ผู้ชายเพลย์บอย

2034 Words
ปึก!!! ใครคนหนึ่งที่มัวแต่เดินก้มหน้างุดมองพื้นเธอจึงเดินชนกับอกของผมจนล้มก้นกระแทกกับพื้นในขณะที่ผมกำลังจะเดินกลับที่พัก “อุ๊ย!! ขอโทษค่ะ ฉันไม่ระวัง” เธอคนนั้นเอ่ยขอโทษขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มองหน้าผมด้วยซ้ำ จนเธอเงยหน้ามองมาที่ผมพร้อมกับลุกยืนปัดสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้า เธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนหนาเตอะแต่ก็ยังดูสวย ใบหน้าที่มองดูแล้วเธอมีความสวยด้วยธรรมชาติสรรค์สร้างทั้งหมดไร้การตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสิ่งแปลกปลอมและนวัตกรรมสมัยใหม่ “ไม่เป็นไร...คุณเจ็บหรือเปล่า” ผมเอ่ยขึ้นพร้อมเข้าไปพยุงเธอ รอยยิ้มบางๆ ที่ผมส่งให้พร้อมจ้องมองใบหน้าที่มีเสน่ห์นั้นจนไม่อยากจะละสายตา ดวงตาที่คมกลมโตที่เปล่งประกายอย่างน่าหลงใหลเมื่อสบตามันช่างดึงดูด “ไม่เจ็บเลยค่ะ ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่ทำให้เสียเวลา” เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนผมต้องหลุดจากภวังค์เสน่หานี้ นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าผู้หญิงมีเสน่ห์ที่รอยยิ้มและแววตาที่แสดงออกมาด้วยความจริงใจ แล้วเธอก็เดินจากไปแต่รอยยิ้มสุดท้ายที่เธอส่งมามันยังติดตรึงในใจของผม..... ผมชื่อแซม อายุยี่สิบหกปี ผมไม่ใช่คนดีและผมก็ไม่ใช่คนเลวครับ ผมเป็นคนเทาๆ (แซวเล่นครับ) ผมเป็นช่างภาพอิสระ ด้วยความที่มีน้องสาวเป็นคนชอบถ่ายรูปเธอขอให้ผมเรียน ผมเป็นคนรักน้องสาวมาก ก็พวกเรามีกันแค่สองพี่น้องนี่ครับ ฐานะทางบ้านของผมอยู่ในระดับปานกลาง พอกินพอใช้ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย พ่อแม่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดารายได้ต่อเดือนแค่หลักหมื่น อ่อผมลืมแนะนำน้องสาวผู้แสนซุกซนของผม เธอชื่อซินอายุสิบเก้าปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเธอเลือกเรียนเหมือนแม่ เธอมักจะบอกว่าแม่คือไอดอลของเธอ แม่ของผมเป็นคนเก่ง แม่เคยเล่าชีวิตตอนเด็กๆ ให้พวกเราฟังเสมอว่าแม่ไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายตอนอายุเท่าซินแม่ต้องหาเงินเรียนเองเพราะด้วยฐานะทางบ้านของตากับยายไม่ได้มั่งมีเหมือนคนอื่นๆ แต่แม่รักที่จะเรียนเลยรับจ้างทุกอย่างที่มีคนจ้างได้เงินมาแม่ก็จะแบ่งให้ยายบ้างและเก็บไว้ส่วนหนึ่งไว้จ่ายค่าเทอม นั่นแหละครับผมและน้องถึงไม่อยากให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวพวกเราในเรื่องเรียน ถึงผมจะเที่ยวบ้าง เล่นบ้างแต่ผมไม่เคยทิ้งการเรียน ผมยังเรียนดีเสมอ เพราะเมื่อเทียบกับแม่พวกผมสบายกว่าแม่มาก พวกผมไม่ต้องหาเงินจ่ายค่าเทอมเองแต่ผมไม่ได้อยู่เฉยๆ นะครับระหว่างที่เรียนช่วงมหาลัยด้วยพรสวรรค์ที่ผมมี ผมรับจ้างถ่ายภาพตามงานต่าง ๆ ถึงจะได้เงินไม่มากมายเท่าไหร่ ผมก็ไม่เคยติ แต่ผมก็ทำเพราะถือว่ามันจะเป็นการพัฒนาฝีมือของผมไปด้วย “ให้ตายเถอะ... ทำไมผมต้องนึกถึงคุณด้วยนะ ” ผู้หญิงที่เดินชนผม ใบหน้าและรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์มันยังติดตรึงในสายตาของผม ตอนนี้ผมนั่งทำงานอยู่ในอาพาร์ทเม้นที่เช่าอยู่แต่ก็ต้องหวนนึกถึงใบหน้าของเธอ ผมยังไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของเธอแต่ทำไมเธอถึงมีอิทธิพลต่อจิตใจและร่างกายของผมขนาดนี้ “ขอให้ผมได้เจออีกครั้งเถอะ...ยัยหน้าหวาน” ผมเอ่ยพึมพรำออกมาด้วยความไม่เข้าใจตัวเองอารมณ์ที่มันพุ่งพล่านเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานที่ทรงเสน่ห์ของเธอมันทำให้ความต้องการของผมเกิดขึ้น แค่เพียงความคิดผมก็อยากจะครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องพักของผมดังขึ้น ผมวางมือและละสายตาจากงานตรงหน้าก่อนที่จะลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินไปเปิดประตู น้อยคนที่จะได้รับอนุญาตมาให้มาหาผมที่นี่นอกจากคนที่ผมพอใจในระดับหนึ่ง “...ไอซ์...” เธอมาได้จังหวะพอดีกับที่ผมต้องการปลดปล่อย ผมมองไปตามร่างกายของไอซ์ เธอเป็นคนเข้าหาผมก่อน ในงานหนึ่งที่เธอเป็นคนติดต่อผมไปถ่ายรูปแบบเสื้อผ้าร้านของเธอ  เธอเป็นคนสวยและเธอจะมาหาผมเพียงแค่......และมันก็เป็นในสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมไม่ชอบการไม่ผูกมัด บอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนดี “ไอซ์ไลน์หาแซม แต่ไม่เห็นอ่านเลยแวะมาหาเองเลยดีกว่าเซอร์ไพรซ์ไหมคะ” “ฮึ...” ผมยกยิ้มมุมปากแล้วดึงเธอเข้ามาในห้อง ผมมองหน้าไอซ์ตั้งแต่หัวไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ “ว๊าย! แซม....อื้ม” เธอแสร้งร้องตกใจเมื่อผมกระชากแขนเธอเข้าหาตัวแล้วบดจูบเธออย่างหนักหน่วง ผมไม่ปราณีและทะนุถนอมผู้หญิงที่วิ่งเข้าหาผู้ชายก่อนหรอก  ผมจะหวงแหนทะนุถนอมกับคนที่ผมรักจริงๆ ด้วยหัวใจเท่านั้น“ใจเย็นๆ สิคะ... อ่าส์... แซม อื้ม อื้อออ” ปากเธอร้องห้ามแต่กิริยาที่ตอบสนองผมมันช่างตรงกันข้าม แล้วผมจะเอาผู้หญิงง่ายๆ แบบนี้มาเป็นแม่ของลูกได้ยังไงนอกจากมีไว้ระบายอารมณ์เท่านั้น และเท่าที่ผมรู้ไอซ์ก็ไม่ใช่ผู้หญิงใสๆ เธอกอดจูบตอบผมอย่างคล่องตัวและไม่เคอะเขินคงเพราะเราร่วมรักกันบ่อย ผมปลดกระดุมเสื้อและจูบเธออย่างร้อนแรงไร้ความนุ่มนวล เราทั้งคู่ต่างปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้กันและกันจนร่างกายของผมและไอซ์ไม่เหลือเสื้อผ้าเลยซักชิ้น  “อ่าส์ อ่าๆ....อื้ม...” ร่างกายขาวเนียนที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิดนอนระทวยอยู่บนเตียงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เหยียดกายแผ่หลา สองเต้าอวบอิ่มถูกผมบีบคั้นจนแทบแหลก เนื้อนมล้นปริ้นออกตามง่ามมือ ผมสอดนิ้วถูไถขึ้นลงตามร่องสวาทของเธอจนมีน้ำเยิ้มไหลอาบตามนิ้วมือ “อ่าส์ แซม อร๊าๆซี๊ด อ๊ะๆ” “อย่าเรียกชื่อผม” พล่อก....ผมถอนนิ้วที่เยิ้มไปด้วยน้ำรักออกก่อนที่จะลุกไปสวมถุงยางที่อยู่ในลิ้นชัก ผมต้องป้องกันตัวเอง เพราะผู้หญิงแบบนี้ ไม่ใช่คนที่ผมต้องการร่วมเรียงเคียงหมอนด้วย “ไม่ต้องใส่ก็ได้นะคะ. อ่า! ..” ผมไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดและดันดุ้นร้อนๆ ที่สวมถุงยางโดยไม่ฟังเสียงเธอ เธอไม่ได้สำคัญอะไรที่ผมต้องฟังเสียงปรามของเธอ เสียงเนื้อกระทบกันดังระงมไปทั่วทั้งห้อง ผมไม่จำเป็นต้องปราณี นุ่มนวลต่อเธอ ผมกระแทกสะโพกสวนเอวเข้าหาด้วยความต้องการ ภาพในหัวที่แวบเข้ามามันทำให้ผมจินตนาการเป็นยัยหน้าหวานคนนั้น  “อ๊าๆๆ!! ซี๊ด! อร๊าๆๆ ” “อืม.. อ่าๆๆ”ผมจับเอวไอซ์เปลี่ยนท่าคว่ำหน้าแล้วยกสะโพกเธอโก่งโค้ง ก่อนที่ผมจะกระแทกแกนกายความเป็นชายเข้าหาเธอจนมิดลำ มันเข้าลึกและมันก็ออกจนเกือบสุด  “อ๊ะๆๆๆ อื้อ ซี๊ดอร๊าๆๆๆ” “ซี๊ด”  “ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๋า อ๊ะ อ่าๆๆ ...อร๊ายยย” “อ่าๆๆ!!”ไอซ์กำผ้าปูที่นอนแน่น กับจังหวะสวนเอวที่เร็ว ผมกระแทกกระทั้งไปตามความต้องการ จับสองเต้าอวบอิ่มที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกปลอมจนกวัดแกว่งไปมาตามแรงกระแทก ผมกระชับสะโพกและถาโถมดั่งกับพายุลูกใหญ่ในจังหวะสุดท้าย “อร้ายยยยยยยยอู๊ย” “อ๊า! ซี๊ด...อื้ม” พล่อก!...ผมถอดดุ้นยักษ์นั้นออก พร้อมกับรูดน้ำรักออกจากตัวจนหมด น้ำขาวขุ่นพุ่งฉีดไปตามเนื้อตัวขาวที่นอนระทวยอยู่กับที่นอน เธอหอบเหนื่อยจ้องมองมายังผม ภาพใบหน้าของยัยหน้าหวานนั้นยังตราตรึงผมอยู่ แม้ผมจะได้ปลดปล่อยไปแล้วก็ตาม เธอดึงดูดผมได้ดีจริงๆ ผมลุกออกจากเตียงโดยไม่สนใจใยดีร่างกายขาวเนียนที่นอนหอบเหนื่อยเลยสักนิด ผมเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย...  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า มันทำให้ผมคิดตระหนักได้อย่างถี่ถ้วนว่ายัยหน้าหวานคนนั้นทำให้ผมคลั่งเธอเพียงแค่พบเจอหน้าแค่ไม่กี่นาที กริ๊งงงงง เสียงโทรศัพท์ของผมดังผมรีบละจากงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปรับสายทันที ช่วงนี้คนติดต่องานถ่ายภาพค่อนข้างเยอะ มันเป็นช่วงกอบโกยของผม "สวัสดีครับ" "สวัสดีค่ะ...จะติดต่องานถ่ายภาพหน่อยค่ะ" "อ๋อครับ แต่ช่วงนี้คิวงานผมแน่นอาจจะต้องรอคิวนาน"  "ไม่เป็นไรค่ะ รอได้พอดีเพื่อนแนะนำคุณ เห็นว่าถ่ายภาพสวย" "ถ้างั้นผมขอนัดคุยรายละเอียดงานกับคุณสะดวกไหมครับ" "ได้ค่ะ สะดวก" "งั้นเดี๋ยวผมจะส่งวัน เวลานัด ให้ทางข้อความอีกทีนะครับ" "โอเคค่ะ"  หลังจากวางสาย  ผมก็เดินกลับมานั่งทำงานต่อแต่ในระหว่างนั้นทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นชินกับน้ำเสียงนี้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าผมเคยได้ยินจากที่ไหน ผมสลัดความสงสัยทิ้งแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่องานนี้เป็นงานที่ผมได้รับค่าจ้างค่อนข้างเยอะ เจ้าของร้านกาแฟที่จ้างให้ผมถ่ายภาพและทำภาพเพื่อโปรโมทร้าน ผมทำกราฟฟิกได้ด้วยนะครับอันนี้เป็นความชอบส่วนตัวที่ผมศึกษาจากหนังสือด้วยตัวเองทั้งหมดลองผิดลองถูกจนผมสามารถทำได้คล่องและสามารถทำประโยชน์ให้กับตัวเองได้ อะไรที่เราชอบมันมักจะทำได้ดีและรวดเร็วเสมอ เย็นนี้เจ้าของงานนัดให้ผมเอางานไปให้เธอดู ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเอาไปให้ทั้ง ๆ ที่มันสามารถส่งงานให้ผ่านอีเมล์ได้ แต่เธอเป็นลูกผมจึงปฏิเสธไม่ได้ . . "คุณแอนลองตรวจงานดูนะครับว่าชอบหรือเปล่า" คุณแอนคือเจ้าของร้านกาแฟที่จ้างผมถ่ายภาพและทำกราฟฟิกให้ "ชอบค่ะ....." เธอใช้สองแขนท้าวคางแล้วมองมาที่ผม "เอ่อ คุณแอนลองดูก่อนนะครับ...หากจุดไหนที่ยังไม่พอใจผมจะกลับไปแก้ให้" ผมกระอักกระอ่วนเลิกลักตอบเธอ ก็ในเมื่อยังไม่ได้เปิดดูงานตรงหน้าสักชิ้นแล้วเธอตอบว่าชอบแล้วแบบนี้มัน....."คุณแอน คุณแอนครับ!" "คะ ๆ... ขอโทษทีค่ะ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วปรับท่าทีให้เป็นปกติ เธอเหม่อลอยมองหน้าผมทั้ง ๆที่ผมกำลังพูดเนี่ยนะ คงไม่ใช่ธรรมดาแล้ว "คุณแอนตรวจดูนะครับว่าชอบแบบที่ผมทำมาหรือเปล่า..." ผมเปิดไฟล์งานในโน้ตบุ๊คแล้วหันไปให้เธอดู "สวยดีนะคะ...แอนชอบ การออกแบบดีมากเลยนะคะ " “ถ้ามีตรงไหนให้ผมแก้ บอกได้นะครับครั้งแรกผมแก้ให้ฟรีไม่คิดเงินครับ” ผมตอบเธอตามความจริง ผมรับงานหากลูกค้ามีการปรับแบบแก้ไขครั้งแรกผมแก้ให้ฟรีแต่ครั้งต่อไปผมคิดเงินค่าแก้ไขนี่คือสิ่งที่ผมทำ “แก้! ให้ฟรีเลยเหรอคะ” เธอพูดพร้อมส่งยิ้มมาให้ผม แต่คำถามผมฟังแล้วมันดูเหมือนมีเลศนัยสองแง่สองง่ามแปลกๆ “ครับ ผมแก้งาน! ให้ฟรีครั้งแรก คุณแอนติดขัดตรงไหนไหม” คำตอบของผมคงเป็นการย้ำชัดแล้วนะว่าผมหมายถึงงาน “แอนไม่ติดค่ะ...ฝีมือการออกแบบคุณสวยถูกใจแอนมาก “ “ขอบคุณครับ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับนะครับ” “ทานข้าวด้วยกันหน่อยสิคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD