“คะ เคเรนด์...” มิล่าตกใจตาโตให้กับภาพตรงหน้า เธอกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อร่างหนาย่างเท้าเข้ามาหลังจากล็อกประตูแล้วเสร็จ
“ทำไม ตกใจมากเหรอ” มาเฟียหนุ่มเหยียดยิ้ม เขาดีใจที่ได้เจอเธอขณะเดียวกันที่เธอมีสีหน้าตื่นตระหนกเมื่อได้พบหน้าเขา
หญิงสาวมองเคเรนด์ที่กำลังยืนพับแขนเสื้อของตนอยู่ที่ปลายเตียง ขณะเดียวกันที่ในมือของเขามีกระเป๋าสีดำขนาดเล็กอยู่ในมือ ก่อนที่เธอจะมองหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาคู่หมั้นหนุ่ม ทว่า
“ไม่ต้องคิดจะโทรหามันหรอกน่า...มันทิ้งเธอแล้ว” มิล่าหันหน้ากลับมามองเขา “ฉันไม่ได้มาทำอะไรเธอ”
“อย่าเข้ามานะ” แม้ปากของเขาจะว่าอย่างนั้น แต่ร่างหนาเขากลับเดินมาหาเธอ เสื้อสีขาวถูกปลดกระดุมจากทางด้านบนสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งที่มีไรขนอ่อน ๆ
“มิล่า...” ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดซึ่งด้านในมีสีคล้ำจากการสูบบุหรี่อย่างหนัก เขาเดินเข้าหาเธอทางด้านข้างเตียงนอนขนาดใหญ่นั้น ขณะเดียวกันที่มิล่าขยับตัวหนีเธอรับรู้ว่าหนีเขาไม่พ้นอีกตามเคย
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
“ทำอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไร”
“ก็เข้ามาแบบนี้ไง เคเรนด์...นายมันบ้าไปแล้วเลิกยุ่งกับฉันสักทีเถอะ” มิล่าว่าพร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาคู่สวย
“ไม่ ทำไมฉันต้องเลิกยุ่งกับเธอด้วย” เขาว่าพร้อมกับขึ้นเตียงนอนมาหาเธอ หญิงสาวรับรู้ชะตากรรมของตนทันทีเธอเตรียมจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคนไวกว่ารั้งเอวบางไว้เสียก่อน
“ไปไหน!”
“หนีจากนายไง!”
“อย่ามาตะคอกเสียงใส่ฉัน เธอไม่เคยตะคอกใส่ฉันอย่างนี้!” เคเรนด์รั้งเอวของเธอเข้าหาอกแกร่ง เขาไม่ได้บุ่มบ่ามมาเปลื้องผ้าเธอเหมือนเคย มันแปลกไปจะว่าดีก็ว่าได้ไม่เต็มร้อย
มิล่าตกเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าคมสันของเขาฝังที่ไหล่ของเธอ กลิ่นสาบสาวหอมคุ้นเคยทำให้เขาใจสั่น
“อยู่นิ่ง ๆ สักนาทีได้มั้ย...” เสียงของเขาดังอู้อี้ในลำคอทำให้เธอนิ่งไปในทันที มิล่าไม่ได้อยากให้เขาทำแบบนี้ เขาควรลืมเธอไป
“ทำอะไร” อยู่ ๆ เขาก็เงียบไปขณะที่ลมหายใจของเขาก็เป่ารินรดที่ไหล่บางของเธอ
“ทำไมเธอไม่ยกเลิกงานแต่ง”
“...ฉันอยากแต่งงาน”
“ไม่ เธอถูกบังคับฉันรู้” มิล่าค่อย ๆ หันหน้ามาเผชิญหน้าเขา แม้จะมองเห็นแค่เสี้ยวหนึ่งก็ตามที
“ฉันไม่ได้ถูกบังคับ” เสียเมื่อไร ใคร ๆ ก็รู้ว่าเธอถูกบังคับจากแม่ของเธอ ขณะเดียวกันที่เธอคิดว่าการแต่งงานจะทำให้หลุดพ้นจากวังวนคนใจร้ายคนนี้ได้
“ทำไมต้องโกหกฉัน เธอรักฉัน”
“หยุดพูดแบบนี้ได้ไหม นายมาหาฉันทีไรก็ชอบคิดเองเออเองตลอด”
“เพราะมันเป็นความจริงไง” มิล่ามองเขาตาขวาง แล้วทำไมเขาถึงกอดเธอแน่นเหมือนกับงูรัดขนาดนี้
“ปล่อยได้แล้วฉันหายใจไม่ออกเคเรนด์”
“ไม่ ฉันคิดถึงเธอ” ท่อนแขนแข็งแกร่งของเขามีเส้นเลือดปูดขึ้นตามแรงกอดรัด เขาเงียบไปราวกับอยากอยู่กับเธอเงียบ ๆ มิล่าไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะถ้าดิ้นเธอกลัวว่าเขาจะทำร้ายร่างกายของเธอ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเห็นว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า
“เคเรนด์ นายเข้ามาได้ยังไง” เธองงที่คาลเวิร์ตปล่อยให้เขาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร แล้วทำไมยังไม่มีคนไปตามคู่หมั้นของเธอมาที่นี่
“ฉันอยากให้เธอ...ยกเลิกงานแต่ง” เสียงของเขาดังที่ซอกคอของเธอ มิล่าเอี้ยวตัวหันไปมองเขาด้วยสายตาไร้เยื่อใย
“ฉันทำให้ไม่ได้ แล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน นายนั่นแหละที่ต้องเลิกทำแบบนี้”
“_”
“เราเลิก...อื้ออ!” ลมหายใจของเธอขาดห้วงทันทีที่ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นบีบที่ลำคอระหง มิล่าข่มเปลือกตาลง ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่ต้องอดทนอย่างนี้
“กูไม่เคยเลิกกับมึง” ฝ่ามือหนาออกแรงบีบอย่างแรงจนร่างเล็กของเธอดิ้นพล่านในอ้อมแขนของเขา น้ำตาของหญิงสาวค่อย ๆ ไหลอาบแก้ม ก่อนที่เขาจะคลายมือออก
“เฮือกก...แค่ก ๆ” มิล่าไอน้ำหูน้ำตาเล็ด ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะพลิกร่างของเธอให้อยู่ใต้ร่างของเขา การกระทำที่รวดเร็วทำให้เธอตั้งหลักไม่ทัน เคเรนด์ผ่านการฝึกมาอย่างหนัก เขาเก่งทุกเรื่องเธอรู้ดี ขณะเดียวกันที่คำพูดของเธอยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดภายในใจของเขา
“กูจะทำให้มึงคลานเข่ามาหากูทุกวัน...” เขาว่าพร้อมกับใช้หัวเข่ากดที่แขนข้างหนึ่งของเธอ ความเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้เธอทำได้แค่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น ก่อนที่เขาจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอตาโตขึ้น
“ฮึก จะทำอะไร อย่านะ...” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาเปิดกระเป๋าขนาดเล็กที่ถือมาด้วยออก เข็มฉีดยาที่เธอเห็นทำให้มิล่าร้องตกใจ
“กรี๊ดดด~ ฮึก เคเรนด์ไม่เอา ฮึก นาย...จะทำอะไร” เคเรนด์ไม่สนเสียงกรีดร้องของเธอ เขาใช้ฟันกัดปลอกเข็มฉีดยาออก ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งตรึงเรียวแขนเล็กอีกข้างของเธอติดกับที่นอน
ผิวบอบบางขาวนวลนั้นมองเห็นเส้นเลือดดำได้โดยไม่ต้องพินิจนาน ก่อนที่เขาจะทิ่มเข็มลงไปในทันที
“ฮึก กรี๊ดด...เคเรนด์!!” มิล่าใช้ฝ่าเท้าจิกลงบนที่นอนเมื่อเขาดันไซริงค์เข้ากระบอกสูบ ความรู้สึกเหมือนกับมีสารน้ำเข้ามาทำให้เธอก้มหน้ามองหน้าแขนเหนือข้อพับของตัวเอง
“ฮึก...มันคืออะไร ฮึก เคเรนด์!” มาเฟียหนุ่มไม่ตอบเธอ สีหน้านิ่งเรียบของเขาทำให้เธอหวาดกลัว ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ดึงเข็มฉีดยาออก เป็นผลให้เลือดของเธอท้นกลับมาในทันที แต่ไม่นานมันก็แห้งเหือดไปต่างจากความเจ็บปวดที่ยังคงมีอยู่
“ถุ้ย...” เคเรนด์ถุยปลอกเข็มฉีดยาออกจากริมฝีปากก่อนที่เขาจะโยนเข็มฉีดยาทิ้งข้างเตียง “เธอยังไม่ติดหรอก ไม่ต้องห่วง”
“นาย...” ไม่ไกลไปจากที่คิดเลยสักนิด มิล่าคิดว่าต้องใช่ และมันก็ใช่จริง ๆ เมื่อเขาเอ่ยประโยคเมื่อครู่ ก่อนที่เธอจะมองร่องรอยเข็มที่มีเลือดแห้งเกรอะอยู่
“อยากเอาไปฟ้องมันก็เชิญ...ถ้าเธออยากเห็นฉันตาย” หญิงสาวชะงักไป มันไม่ต่างจากบทพิสูจน์เลยสักนิด เพราะเขารู้...รู้ว่าเธอไม่มีทางทำร้ายเขาได้
“หึ เธอไม่ไปบอกมันหรอก เธอยังรักฉัน เธอกลัวฉันถูกทรมาน” เขาว่าพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ เคเรนด์ใช้ลำแขนคว้าเอวบางของเธอเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
“ฮึก...”
“ร้องไห้ทำไม แค่เข็มเดียว...”
“ฮืออ~”
“มิล่า!” หญิงสาวกลั้นเสียงสะอื้นไห้ในทันทีที่เขาตะคอกออกมา จะไม่ให้ร้องไห้ได้อย่างไรเขากระทำป่าเถื่อนกับเธออย่างกับเธอไม่ใช่คน
“เข็มนี้เป็นเข็มแรก เธอจะยังไม่ติด แต่ถ้าเธอขัดขืนฉันอีก ฉันจะทำให้เธอติดมัน จนเธอต้องร้องหามันทุกวัน”
“ไม่ ฮึก...นายบ้าไปแล้ว”
“เอ้อ! รู้ก็ดี รู้ไว้ด้วยว่ามึงทำกูเป็นอย่างนี้” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโมโหทำให้เธอนิ่งไป ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอนิ่งสงบ ก่อนที่เธอจะข่มเปลือกตาลง
“มันเป็นเพราะนายทุกอย่าง นายรู้อยู่แก่ใจเคเรนด์” มิล่าไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่านี้ขึ้นมา เขารู้อยู่แก่ใจว่าทำไมเธอถึงอยากเลิกกับเขา ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ต้องการแบบนั้น
เคเรนด์ขมวดคิ้ว เขาไปทำอะไรมาเฟียหนุ่มไม่รู้ เธอย้ำแต่ประโยคเดียว ๆ ว่าเขารู้อยู่แก่ใจและไม่อยากพูดถึงมัน
“มันสำคัญเท่ากูรักมึงหรือไง” แม้ว่าไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร แต่มันทำให้เธอลืมความรักที่เขามอบให้เลยอย่างนั้นหรือ
“เพราะมันทำให้ฉันเกลียดนายไง...” เธอว่าพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมา หญิงสาวเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นว่าเขาจ้องมองเธอ
“เรื่อง...ผู้หญิง?”
“หึ...เคเรนด์ ถ้าเรื่องนั้นฉันไม่ทนคบกับนายมานานขนาดนั้นหรอก” มาเฟียหนุ่มชะงักไป ขณะเดียวกันที่การเหยียดยิ้มของเธอทำให้เขาหงุดหงิด คนมีอำนาจมันก็มาพร้อมกับผู้หญิงอยู่แล้ว เธอกับเขาอยู่ไกลกัน และเขาก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะซื่อสัตย์ทางกายกับเธอ
“ยิ้มทำไมวะ!”
“ออกไปจากห้องฉัน...” มิล่าว่าพร้อมกับยกมือดันแผ่นอกแกร่งของเขาออก ทว่าเขาก็มีแรงเหนี่ยวรั้งเธอมากกว่า
“อย่ามาสั่งฉัน” เขาว่าก่อนจะค่อย ๆ โน้มหน้าลงใช้ริมฝีปากกดจูบที่ริมฝีปากของเธอ มาเฟียหนุ่มไม่สนเสียงสะอื้นไห้ ขณะเดียวกันที่ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบแผ่นหลังบอบบางของเธอ แต่แล้ว
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาสั่นเท่ากับว่าพี่ชายของเขากำลังจะกลับมา ทว่าเขาก็ไม่ละริมฝีปากหนาออกจากริมฝีปากของเธอ สัมผัสนุ่มนวลต่างจากทุกครั้งทำให้มิล่าตกใจ เรี่ยวแรงที่ดันแผ่นอกแกร่งนั้นค่อย ๆ เบาลง
แม้ว่าไม่ได้จูบตอบ แต่เขาก็ช่ำชองทำให้เธอคล้อยตาม มิล่าเกลียดตัวเองที่เผลอใจให้เขา ความเจ็บปวดในร่างกายไม่ได้สอนให้เธอหลาบจำเลยสักครั้ง ทว่า
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดทำให้เคเรนด์ต้องถอนจูบออก เขาสบตากับเธอ เธอบอกว่าไม่ใช่เรื่องผู้หญิงของเขา ใจแกร่งรู้สึกเหมือนกับถูกบีบอัด ราวกับว่าเธออดทนมานานจนมีอะไรบางอย่างทำให้ความรักของเธอมันขาดสะบั้น
“พรุ่งนี้ไปหาฉัน...ไม่งั้นฉันจะมาหาเธอแล้วฉันจะทำให้เธอติดมัน ถ้าเธอไม่อยากเสพติดมัน...ไปหาฉัน”
“_” หญิงสาวไม่ตอบ เขากำลังใช้สารเสพติดผูกมัดเธอไว้ ขณะที่อ้อมแขนของเขาก็ค่อย ๆ คลายออก มาเฟียหนุ่มลงจากเตียงนอนของเธอ เขาเดินไปเปิดหน้าต่างออกก่อนจะหันกลับมามองใบหน้านวล ซึ่งเธอก็เบือนหน้าหนีทันทีที่เขาหันมาหา
มิล่าตกใจที่เขาจะออกทางหน้าต่างเพราะมันสูงมาก เป็นห่วงแต่ก็ทำได้แค่นั่งอยู่บนที่นอน ช่างเขาปะไรสมองคิดอย่างนั้นแต่ใจเจ้ากรรมก็อดไม่ได้อยู่ดีที่จะลุกขึ้นไปดูเขาที่หน้าต่าง
เขาหายไปแล้ว...
ทว่า
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
มิล่าปิดหน้าต่างทันที เธอก้มหน้าลงเก็บเข็มฉีดยาพร้อมกับปลอกเข็มและกระเป๋าขนาดเล็กของเขาเข้าลิ้นชักข้างหัวเตียง ก่อนจะขึ้นเตียงนอนไปนอนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใครคะ...” เธอเอ่ยปากถามเจ้าของเสียงเคาะประตู ก่อนที่มันจะเปิดออก
สายตาคมของคาลเวิร์ตไล่มองทุกอย่างภายในห้องของเธอ เขารู้อยู่แล้วว่าเคเรนด์เข้ามา ทั้งความวุ่นวายในบ่อนที่ไม่เป็นความจริง และรอยนิ้วมือบนคอของเธอ
“ทำไมเงียบกว่าทุกครั้ง” มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ขณะที่คนตัวเล็กพยายามซ่อนแขนของเธอภายใต้ผืนผ้าห่ม มิล่าส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อบอกเขาว่าไม่มีอะไร
หญิงสาวรู้สึกเกลียดตัวเองที่ปกป้องคนที่ทำร้ายตัวเอง เพียงแค่คำว่ารักคำเดียว...เธอไม่อยากให้เขาคนนั้นถูกทำโทษ