คนท้องขี้ตระหนี่

1635 Words
“ท่านหมอกัวฟู่เฉินเป็นหมอที่เก่งอันดับต้น ๆ ของหลุนซานขอรับ” หรงจู๊แนะนำตัวท่านหมอให้กับลูกค้า ทั้งยังอวดสรรพคุณให้เสร็จสรรพ “ขอบคุณหรงจู๊ เชิญท่านหมอด้านโน้นขอรับ” ชายหนุ่มผายมือไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่จัดเอาไว้ให้ท่านหมอนั่งโดยเฉพาะ แล้วเขาก็พยุงภรรยาไปไปนั่งที่เตียงนอน จากนั้นก็เล่าอาการของภรรยาที่เป็นอยู่มาหลายวันให้ฟังอย่างละเอียดก่อนที่ท่านหมอจะเริ่มตรวจไข้ เมื่อวิวินิจฉัยจากคำเล่าของคนที่เป็นสามี ท่านหมอชราก็พอจะดูออกแล้วว่าฮูหยินน้อยผู้นี้ไม่ได้เจ็บป่วยอย่างที่สามีของนางเป็นกังวล ยิ่งได้จับชีพจรของนางดู มันก็ยิ่งชัดเจน เมื่อตรวจคนไข้แล้วเสร็จท่านหมอกัวก็ยิ้ม ก่อนจะกล่าวแสดงความยินดีกับคู่สามีภรรยาที่ยังหนุ่มยังสาว “คุณชาย ที่จริงภรรยาของท่านไม่ได้ป่วยหรอก ที่นางมีอาการอิดโรยเช่นนี้หรือมีอาการวิงเวียนทั้งยังอาเจียนด้วยนั้น นั่นเพราะนางกำลังตั้งครรภ์ ข้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ” “หะ! ภรรยาข้าท้องจริง ๆ หรือท่านหมอ” ไม่ใช่ไม่เชื่อว่าเมียกำลังท้อง แต่เขาตื่นเต้นจนหาคำที่พูดไม่ถูกเท่านั้นเอง “อืม...ต่อไปท่านต้องระวังให้มาก ๆ ห้ามให้นางทำอะไรที่หักโหมจนเกินไป หรือแม้แต่ควบขี่ม้าก็ยิ่งอันตราย เดี๋ยวข้าจะจัดเทียบยาบำรุงครรภ์มาส่งให้พรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน หมดหน้าที่แล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอลา” โจวซีหยางเดินไปส่งท่านหมอกัวที่ประตู แล้วก็เดินหน้าบานกลับมาหาภรรยา “ได้ยินหรือไม่ฮูหยิน เจ้ากำลังมีก้อนแป้งตัวน้อย ๆ อยู่ในท้อง” เขากล่าวทั้งรอยยิ้ม ดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็น ในใจก็รู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งโล่งอก โชคดีแค่ไหนแล้วที่นางกับลูกไม่เป็นอะไร ตอนที่เขาพานางขี่ม้ามาจนถึงที่นี่ “ท่านดีใจที่จะมีลูกจริง ๆ หรือ เราไม่ได้รักกันและไม่ได้ตั้งใจที่จะมีเขาเลย ท่านเองก็รู้ดี” นางไม่ได้รู้สึกดีใจเหมือนอย่างที่เขาเป็น แต่นางก็ไม่ได้แสดงออกว่าเสียใจเช่นกันที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ “ข้ารู้ว่าลูกไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของเรา แต่เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าเขาเกิดจากความรักที่ข้ามีต่อเจ้า งานแต่งงานมีขึ้นเพราะข้าอยากเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้า ยิ่งพอได้รู้ว่าเจ้าตั้งครรภ์ ข้าก็ดีใจมากที่จะได้เป็นบิดา และรู้สึกรักเขาขึ้นมาทันทีเลยรู้ไหม เหมือนกับตอนที่ข้าพบเจ้าครั้งแรก จากวันนี้เป็นต้นไป ช่วยเปิดใจให้ข้ากับลูกหน่อยเถิดนะม่านหลิว ข้าจะใช้ความพยายามทั้งหมดที่มี ทำให้เจ้ารักข้าให้ได้” เถาม่านหลิวไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำขอของสามี แต่ในตากลมโตของนางกลับมีน้ำใส ๆ เอ่อออกมาโดยไม่รู้ตัว นางคิดไม่ออกว่าเคยเจอชายผู้นี้ก่อนค่ำคืนที่จะเกิดเรื่องหรือไม่ แต่ฟังที่พูด เหมือนเขาเคยเจอนางมาก่อน และเขาก็บอกว่ารักนางใช่หรือเปล่านะ “เจ้าหิวไหม ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าอยากกินเสี่ยวหลงเปามากแค่ไหน แต่กลับไม่ได้กิน ไม่ใช่เพราะข้าไม่อยากให้เจ้ากินหรอกนะ แต่เป็นเพราะมันหาซื้อไม่ได้ต่างหาก แล้วตอนนี้เจ้ายังอยากกินอยู่หรือไม่” เขาอยากให้นางรู้สึกดีขึ้น จึงพยายามเอาอกเอาใจทุกอย่าง “ข้ากินอะไรก็ได้ที่ไม่แพง ตอนนี้เรามีลูกแล้ว ข้าไม่อยากใช้เงินฟุ่มเฟือย อีกอย่าง โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็แพงเกินไป เราย้ายไปอยู่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ดีกว่าหรือไม่ หรือจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลยข้าก็ไหวเราจะได้ประหยัด กว่าจะถึงจงไฮ่ตำลึงที่มีอยู่คงจะหมดในไม่ช้า หากเงินไม่พอใช้ ให้เอาเครื่องประดับของข้าไปขายก็ได้” กว่าจะพูดจบทำเอานางหอบเหนื่อย เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ม่านหลิวอยากจะประหยัดและรู้สึกเสียดายเงิน เพราะนางเห็นใจเขา ก็สามีของนางเป็นแค่พ่อค้าจรที่มาจากต่างถิ่นเองมิใช่หรือ “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก พักผ่อนอยู่ที่นี่ให้หายเหนื่อย แล้วเราค่อยออกเดินทาง ถ้าสุขภาพของเจ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ ขืนเดินทางต่อไปเจ้ากับลูกก็จะเป็นอันตราย” หลังจากที่พูดกันเข้าใจดีแล้ว โจวซีหยางก็สั่งอาหารที่ภรรยาเคยเรียกร้องอยากจะกินแต่ก็ไม่เคยได้กิน คราวนี้เขารู้ถึงสาเหตุที่นางเสียน้ำตาเพราะไม่ได้กินของเหล่านี้แล้ว “ทำไมถึงสั่งมาเยอะแยะเช่นนี้เล่า ข้าบอกแล้วว่ากินอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องแพง” นางบ่นเมื่อเห็นของกินเต็มโต๊ะ แต่ละอย่างล้วนเป็นของที่นางอยากจะกินทั้งนั้น แต่มันก็มีราคาที่แพงหูฉี่นางรู้ดี “เจ้ากิน ลูกก็ได้กินด้วย เมื่อเจ้ากับลูกมีความสุข สามีเช่นข้าก็มีกำลังใจที่จะทำมาหาเลี้ยงเจ้ากับลูกยังไงล่ะ” ขณะพูด รอยยิ้มก็ฉาบในใบหน้าหล่อเหลาตลอดเวลา “แค่วันนี้เท่านั้นนะ วันหลังไม่ต้องสิ้นเปลือง” นางกำชับเรื่องอาหาร เพราะกลัวว่าสามีจะใช้เงินเกินตัว “ได้สิ ลงมือกินเถอะ ลูกคงหิวแย่แล้ว” เขารับปากอย่างไว เพราะกลัวนางจะไม่ยอมกิน แต่จะทำตามหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช้าของวันใหม่ ท่านหมอกัวฟู่เฉินนำยาบำรุงมาส่งให้ด้วยตัวเอง พร้อมกับตรวจสุขภาพให้คนท้องอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่านางแข็งแรงพอที่จะเดินทางไกลอีกครั้ง “ข้าจัดยาบำรุงครรภ์มาให้มากพอทีเดียว ไม่ต้องกังวลว่าจะหมดก่อนถึงจงไฮ่” ท่านหมอบอกอย่างคนใจดีมีเมตตา “อ้อ...ฮูหยิน เช้านี้ท่านรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนบ้างหรือไม่” หมอกัวยังสงสัย ก่อนหน้านั้นสามีของนางยังบอกอยู่เลยว่านางมีอาการแพ้ท้องทุกวัน แต่ตอนนี้มันหายไปได้อย่างไรกันนะ “ข้าคงหายแพ้ท้องแล้วกระมังท่านหมอ” คนท้องตอบด้วยใบหน้าที่แจ่มใส ผิดกับเมื่อวานลิบลับ “อืม...คงจะเป็นอย่างที่ฮูหยินน้อยว่า ถ้าอย่างนั้นข้าก็หมดหน้าที่แล้ว แต่ถ้ามีสิ่งใดผิดปกติ คุณชายก็ให้คนไปตามข้าได้ตลอดเวลาเลยนะ” “ขอบคุณท่านหมอขอรับ โปรดรับน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้าไว้ด้วย” โจวซีหยางรีบยัดถุงเงินใส่มือของท่านหมอกัว ก่อนที่ท่านหมอจะลากลับ “ท่านอวดร่ำอวดรวยอีกแล้ว ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าให้รู้จักประหยัด ใช้เงินมือเติบเช่นนี้ ในอนาคตท่านจะพาข้ากับลูกกัดก้อนเกลือกินหรืออย่างไร” หมอกัวฟู่เฉินกลับไปนานพอสมควร เถาม่านหลิวเลยได้ทีบ่นให้สามีชุดใหญ่เหมือนป้าแก่ ๆ คนหนึ่งที่ชอบบ่นว่าให้สามี แต่โจวซีหยางกลับไม่รู้สึกสลดแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังยิ้มหล่อให้นางประหนึ่งได้รับคำชมจากผู้เป็นภรรยาก็ไม่ปาน “ข้าบ่นให้ท่านอยู่นะ ยังมีหน้ามายิ้มอยู่ได้” ใบหน้างามงอง้ำอย่างขัดใจ เมื่อว่าให้อย่างไร ผู้เป็นสามีก็ไม่สะดุ้งสะเทือน “อย่าเสียดายเงินที่ข้าให้รางวัลท่านหมอเลยนะ เพราะมันเทียบกับยาบำรุงครรภ์ที่ท่านหมอให้มาไม่ได้แม้แต่น้อย” “อืม...แต่ต้องสัญญานะว่าท่านจะรู้จักประหยัดให้มากกว่านี้” “ข้าสัญญาว่าจะประหยัด และจะขยันหาเงินเพื่อเจ้ากับลูกจะได้ไม่ลำบาก” คำสัญญาทำให้เขาได้รับรอยยิ้มที่น่ารักจากนางเป็นครั้งแรก “ที่จริงข้าก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว หากหัวหน้าเผิงมาถึง เราออกเดินทางเลยก็ได้” “พักอีกสักคืนเถอะ รอดูให้แน่ใจก่อนว่าเจ้าแข็งแรงดีแล้ว เรื่องเดินทางเราไม่ได้รีบเร่งขนาดนั้น” “ก็ได้ ถ้าหากข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เราออกเดินทางกันนะ” เสียงของนางเริ่มสดใสขึ้น เพราะรู้สึกเสียดายตำลึงที่ต้องจ่ายค่าห้องในราคาที่แสนแพง เถาม่านหลิวจึงไม่อยากจะพักที่นี่อีกแม้แต่วันเดียว หากเป็นแต่ก่อนนางคงเฉย ไม่ว่าโจวซีหยางจะจับจ่ายใช้เงินอย่างไร หมดไปเท่าไหร่ มันก็ไม่ทำให้นางรู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คน ความคิดความอ่านของม่านหลิวจึงเปลี่ยนไป นางดูโตขึ้นและที่สำคัญ นางรู้จักตระหนี่ถี่เหนียวเป็น ถึงขั้นที่ว่า...ต่อให้ใช้รถม้าเป็นที่หลับนอนอยามค่ำคืนทุกวันนางก็ทนได้ ส่วนอาหาร แม้จะเป็นของง่าย ๆ ที่หาได้ตามชายป่า นางก็กินได้เช่นกัน ต่อไปนี้นางจะไม่บ่นอีกเลยหากรสชาติอาหารไม่ถูกปากหรือได้กินแต่ของเดิมซ้ำ ๆ ขอแค่ไม่ต้องควักเงินออกมาใช้ก็พอแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD