำหาบางอย่างที่นางใคร่ปรารถนา นางไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร และมันจะช่วยให้นางหายจากอาการที่เป็นอยู่หรือไม่ สิ้นสุดความอดทนของโจวซีหยางเช่นกัน เขาได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว หากเขาและนางได้ร่วมหอกันเพียงเพราะฤทธิ์เหล้ามันคงไม่ใช่เรื่องผิด เพราะอย่างไรก็แต่งงานกันแล้ว ถึงจะเป็นแค่พิธีง่าย ๆ แต่ก็ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง หากนางจะโกรธเขาหลังจากค่ำคืนนี้ เขายินดีให้นางโกรธ เพราะตอนนี้มันกลั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ “เจ้าสาวของข้า ข้าจะไม่อดทนต่อไปแล้ว อ๊าสส หากข้าทำรุนแรงก็อภัยด้วย” เสียงเขาทั้งแหบและสั่นพร่า เมื่อแก่นกายกำยำถูกมือเรียวเล็กลูบคลำ และนางยังรูดรั้งขึ้นลงราวกับหญิงสาวผู้ช่ำชองเรื่องกามารมณ์ ในที่สุดนางก็ควานหาสิ่งที่ต้องการเจอแล้วสินะ “คุณชายเจ้าขา ช่วยข้าที ตะ...ตรงนั้นของข้ามัน” หญิงสาวบิดตัวเร่า ชี้ไปยังจุดกระสันกลางหว่างขาที่กำลังตอดรัดความว่างเปล่าเพือให้คลายเสียว นางไร้เดียงสาขนาดไม่รู้ว่าอาการที่กำลังเป็นอยู่คือความเสียวซ่าน “ท่านพี่...ไหนลองเรียกข้าว่าท่านพี่ดูสิ แล้วข้าจะช่วย” “ท่านพี่เจ้าขา ชะ...ช่วยข้าที” นางเรียกเขาเสียงหวานเหมือนต้องมนต์สะกด เขาบอกให้ทำอะไรนางก็ทำ นางรู้สึกกระสันอยากจนหว่างขาฉ่ำแฉะไปหมด อาการเสียดเสียวที่ตรงนั้น นางไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรถึงจะหาย จึงได้แต่เว้าวอนเจ้าบ่าวแปลกหน้า ให้ช่วยขจัดมันออกไป อืมมมม เสียงครางต่ำในลำคอหนาเหมือนรับรู้แล้ว เขาพลิกกายขึ้นเหนือร่างบางที่ตอนนี้ไร้อาภรณ์ติดกาย ส่วนตัวเขาก็ไม่ต่าง เพราะเจ้าสาวจัดการให้ด้วยน้ำมือของนางเอง ดวงตาหวานหยาดเยิ้มสั่นระริกเมื่อถูกทาบทับด้วยกายแกร่งที่ร้อนระอุปานถูกไปนาบ แล้วนางก็ต้องขบริมฝีปากแน่น เมื่อเรียวขาถูกแยกออกกว้าง จากนั้นดอกไม้กลางกายสาวก็ได้รับการดูแลจากเรียวลิ้นหนา ลิ้นร้อนช่างซุกซน มันปาดตวัดขึ้นลงทั้งสลับดูดเลีย เดี๋ยวก็แยงเข้าแยงออก ทำเอานางกรีดร้องลั่นหายใจไม่ทั่วท้องเพราะความกระสันต์เสียวอย่างรุนแรง เขาสร้างความหฤหรรษ์ให้นางจนสุขล้น จนทนไม่ไหว ต้องขมิบตอดรัดลิ้นร้อนรัว ๆ บัดนี้ดอกไม้งามได้เบ่งบานฉ่ำแฉะชุ่มโชกไปด้วยน้ำหวานที่ถูกขับออกมาเมื่อนางเสร็จสม ร่างบางอ่อนระทวยทั้งหอบเหนื่อย ความคิดใด ๆ ในหัวที่เคยมี บัดนี้ไม่หลงเหลืออยู่เลย อาการอ่อนแรงเหมือนจะอยู่ได้เพียงครู่เดียว เมื่อลิ้นร้อนเปลี่ยนที่หมายใหม่เป็นบัวตูมคู่งาม แล้วความต้องการของนางก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้กลางกายที่บานฉ่ำถูกจู่โจมด้วยนิ้วยาวที่ค่อย ๆ สอดแทรกผ่านกลีบเนื้อนุ่ม จากหนึ่งนิ้วก็เพิ่มเป็นสองและสาม พร้อมกับขยับเข้าออกเบา ๆ เพื่อล่อหลอก ก่อนจะกระทุ้งเข้าลึกจนสุดข้อ ทำเอานางดิ้นพล่าน ส่งเสียงหวีดร้องลั่นห้อง แล้วนางก็เริ่มหายใจถี่แรงร่วมกับเสียงครางกระเส่า คล้ายคนกำลังจะขาดใจ “โอ้วววว ทะ...ท่านพี่ได้โปรด” นางกรีดร้องเรียกเจ้าบ่าว พร้อมกับเด้งสะโพกขึ้นหาอย่างเว้าวอน เมื่อถูกสามนิ้วกระทุ้งเข้าสู่โพลงร้อนที่คับแน่นอย่างต่อเนื่อง แม้ร่องสาวบริสุทธิ์จะคับแน่นปานใด แต่ความลื่นที่ได้จากน้ำหวานก็ช่วยได้มากทีเดียว ถึงเขาจะขยับนิ้วเข้าออกจนลึกสุดมันก็ไม่ได้ทำให้นางเจ็บแม้แต่น้อย มีแต่ทำให้นางสุขสมนั่นแล้ว “ท่านพี่ได้โปรดเถิด ข้าต้องการมากกว่านี้อีก” นางร้องขอ พร้อมกับคว้าเจ้าสิ่งนั้นของเขามากุมไว้ เป็นการบอกใบ้ได้อย่างโจ่งแจ้งทีเดียว เหมือนนางรู้แล้วว่าเจ้าแท่งร้อนที่อยู่ในมือจะช่วยบรรเทาความต้องการของนางได้ “อืม...” ชายหนุ่มครางรับ แล้วจัดท่าตั้งรับให้ใหม่ เขาจับสองขาเรียวให้แยกออกกว้างก่อนจะสอดความใหญ่โตแข็งขึงเข้าเติมเต็มแทนนิ้วมือทั้งสาม ซึ่งไม่ใช่นางคนเดียวที่ต้องการเสียเมื่อไหร่ เขาเองก็อยากเข้าไปเติมเต็มให้นางเช่นกัน “ภรรยาที่รัก ใช่แบบที่เจ้าปรารถนาหรือไม่” เสียงถามแหบพร่าแต่มีเสน่ห์น่าหลงใหล ขณะเดียวกันเขาก็ดันกายแกร่งเข้าลึกสุด ส่วนร่างบางก็สั่นเทิ้มรับ เขารู้ว่านางเจ็บเพราะเป็นครั้งแรก แต่กลับไม่ได้คำนึงถึงอายุของนางเลย เสียงสะอื้นไห้ผสมกับเสียงครวญครางที่ดังเป็นห้วง ๆ ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบหื่นของเขาให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี “ขอโทษนะม่านหลิว ข้าจะพยายามทำให้เจ้าพอใจ และจะเป็นสามีที่ดี” คำปลอบทำให้เสียงสะอื้นหยุดลง คงเหลือแค่เสียงครางกระเส่าเร่าร้อนให้ได้ยิน จากนั้นค่ำคืนวสันต์พร่ำรักก็ได้ทำงานของมันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ในค่ำคืนที่สุรามงคลสูตรพิเศษแผงฤทธิ์ เสียงของแข็งกระแทกกับพื้นไม้ดังกึก ๆ ผสานกับเสียงร้องครวญครางของทั้งคู่ดังระงมไปทั่วทั้งชั้นสอง ทำให้แขกที่พักอยู่ห้องข้าง ๆ และห้องใกล้เคียงต่างทำตัวไม่ถูก ขนาดว่าหรงจู๊ของโรงเตี๊ยมได้มาเตือนเอาไว้ก่อนแล้ว พอเจอเหตุการณ์เข้าจริง ๆ มันก็ยากจะรับมือไหว ลูกค้าคนไหนที่มาพักคนเดียวต่างก็โอดครวญและกัดฟันอดกลั้นเอาไว้ ส่วนคนที่มาเป็นคู่มีหรือที่จะอดใจไหวกับเสียงที่ยั่วเย้าความกระหายอยากได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD