ติดกลิ่นสามี

918 Words
พอเถาม่านหลิวได้เสื้อที่เต็มไปด้วยกลิ่นของสามีมากก กอด นางก็ไม่รู้สึกคลื่นไส้และเวียนหัวอีกเลย แต่ยามค่ำคืนโจวซีหยางก็ยังมานอนเฝ้านางมิห่างไปไหนเช่นเคย และเป็นอยู่แบบนี้ทุกวัน จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ห้า “ฮูหยินเจ้าคะ เอาเสื้อของนายท่านมาให้บ่าวนำไปซักเถอะ หลายวันแล้วนะเจ้าคะ กลิ่นมันเปลี่ยนไปแล้ว” จูถิงพยายามขอเสื้อตัวที่คนท้องกำลังนอนกอดแนบอก ทั้งยังสูดดมกลิ่นของมัน ประดุจว่าเป็นกลิ่นหอมของมวลพฤกษาก็ไม่ปาน “ไม่เอา มันยังมีกลิ่นอยู่เลย ถ้าเจ้าเอาไปซักกลิ่นมันก็หายไปน่ะสิ” คนท้องโอดครวญ สีหน้าเริ่มสลดลง เพราะกลิ่นของสามีเริ่มหายไปแล้วอย่างที่จูถิงว่า ถ้าเอาเสื้อไปซัก กลิ่นของมันก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งนางก็ไม่ต้องการ แต่ถ้าจะให้ไปเอาตัวใหม่ที่สามีกำลังใส่อยู่นั้น มันก็ยิ่งยาก เพราะนางไม่สามารถใช้กลอุบายแบบเดิมได้อีกแล้ว หากทำอีกครั้งคงโดนเขาจับได้แน่ นางคงสู้หน้าเขาไม่ได้ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอาย จะมีคนท้องคนไหนที่เป็นแบบนางบ้างล่ะ คงมีแต่นางเท่านั้นกระมังที่ประหลาดอยู่คนเดียว “โธ่ ฮูหยินเจ้าขา ก็แค่ขอตัวใหม่จากนายท่าน คงไม่เป็นไรกระมัง” จูถิงแนะนำทางออกให้ “ไม่ได้ มันน่าอาย” ม่านหลิวปฏิเสธที่จะขอเสื้อที่มีกลิ่นเหงื่อของสามี ไม่ใช่เพราะนางรู้สึกอายเพียงอย่างเดียว แต่นางกลัวเสียหน้าด้วยน่ะสิ โจวซีหยางต้องเอาเรื่องนี้มาล้อเลียนนางจนกระทั่งลูกโตแน่ ๆ “มีลูกด้วยกันแล้ว จะอายทำไมอีกเจ้าคะ” ที่จูถิงพูดก็ถูก แต่มันไม่เหมือนกันนี่ นางเถียงในใจ เรื่องที่สาวใช้กับเจ้านายสาวถกเถียงกัน ดูเหมือนจะไม่ใช่ความลับอีกแล้ว เพราะโจวซีหยางและเผิงจิ้งดันยืนอยู่แถวนั้น และพวกเขาก็ได้ยินเต็ม ๆ ทั้งสี่หู “ฮูหยินของเจ้าชื่นชอบดมกลิ่นตัวจากเสื้อที่ใส่แล้วของสามี เป็นแบบนี้สินะนางถึงได้หายจากอาการคลื่นไส้อาเจียน” เผิงจิ้งวิเคราะห์ “เจ้าได้ยินแล้วก็หุบปากเงียบซะ อย่าทำให้นางรู้สึกไม่ดีเข้าใจหรือไม่” “ข้ารู้แล้วน่า” เผิงจิ้งรับคำก่อนจะเดินผิวปากกลับไปยังที่ของตน หลังจากที่ไปได้ยินความลับของภรรยาเข้าโดยบังเอิญ โจวซีหยางจึงวางแผนที่จะเอาเสื้อตัวใหม่ที่ใช้แล้วให้นาง โดยที่ไม่ทำให้นางสงสัย ในค่ำคืนที่อากาศกำลังเย็นสบาย แต่มีอยู่คนหนึ่งที่บ่นว่าร้อนอบอ้าวแทบทนไม่ไหวจนต้องถอดเสื้อผ้านอน และมีอีกคนกำลังลิงโลดที่จู่ ๆ ก็มีโชคใหญ่ลอยมาหาถึงที่ พอสามีถอดเสื้อออกนางก็ทำเหมือเดิมคือเก็บเอาเสื้อของเขามานอนทับเอาไว้ และทำได้อย่างแนบเนียน พอถึงตอนเช้า โจวซีหยางก็เดินลงจากรถม้าพร้อมกับมีกางเกงแค่ตัวเดียวติดตัวออกไป เหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด “แผนของข้าสำเร็จแล้วสินะ” เขาหัวเราะหึ ๆ เมื่อคิดเห็นสีหน้าของภรรยา ดูเหมือนนางจะดีใจมาก จนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่เลยเชียว “เจ้าช่างน่ารักเหลือเกินภรรยาข้า” เขาแอบชื่นชมความน่ารักของนางเบา ๆ ก่อนจะเดินไปให้เผิงจิ้งแซวอีก ซึ่งเผิงจิ้งก็ทำอย่างนั้นจริง ๆ “เจ้าช่างเป็นสามีที่เสียสละและรักภรรยาเสียเหลือเกิน ข้าก็เพิ่งเคยได้ยินการแพ้ท้องที่แปลกประหลาดก็คราวนี้แหละ หวังว่าลูกคนที่สองอาการของฮูหยินจะไม่หนักไปกว่านี้นะ” “เผิงจิ้ง! ข้าบอกแล้วไงอย่าพูดมาก” “ฮิฮิ ขออภัยด้วย เผอิญปากมันคันน่ะ” เผิงจิ้งขอโทษขอโพยไปตามระเบียบ จะเป็นเช่นนี้ทุก ๆ ครั้งที่โดนดุ แต่คงไม่นานหรอกเผิงจิ้งคนนี้ก็จะก่อเรื่องอีกเหมือนเดิม เมื่อได้เสื้อตัวใหม่ที่มีกลิ่นของสามีชัดเจน เถาม่านหลิวก็เห่อเอามาก ๆ ถึงกับเอามาสวมทับเสื้อของตัวเองเลยทีเดียว “ฮูหยินได้เสื้อตัวใหม่แล้ว บ่าวขอเอาเสื้อตัวนี้ไปซักนะเจ้าคะ” “อือ...ก็เอาไปสิ” นางปัดมือไล่ ไม่แยแสกับเสื้อตัวเดิมที่หมดความสำคัญไปแล้ว จนจูถิงรู้สึกหมั่นไส้ปนเอ็นดูกับความขี้เห่อของเจ้านาย วันต่อ ๆ มา โจวซีหยางก็ทำเช่นเดิม เขาใส่เสื้อมาถอดทิ้งเอาไว้ให้นางทุกวัน เพราะไม่อยากให้ภรรยาสูดดมกลิ่นเหงื่อที่หมักหมมหลายวัน เกรงจะไม่ดีต่อสุขภาพของนางและลูกน้อยในครรภ์ ทั้งยังแสร้งบอกให้สาวใช้นำเสื้อไปซักเพื่อความสมจริงอีกด้วย พอถึงตอนเช้าเขาก็หยิบเสื้อตัวใหม่ ที่ซักเอาไว้เรียบร้อยแล้วมาสวมก่อนจะเดินลงจากรถม้าไป นับเป็นการแสดงงิ้วที่พลิ้วยิ่งนัก คงยากที่ภรรยาจะรู้เท่าทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD